เช็คอาการ "มะเร็งสมอง" แค่ไหนที่ต้องระวัง

เช็คอาการ "มะเร็งสมอง" แค่ไหนที่ต้องระวัง

เช็คสัญญาณเตือน "โรคมะเร็งสมอง" ภัยร้ายที่คร่าชีวิต "อ๊อด คีรีบูน" มีวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้น และแนวทางการป้องกันอย่างไร รวมถึงทำความรู้จัก "โรคเนื้องอกในสมอง" ที่นำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งสมองได้

จากข่าวร้ายกรณีการสูญเสีย "รณชัย ถมยาปริวัฒน์" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "อ๊อด คีรีบูน" เป็นนักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลงชาวไทย อดีตนักร้องนำและหัวหน้า "วงคีรีบูน" ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 57 ปี จาก "โรคมะเร็งสมอง" ทำให้เพื่อนร่วมวงการและแฟนเพลงต่างแสดงความไว้อาลัยกับจากไปของตำนานนักร้องชื่อดัง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนทำความรู้จัก "โรคมะเร็งสมอง" รวมถึง "โรคเนื้องอกในสมอง" เพื่อเป็นแนวทางในการสังเกตอาการและการดูแล ป้องกันภัยร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเองได้

มะเร็งสมองเกิดจากอะไร

มะเร็งสมอง (Brain Cancer) คือ โรคที่เกิดจากเนื้องอกบริเวณสมองที่กลายเป็นเนื้อร้าย เซลล์มะเร็งจะอาศัยเลือดและสารอาหารจากร่างกายไปหล่อเลี้ยงเนื้อร้ายให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเนื้อร้ายอาจเกิดขึ้นเองที่เนื้อเยื่อสมอง หรือเกิดจากการลุกลามของมะเร็งที่มาจากอวัยวะส่วนอื่น ๆ เช่น ปอด เต้านม ไต ลำไส้ใหญ่ หรือผิวหนัง เป็นต้น

โรคมะเร็งสมองสามารถแพร่กระจายและทำลายเนื้อเยื่อที่ดีในบริเวณรอบข้างได้ทำให้มีโอกาสที่มะเร็งสมองจะกลับมาได้อีกถึงแม้เคยผ่านการรักษามาแล้วก็ตาม

สัญญาณเตือน มะเร็งสมอง

อาการของโรคมะเร็งสมอง จะขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งที่พบของเนื้องอก ซึ่งอาการที่พบอาจมีสาเหตุหรือมีผลข้างเคียงมาจากความผิดปกติอย่างอื่นที่เป็น “สัญญาณเตือน” อาทิ

  • ปวดศีรษะอย่างรุนแรงในตอนเช้า
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • เป็นลมหมดสติ
  • ซึมลง มีอาการชัก
  • อ่อนแรงและชาบริเวณแขนและขา
  • กล้ามเนื้อกระตุก มีปัญหาการทรงตัวหรือเดินลำบาก
  • มีปัญหาทางความคิด สติปัญญา อารมณ์ หรือสูญเสียความทรงจำ
  • มีปัญหาในการพูดและการมองเห็น
  • มีปัญหาบุคลิกภาพที่เปลี่ยนแปลงไป

ความเสี่ยงของมะเร็งสมอง

สิ่งใดบ้างที่เป็น ปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่มะเร็งสมอง

  • การสูบบุหรี่
  • มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นโรคมะเร็ง
  • เคยเป็นโรคมะเร็งในส่วนอื่น ๆ ของร่างกายที่สามารถแพร่กระจายมายังสมองได้ เช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งไต มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ รวมถึงมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (Melanoma)
  • การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น เชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV)
  • การสัมผัสสารกัมมันตภาพรังสี สารเคมี รวมไปถึงยากำจัดศัตรูพืชที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
  • การทำงานเกี่ยวกับสิ่งที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง เช่น พลาสติก ตะกั่ว ยาง น้ำมัน รวมถึงสิ่งทอบางชนิด

 

สัญญาณอันตรายอื่น ๆ ที่อาจเป็นมะเร็งสมอง

หากพบอาการร่วมด้วยดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

  • อาเจียนบ่อยและไม่สามารถอธิบายสาเหตุของการอาเจียนนั้นได้
  • มองเห็นภาพซ้อน มองไม่ชัด โดยเฉพาะที่ตาข้างใดข้างหนึ่ง
  • ง่วงซึม หรือง่วงนอนอย่างผิดปกติ
  • ปวดศีรษะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

หากมีอาการหรือความเสี่ยงเหล่านี้ แพทย์มักแนะนำตรวจ MRI Brain (ตรวจสมอง) เพราะสามารถตรวจดูเนื้อสมอง ก้อนต่าง ๆ รวมไปถึงการแพร่กระจายของมะเร็งได้เป็นอย่างดีทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

นอกจากมะเร็งสมองแล้ว เนื้องอกในสมองก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่ต้องระวังและสังเกตอาการตนเอง เพราะอาจนำไปสู่โรคมะเร็งสมองได้เช่นกัน

