โรคติดต่อใด มีแนวโน้มเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด ในปี 2568

โรคติดต่อใด มีแนวโน้มเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด ในปี 2568

ไข้หวัดนกขยับขึ้นมาอยู่ในลิสต์ที่เจ้าหน้าสาธารณสุขให้ความสำคัญเกี่ยวกับโรคติดต่ออย่างรวดเร็ว เหตุใดภัยคุกคามนี้จึงไม่หยุดอยู่แค่นี้

KEY

POINTS

Key Pionts:

  • ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A H5N1 ซึ่งบางครั้งเรียกว่า “ ไข้หวัดนก” โดยแพร่กระจายอย่างกว้างขวางในนกที่อาศัยอยู่ ทั้งในป่าและในบ้าน ซึ่งไม่นานมานี้ ระบาดหนักในฟาร์มวัวนมหลายรัฐ

คอเนอร์ มีฮาน รองศาสตราจารย์ด้านชีวสารสนเทศจุลินทรีย์ มหาวิทยาลัยนอตทิงแฮม เทรนต์ สหราชอาณาจักร เขียนบทบรรณาธิการ ซึ่งถูกนำไปเผยแพร่เป็นแห่งแรกทาง The Conversation ระบุว่า โควิด-19 เป็นโรคระบาดเกิดขึ้นฉับพลัน แพร่กระจายรวดเร็ว และคร่าชีวิตผู้คนหลายล้านทั่วโลก ทำให้นับตั้งแต่นั้นมาพูดได้ว่า คนส่วนใหญ่รู้สึกกังวลกับการเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ต่อไป ไม่ว่ามาจากไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา หรือปรสิต

เมื่อโควิด-19 เริ่มลดลง (ต้องขอบคุณวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง) จากนั้นพบว่ามีโรคติดต่อ 3 ชนิด ที่ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องกังวลมากที่สุดคือ 1.มาเลเรีย ติดจากปรสิต

2.เอชไอวี ติดจากไวรัส

3. วัณโรค ติดจากแบคทีเรีย

โดยโลกเหล่านี้คร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 2 ล้านคนต่อปี

นอกจากนี้ ยังมีรายการเฝ้าระวังเชื้อก่อโรคที่สำคัญ โดยเฉพาะเชื้อที่ดื้อยารักษา เช่น ยาปฏิชีวนะ และยาต้านไวรัส

แม้ว่าปัญหาดังกล่าว อาจเกิดขึ้นในสถานการณ์ใดก็ได้ แต่โรคบางกลุ่มมีแนวโน้มทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว รวมถึงไวรัสไข้หวัดใหญ่ด้วย

ขณะนี้ มีไวรัสไข้หวัดชนิดหนึ่งได้สร้างความกังวลอย่างมาก และมีแนวโน้มจะกลายเป็นปัญหาร้ายแรงในปี 2568

ไวรัสชนิดนี้คือ ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A H5N1 ซึ่งบางครั้งเรียกว่า “ ไข้หวัดนก” โดยแพร่กระจายอย่างกว้างขวางในนกที่อาศัยอยู่ ทั้งในป่าและในบ้าน เช่น การแพร่ระบาดในกลุ่มปีก อีกทั้งไม่นานมานี้ ยังระบาดหนักในฟาร์มวัวนมหลายรัฐในสหรัฐ และระบาดในม้า มองโกเลียอีกด้วย

ไข้หวัดนกอันตรายแค่ไหน

เมื่อไข้หวัดนกระบาดในสัตว์ มักเกิดความกังวลว่าอาจแพร่ระบาดสู่คนได้ ในปีนี้มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกในสหรัฐแล้ว 61 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนงานในฟาร์มที่สัมผัสกับวัวติดเชื้อ และคนดื่มนมวัวดิบ

เมื่อเทียบการแพร่ระบาดไข้หวัดนกในภูมิภาคอเมริกาในช่วงสองปีที่ผ่านมา ถือว่าเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่พบว่า อัตราการเสียชีวิตในคนต่อโรคดังกล่าวได้เพิ่มขึ้น 30% ด้วย ดังนั้นไข้หวัดนกจึงขยับขึ้นมาอยู่ในรายการโรคติดเชื้อที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ความสำคัญอย่างรวดเร็ว

โชคดีที่ ไข้หวัดนก สายพันธุ์ H5N1 ดูเหมือนจะไม่แพร่ระบาดจากคนสู่คน จึงช่วยลดโอกาสที่ไวรัสจะแพร่ระบาดในมนุษย์ได้มาก ขณะที่ไวรัสไข้หวัดใหญ่เกาะติดกับโครงสร้างโมเลกุลที่เรียกว่า ไซอาลิก (Sialic) ซึ่งอยู่ภายนอกเซลล์ เพื่อแทรกเข้าไปในเซลล์ร่างกายและเริ่มแบ่งตัวไวรัสตามขั้นตอนการติดเชื้อ

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่ปรับตัวเข้ากับมนุษย์ได้ดี จะจดจำตัวรับไซอาลิก ทำให้สามารถเข้าไปในเซลล์ของร่างกายได้ง่าย ซึ่งส่งผลต่อการแพร่กระจายไวรัสจากคนสู่คน

อย่างไรก็ตาม การศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นว่า การกลายพันธุ์เพียงครั้งเดียวในจีโนมไข้หวัดใหญ่สามารถทำให้ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 แพร่ระบาดจากมนุษย์สู่มนุษย์ได้ดี อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ได้

หากไข้หวัดนกสายพันธุ์นี้ระบาดระหว่างคนสู่คนได้ จำเป็นที่รัฐบาลต้องดำเนินการควบคุมให้ได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ศูนย์ควบคุมโรคทั่วโลกต้องจัดทำแผนรับมือโรคระบาดสำหรับไข้หวัดนกและโรคอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น

ตัวอย่างเช่น สหราชอาณาจักรได้ซื้อวัคซีน H5 จำนวน 5 ล้านโดส  ซึ่งสามารถป้องกันไข้หวัดนกชนิดนี้ได้ เพื่อเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงดังกล่าวในปี 2568

ลดระบาดหนัก หากป้องกัน

เมื่อเราเข้าใจและป้องกันโรคในสภาพแวดล้อมรวมถึงสัตว์ที่อยู่รอบตัวเรา ก็จะสามารถเตรียมการและต่อสู้กับโรคต่างๆ ที่อาจติดต่อสู่มนุษย์ได้ดีขึ้น

ในทำนองเดียวกัน การสำรวจและหยุดยั้งโรคติดเชื้อในมนุษย์ ช่วยก็ให้เราปกป้องสัตว์ และรักษาสภาพแวดล้อมให้ถูกสุขอนามัยด้วย

อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ลืมว่ายังมี “โรคระบาดแบบอย่างช้าๆ” ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในมนุษย์ เช่น มาลาเรีย เอชไอวี วัณโรค และเชื้อโรคอื่นๆ ซึ่งการจัดการกับโรคระบาดเหล่านี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญ ควบคู่ไปกับการค้นหารูปใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 

 

 

อ้างอิง : CNA