เวสต์เทกซัส 80.06 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 83.98 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 พ.ค. 67) ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน

+ ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เทกซัส ปรับเพิ่ม จากข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือน เม.ย. 67 ปรับเพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบกับ เม.ย. ปีที่แล้ว ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย. 67 เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด ส่งผลให้ตลาดคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น

+ ตลาดจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปคและพันธมิตร (OPEC+) ในวันที่ 1 มิ.ย. 67 โดยนักวิเคราะห์คาดว่าที่ประชุมจะยังคงมติปรับลดกำลังการผลิตที่ระดับปัจจุบันต่อไป เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายของซาอุดีอาระเบียและประเทศอื่นๆ

-/+ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 17 พ.ค. 67 เพิ่มขึ้น 1 แท่น อยู่ที่ระดับ 497 แท่น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบสี่สัปดาห์ ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติคงที่อยู่ที่ระดับ 103 แท่น โดยแท่นขุดเจาะทั้งหมดยังต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 16% หรือคิดเป็นจำนวนที่ลดลง 116 แท่น

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่ปรับตัวสูงขึ้นของเม็กซิโก และสหรัฐฯ โดยการนำเข้าน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.97% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย