‘PAHs’ เพชฌฆาตที่มองไม่เห็น สารก่อมะเร็งจาก ‘โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้’
จากกรณี “โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้” ผู้เชี่ยวชาญแนะควรประเมินความเสี่ยงรับสาร “PAHs” ที่ลอยอยู่ในอากาศแม้จะมองไม่เห็น เพื่อดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม
ถึงแม้โศกนาฏกรรม โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ อย่างรุนแรง จะไม่ได้คร่าชีวิตผู้คนให้ล้มตายเป็นจำนวนมากในทันที แต่ก็มีความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ และความเดือดร้อนของประชาชนจำนวนมหาศาล ทว่าการที่โรงงานแห่งนี้มีการใช้สารสไตรีน (Styrene monomer) และเพนเทน (Pentane) ในกระบวนการผลิตเม็ดโฟมและเม็ดพลาสติก การที่สารเคมีเหล่านี้ถูกเผาไหม้แล้วกลายเป็นกลุ่มควันลอยสู่อากาศ อาจเป็นหายนะของสิ่งมีชีวิตที่สูดดมรับสารเข้าร่างกายแบบตายผ่อนส่ง
สำหรับสไตรีนซึ่งเป็นสารประกอบอะโรมาติกถ้าเกิดการเผาไหม้จะเกิดเป็นสารกลุ่ม โพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน หรือ PAHs, อนุภาคฝุ่น PM2.5, Carbon monoxide (CO), Nitrogen oxides (NOx) ซึ่งถ้าสูดดมเข้าไปจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “PAHs” ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่สำคัญ
“สาร PAHs” เป็นสารมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารอินทรีย์ต่างๆ เช่น การเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงและถ่านหิน ไอเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม ไอเสียจากเครื่องยนต์ เขม่าควันไฟ ควันธูป ควันบุหรี่ อาหารปิ้งย่าง อาหารรมควัน ยาหรือเครื่องสำอางบางชนิด ซึ่ง “PAHs” จะปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมได้ทั้งในดิน น้ำ และอากาศ เข้าสู่ร่างกายเราโดยการสัมผัส สูดดม หรือบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อน “PAHs” ในปริมาณมากๆ
ผู้จัดการอาวุโส ห้องปฏิบัติการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์จำกัด (NHealth) อย่าง ดร.ภูวดล ธรรมราษฎร์ ให้ข้อมูลว่า “PAHs” มีคุณสมบัติเป็นอนุมูลอิสระ (Free Radical) ซึ่งเป็นอันตรายต่อเซลล์และเนื้อเยื่อของมนุษย์ การได้รับในปริมาณมากอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย เช่น ระบบภูมิคุ้มกันลดลง ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา ปอดถูกทำลาย มีอาการคล้ายหอบหืด นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า “PAHs” เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์และก่อมะเร็งได้
การตรวจประเมินการรับสัมผัสสาร “PAHs” คือการตรวจวัดระดับสาร 1-Hydroxypyrene (1-OHP) ในปัสสาวะซึ่งใช้เป็นตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ (Biomarker) สำหรับตรวจติดตามระดับการได้รับ “สาร PAHs” ในร่างกายได้ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Liquid Chromatography Tandem Mass Spectrometry (LC-MS/MS) ซึ่งมีความจำเพาะต่อโมเลกุลของสารที่ตรวจและให้ผลการวิเคราะห์ที่ถูกต้องแม่นยำ
ประโยชน์ของการตรวจหาสาร PAHs เพื่อที่จะทราบว่าร่างกายได้รับสารดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน และอยู่ในระดับที่เสี่ยงหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ ซึ่งทำให้สามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการดูแลสุขภาพหรือหาทางป้องกันได้อย่างเหมาะสม “รวมถึงสามารถใช้ประเมินความเสี่ยงหรือเฝ้าระวังสำหรับประชาชนที่อยู่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรมหรืออยู่ในเขตที่เกิดอุบัติเหตุสารเคมีระเบิดหรือลุกไหม้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงควรได้รับการตรวจวัดระดับสาร 1-OHP ในปัสสาวะหลังปฏิบัติงานทันที
สำหรับวิธีป้องกันตัวเองจากสารมลพิษทางอากาศที่ดีและง่ายที่สุด มีดังนี้
- สวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูกเพื่อกันควันหรือฝุ่นหากเป็นไปได้ควรเป็นชนิด N95
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีควันหรือฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน
- หลีกเลี่ยงการจราจรช่วงติดขัด
- เปิดเครื่องฟอกอากาศ
- หมั่นทำความสะอาดที่อยู่อาศัย
เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดการสัมผัสฝุ่นและมลพิษได้แล้ว