เปิดไทมไลน์ล่ามซาอุฯ เสียชีวิตในไทย
สธ.เปิดไทมไลน์ ล่ามซาอุฯ ติดโควิด 19 เสียชีวิตที่รพ.ราชวิถี ระบุมีโรคประจำตัวหลายโรค ไม่สามารถรับยาโควิด 19 ได้ นับเป็นรายที่54 เสียชีวิตในประเทศไทย
จากกรณี นายหมัด มะมิน อายุ 54 ปี ล่ามประจำสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย ติดเชื้อโควิด 19จากการปฏิบัติหน้าที่ที่ซาอุดีอาระเบีย เข้ารักษาตัวใน รพ.กรุงริยาด ต่อมา น.ต.วิทวัส กู้ประเสริฐ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด)ได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำนายหมัดออกจากโรงพยาบาล Ad Diriyah เพื่อเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติKing Khaled และเดินทางกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทยด้วยเครื่องบินนำส่งผู้ป่วย Air Ambulance
วันนี้ ( 18 ก.ย.2563) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยเป็นชายไทยอายุ 54 ปี เป็นล่ามจากสำนักงานแรงงาน ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยตรวจพบติดเชื้อโควิด 19เมื่อ 21 ก.ค.2563 ในประเทศซาอุดิอาระเบีย และมีอาการปอดอักเสบร่วมกับมีภาวะวิกฤติทางระบบหายใจ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล King Fahad Medical City เมื่อ 26 ก.ค.2563จากนั้น ได้เข้าแอดมิดไอซียู เมื่อ 31 ก.ค.2563 และ 10 ส.ค.2563 มีการ CPR และใส่ท่อหายใจ
ทั้งนี้ กรณีนี้มีการป่วยและพบผลโควิดเป็นบวก เมื่อ 21 ก.ค.2563 และเข้ารับการรักษาที่ซาอุดิอาระเบีย และมีการตรวจซ้ำเมื่อ 5 ส.ค.2563 และทางครอบครัวแจ้งความประสงค์ต่อการให้กลับมารักษาในประเทศไทย ดังนั้น จึงส่งตัวผู้ป่วยกลับมาทาง Air Ambulance (เครื่องบินพยาบาล) พร้อมทีมแพทย์ และพยาบาลอินโดนีเซีย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ออกจากริยาด เมื่อ 1 ก.ย.2563และถึงไทยเมื่อ 2 ก.ย.2563
โดยมีทีมแพทย์ศูนย์กู้ชีพนเรนทรรับตัว ต่อจากนั้นเมื่อ 3 ก.ย.2563ผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อยมากขึ้น แพทย์จึงใส่ท่อช่วยหายใจและได้ให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำ เข้ารับการรักษาตั้งแต่ 3-18 ก.ย.2563มีอาการทรุดมาโดยตลอดก่อนเสียชีวิต
ผศ.นพ.พจน์ อินทลาภาพร โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ขณะที่ผู้ป่วยรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี ช่วงแรกมีปัญหาปอดอักเสบ ซึ่งมีมาก่อนการส่งตัวมารักษาในไทย แม้อาการดีขึ้นแต่มีการติดเชื้อจากแบคทีเรียแทรกซ้อน และได้ให้ยารักษาปอดอักเสบต่อเนื่อง แต่ระบบทางเดินหายใจและปอดมีปัญหา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรงจากโควิด 19ก่อนมา
อีกทั้งผู้ป่วยยังมีอาการโรคหัวใจ และมีอาการหัวใจหยุดเต้น ทำให้ต้องปั๊มหัวใจก่อนเดินทางมาไทย และเมื่อเข้ารับการรักษายังมีความเสี่ยงเรื่องโรคหัวใจ ซึ่งตลอดการรักษาพบคลื่นหัวใจมีความผิดปกติมาโดยตลอดก่อนการเสียชีวิต
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่าผู้ป่วยดังกล่าวติดเชื้อจากประเทศซาอุดิอาระเบีย และการส่งตัวกลับมารักษาในประเทศไทย เป็นการส่งตัวผ่านเครื่องบินพยาบาล มีระบบป้องกันการติดเชื้อ ทีมแพทย์-พยาบาลที่ส่ง ไม่ได้เดินทางเข้าประเทศ จึงยืนยันว่าการป้องกันควบคุมโรคเป็นไปด้วยมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม นับว่ารายนี้เสียชีวิตในประเทศไทย แต่ติดเชื้อจากต่างประเทศ เนื่องจากส่งตัวกลับมารักษาในไทย โดยรายนี้รักษาต่อเนื่องตั้งแต่ 26 ก.ค.2563 แต่เปลี่ยนโรงพยาบาลและประเทศที่รักษา รักษาต่อเนื่อง 54 วันถือเป็นรายเสียชีวิตในประเทศไทย