เนื้องอกในสมองคืออะไร

เนื้องอกในสมองเป็นโรคที่พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กๆ วัยรุ่น ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่มีอายุมาก โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเอง แต่อาจมีผู้ป่วยบางรายที่พบว่ามีความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็น ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในสมองจะทำให้มีญาติพี่น้องเป็นโรคทุกคน ยังมีสาเหตุอื่นที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงได้ เช่น การเป็นมะเร็งที่ส่วนอื่นของร่างกายซึ่งมีโอกาสกระจายไปที่สมอง

ประเภทของเนื้องอกในสมอง

โดยทั่วไป เนื้องอกในสมองแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • เนื้องอกของเซลล์ที่อยู่ที่สมองเอง ซึ่งจะแบ่งออกเป็นชนิดที่เป็นเนื้อร้ายกับชนิดที่ไม่ใช่เนื้อร้าย โดยส่วนใหญ่มักพบชนิดที่ไม่ใช่เนื้อร้ายมากกว่า
  • เนื้องอกที่กระจายมาจากส่วนอื่นของร่างกายและลุกลามมาที่สมอง

อาการของเนื้องอกในสมอง

อาการของโรคเนื้องอกในสมองมีหลายรูปแบบ แต่อาการที่พบได้เป็นส่วนใหญ่และควรรีบมาพบแพทย์ ได้แก่

  • อาการปวดศีรษะ เป็นอาการที่พบได้บ่อย ซึ่งโดยทั่วไปผู้ป่วยโรคทางสมองประมาณ 60-70% จะมีอาการปวดศีรษะอยู่แล้ว แต่สำหรับโรคเนื้องอกในสมองจะมีอาการเฉพาะเจาะจง เช่น
  • อาการปวดศีรษะติดต่อกันเป็นระยะเวลานานพอสมควร อาจจะหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน และมีอาการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
  • อาการปวดศีรษะตอนกลางคืน จนอาจทำให้ต้องตื่นขึ้นมากลางดึก
  • อาการอ่อนแรงของร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือมีการทำงานของเส้นประสาทบางเส้นอ่อนแรงไป ส่วนใหญ่อาการนี้มักค่อยเป็นค่อยไป และจะมีอาการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลา เช่น แขนอ่อนแรง อาจเริ่มจากอ่อนแรงเล็กน้อย เมื่อเวลาผ่านไปก็อ่อนแรงมากขึ้น ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการหน้าเบี้ยวหรือหูไม่ได้ยินได้
  • อาการที่เกิดจากมีการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท เช่น อาการกระตุก ชัก โดยเฉพาะอาการชักเฉพาะที่ เช่น ชักเฉพาะแขน หรือชักเฉพาะขา หรือมีหน้ากระตุกอย่างเดียว เป็นต้น หรืออาการชักในผู้สูงอายุที่ไม่เคยมีอาการมาก่อน ก็อาจมีสาเหตุจากเนื้องอกได้เช่นกัน

วิธีวินิจฉัยโรคเนื้องอกในสมอง

สำหรับการวินิจฉัยโรคเนื้องอกในสมอง นอกเหนือจากการซักประวัติและตรวจร่างกายแล้ว แพทย์อาจทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยการตรวจสมองโดยใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้เห็นภาพในสมอง ช่วยให้แพทย์สามารถบอกชนิดของเนื้องอกหรือคาดการณ์ได้มากขึ้นว่าเนื้องอกนั้นน่าจะเป็นอะไร รวมถึงช่วยวางแผนในการรักษาได้ด้วย

การรักษาเนื้องอกในสมอง

ปัจจุบัน แนวทางการรักษาเนื้องอกในสมองมีอยู่ 3 วิธีหลัก ๆ คือ การผ่าตัด การฉายรังสี และการให้ยาเคมีบำบัด ซึ่งแพทย์จะพิจารณาเลือกแนวทางการรักษาโดยพิจารณาจากหลายปัจจัย อาทิ อาการของผู้ป่วย ตำแหน่งของเนื้องอก และขนาดของเนื้องอก

หากผู้ป่วยมีเนื้องอกที่ไม่ได้ทำให้เกิดอาการและมีขนาดเล็กมาก อยู่ในตำแหน่งของสมองที่ไม่ได้ทำให้เกิดการสูญเสียการทำงานของร่างกาย อาจเพียงแค่ติดตามอาการเพื่อดูว่ามีการขยายตัวของเนื้องอกเพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจึงค่อยทำการรักษา

แต่ถ้าเนื้องอกมีขนาดใหญ่พอสมควรและทำให้เกิดอาการ เช่น อ่อนแรงหรือปวดศีรษะมาก ก็จำเป็นต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาก้อนเนื้องอกออกไป ในกรณีที่ผ่าตัดเนื้องอกออกไปแล้ว พบว่าเป็นเนื้อร้ายก็อาจต้องทำการฉายรังสีหรือให้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย

----------------------------

ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์

อ้างอิง 1

อ้างอิง 2