ผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 38 ล้านราย

วันนี้ (13 ตุลาคม) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประเทศไทย วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563 เวลา 11.00 น. พบผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,643 ราย หายป่วยแล้ว 3,457 ราย รักษาตัวอยู่ 127 ราย เสียชีวิตสะสม 59 ราย

รายละเอียดผู้ป่วยรายใหม่ 2 ราย ได้แก่ จากสหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุ 22 ปี อาชีพพนักงานโรงแรม เดินทางมาถึงไทย วันที่ 29 ก.ย. เข้าพักที่ State Quarantine จ.ชลบุรี มีผู้ติดเชื้อเที่ยวบินเดียวกันสองราย ตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 4 ต.ค. (Day 5) ผลไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 10 ต.ค. (Day 11) ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ

และ จากสวีเดน 1 ราย เป็นเพศชายสัญชาติไทย อายุ 52 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป เดินทางถึงไทย 5 ต.ค. เข้าพักที่ Organizational Quarantine ตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 10 ต.ค. (Day 5) ผลพบเชื้อ ลักษณะอาการผู้ติดเชื้อ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 38,035,470 ราย อาการรุนแรง 69,070 ราย รักษาหายแล้ว 28,597,202 ราย เสียชีวิต 1,085,335 ราย อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 8,037,789 ราย 2. อินเดีย จำนวน 7,173,565  ราย 3. บราซิล จำนวน 5,103,408 ราย 4. รัสเซีย จำนวน 1,312,310 ราย 5. โคลอมเบีย จำนวน 919,083 ราย ส่วนประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 140 จำนวน 3,643 ราย

• สหราชอาณาจักร ประกาศพื้นที่สีแดง 

สำหรับประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ สหราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรี เตรียมประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ว่าภูมิภาคลิเวอร์พูล ประกอบด้วย เขตลิเวอร์พูล ฮัลตัน โนว์สลีย์ เซฟตัน เฮเลนส์ และเวอร์รัล “จะอยู่ภายใต้พื้นที่สีแดง” ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ถือเป็นภูมิภาคแห่งแรกของสหราชอาณาจักร ที่จะเข้าสู่มาตรการจำกัดการรวมตัวนอกเคหสถาน การปิดบริการ “สถานที่ไม่จำเป็น” เช่น ผับ บาร์ และฟิตเนส และการห้ามเดินทางเข้าและออกจากพื้นที่ อยู่ภายใต้พื้นที่สีแดงยกเว้นมีกิจฉุกเฉินหรือจำเป็นในระดับสูงสุด

• ฝรั่งเศส ขาดแคลนพยาบาล 3.4 หมื่นคน

รัฐบาลฝรั่งเศส เตรียมยกระดับเมืองตูลูซและเมืองมองต์เปอลิเยร์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในกลุ่ม “สีแดงเข้ม” เป็นกลุ่มเมือง “สีแดงเลือดหมู” ซึ่งหมายถึง มีความเสี่ยงสูงสุดในการติดเชื้อโควิด-19 โดยมาตรการควบคุมทางสังคมที่เข้มงวดมากขึ้น จะมีผลบังคับใช้อย่างน้อย 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ของฝรั่งเศส เข้าสู่ระลอกสองเร็วกว่าทุกฝ่ายคาดการณ์ไว้ กำลังเพิ่มแรงกดันอย่างหนักให้บุคลากรทางการแพทย์ โดยสมาคมแพทย์แห่งฝรั่งเศสให้ข้อมูลว่า ขณะนี้กำลังขาดแคลนพยาบาล ประมาณ 34,000 คน

• สิงคโปร์- อินโดฯ ไฟเขียวนักธุรกิจข้ามประเทศ 26 ต.ค.นี้

ประเทศสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ประกาศเตรียมเปิดพรมแดนให้นักธุรกิจและเจ้าหน้าที่สามารถเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างกันได้ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. นี้ ก่อนที่จะเปิดพรมแดนเพื่อการท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปในเร็วๆ นี้ โดยกระทรวงการต่างประเทของสิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทั้งสองปะรเทศจะจัดตั้งช่องทางพิเศษ (Green Lane) เพื่อการท่องเที่ยวข้ามแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่จำเป็นทางด้นธุรกิจ และการติดต่องานราชการ ภายใต้โครงการดังกล่าว ผู้เดินทางจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และความปลิดภัยด้านสาธารณสุข ตามที่ตกลงร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งก่อนออกเดินทางและเมื่อเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง