แนะ 5 วิธีแก้ง่วง ลดอุบัติเหตุทางถนน
กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชนระมัดระวังการขับรถทางไกลกลับเข้ากรุงเทพฯ เพราะบางพื้นที่อาจมีฝนตก พร้อมแนะ 5 วิธีแก้ง่วงเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน
วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2564) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในช่วง 28 ก.พ.-2 มี.ค. 64 นี้ หลายพื้นที่ในประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง นั้น กรมควบคุมโรค ขอเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องขับขี่รถเพื่อเดินทางกลับเข้ามาในกรุงเทพฯ หลังกลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุดยาวนี้ ขอให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง รวมถึงอันตรายในช่วงฝนตกลมแรง ซึ่งจะทำให้ถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี และหากฝนตกหนักอาจทำให้ถนนและในบางพื้นที่มีน้ำท่วมขังได้
กรมควบคุมโรค ขอแนะนำว่าก่อนเดินทางทุกครั้ง ขอให้เตรียมรถและคนให้พร้อม โดยผู้ขับขี่ต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและไม่รับประทานยาที่ทำให้ง่วง เช่น ยาลดน้ำมูก ยาภูมิแพ้ ยาแก้ไอ เป็นต้น พักผ่อน ให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง มีการตรวจเช็คความพร้อมของยานพาหนะ เช่น ตรวจลมยาง ไฟส่องสว่างและไฟเลี้ยว ระบบเบรก เป็นต้น ขับรถด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง หากขี่รถจักรยานยนต์ให้สวมหมวกนิรภัยตลอดการเดินทาง
ในขณะเดินทางหากมีฝนตก ขอแนะนำให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ โดยเปิดไฟต่ำเพื่อช่วยให้มองเห็น เปิดใบปัดน้ำฝน ลดความเร็ว ให้ทิ้งระยะห่างจากคันหน้า เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถเพิ่มขึ้น หลีกเลี่ยงการแซง แต่หากจำเป็นต้องประเมินสถานการณ์ก่อนทุกครั้ง และเมื่อต้องขับรถผ่านจุดที่มีน้ำท่วมขัง ให้ชะลอรถหรือหากน้ำท่วมสูงให้หยุดประเมินสถานการณ์ก่อนและขับผ่านด้วยความระวัดระวัง
นอกจากนี้ ขอแนะนำ 5 วิธีแก้ง่วงในระหว่างเดินทาง ได้แก่ 1.หาเครื่องดื่มช่วยเพิ่มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเย็น ที่สามารถเพิ่มความสดชื่นและทำให้ตื่นตัวได้เป็นอย่างดี 2.หาของทานเล่นระหว่างขับรถ เช่น มันฝรั่ง ลูกอม หมากฝรั่ง บ๊วย ผลไม้รสเปรี้ยว 3.เปิดหน้าต่างรถ เพื่อให้อากาศถ่ายเท และควรเตรียมผ้าชุบน้ำไว้เช็ดหน้าด้วย 4.เปิดเพลงดังๆ จังหวะเร็วๆ ร้องตาม จะช่วยสร้างความครื้นเครงและทำให้ตื่นตัวขณะขับรถ และ 5.ขยับร่างกายเปลี่ยนแปลงอิริยาบถ ควรจอดพักรถทุกๆ 150 กิโลเมตร หรือทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพราะการขับรถนานๆ จะทำให้มีอาการง่วง การได้ขยับร่างกายจะช่วยลดการเมื่อยล้าได้
นพ.โอภาส กล่าวเน้นย้ำว่า ขอให้ประชาชนดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลขณะเดินทาง โดยใช้มาตรการป้องกันโควิด 19 อย่างเคร่งครัด สวมหน้ากาก 100% รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด 19 พร้อมทั้งสแกน “ไทยชนะ” ก่อนเข้า-ออกสถานที่สาธารณะทุกครั้ง และขออวยพรให้ประชาชนเดินทางกลับเข้ามาในกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ ไร้อุบัติเหตุ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422