วิธีเอาชนะปัญหาสุขภาพจิตในผู้ป่วย"หัวใจล้มเหลว"
เมื่อป่วยเป็นโรค"หัวใจล้มเหลว" นอกจากปัญหาร่างกาย ยังมีปัญหาสุขภาพจิต เมื่อตกอยู่ในภาวะเครียดหรือซึมเศร้า ต้องมีวิธีการดูแลจิตใจไม่ให้ย่ำแย่ไปกว่านั้น
การใส่ใจดูแลสุขภาพจิตมีความสำคัญต่อความแข็งแรงของสุขภาพกาย รวมถึง “หัวใจ” อวัยวะที่ทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตเพื่อไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ล่าสุดโครงการ Hug Your Heart โดย แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย เชิญ นายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มาให้คำแนะนำด้านการป้องกันและรักษา ปัญหาสุขภาพด้านหัวใจ ที่สามารถทำได้ด้วยการรู้จักดูแลสุขภาพจิต
ปัญหาสุขภาพจิตในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจ
ปัญหาด้านสุขภาพจิตในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ
ประเภทแรกคือ โรคเครียดหรือโรควิตกกังวล (Anxiety) มีความกังวลหรือความกลัวต่อโรคที่เป็นว่าจะมีอาการหนักเพียงใด จะเสียชีวิตเมื่อใด หรือจะรักษาได้จริงหรือไม่
เนื่องด้วยโรคหัวใจมักมีอาการที่ซับซ้อน ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อย ผู้ป่วยจึงมักเกิดความรู้สึกไม่มั่นคง จึงเกิดความเครียดจนเกิดอาการ อาทิ นอนไม่หลับ ปวดหัวเรื้อรัง หรือใจสั่น
โดยบางอาการก็แยกจากโรคหัวใจได้ยาก เช่น หายใจไม่อิ่ม ใจไม่ดี ตกใจง่าย หรือไม่กล้าออกจากบ้านคนเดียว
ส่วนกลุ่มที่สองคือกลุ่มที่มี Negative symptoms หรือภาวะซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากการที่ผู้ป่วยรู้สึกหมดหวัง ท้อแท้ และมองว่าตนเองไม่มีค่า
นายแพทย์รังสฤษฎ์ กล่าวว่า มากถึง 1 ใน 3 ของคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลว (Heart failure) มีภาวะซึมเศร้า และกว่า 50% มีภาวะซึมเศร้าชนิดรุนแรง ขั้นคิดอยากฆ่าตัวตายหรือไม่ให้ความร่วมมือต่อการรักษาใดๆ หากคนไข้จำนวนไม่น้อยไม่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะซึมเศร้า
"หมอส่วนใหญ่จะวินิจฉัยทางกายเป็นหลัก ด้วยข้อจำกัดด้านเวลาที่ทำให้ไม่สามารถพิจารณาได้ในทุกมิติ รวมถึงคนไข้เองก็อาจจะไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วน”
ระบบประสาทกับปัญหาสุขภาพจิต
ระบบประสาทของมนุษย์มี 2 ระบบ คือ ระบบ Sympathetic ซึ่งทำหน้าที่เป็น “คันเร่ง” คอยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ และระบบ Para-sympathetic ทำหน้าที่เป็น “เบรก” คอยชะลอไม่ให้หัวใจทำงานหนักเกินไป
ตอนที่เกิดความเครียดหรืออาการซึมเศร้า ระบบคันเร่งจะได้รับการกระตุ้น ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น หลอดเลือดหดเกร็ง และความดันสูงขึ้น
“ความเครียดส่งผลให้ความดันขึ้น และหัวใจเต้นเร็วตามการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีเรื่องฮอร์โมนที่หลั่งออกมาส่งผลกระทบต่อหลอดเลือดและหัวใจโดยตรงอีก ทำให้หัวใจโตมากขึ้นและบีบตัวแย่ลง
กลไกเหล่านี้เร่งให้เกิดความเสื่อมทางสมรรถภาพการทำงานของหัวใจ ก็ทำให้คนไข้ยิ่งต้องมาโรงพยาบาลซ้ำ และนำไปสู่อัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้น สิ่งที่เกิดนี้คือวงจรอุบาท จากหัวใจที่มีสภาพแย่อยู่แล้ว เมื่อมีปัญหาจิตใจที่ไม่ได้รับการแก้ไข ก็ทำให้หัวใจมีสภาพแย่ลงไปอีก” นายแพทย์รังสฤษฎ์ กล่าว
วิธีเอาชนะปัญหาสุขภาพจิตในผู้ป่วยหัวใจล้มเหลว
-มีความเข้าใจกับการรักษาโรคที่ถูกต้อง
โรคหัวใจล้มเหลวเป็นโรคที่รักษาได้ แม้ไม่หายขาด แต่การปฏิบัติตามแผนการรักษาจะทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ดีและยืนยาวได้
-การดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวเป็นการดูแลแบบบูรณาการ หรือกระบวนการต่อเนื่องระยะยาว โดยมีแพทย์ให้การวินิจฉัยและมีพยาบาลให้คำแนะนำด้านการดูแลผู้ป่วย
-รักษาด้วยยาและแผนการรักษาอย่างครบถ้วน และต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์
ผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวต้องได้รับการส่งเสริมจากครอบครัวให้มั่นใจที่จะกินยาและปฏิบัติตามแผนการรักษาอย่างถูกต้องคือครบถ้วนและต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ห้ามหยุดหรืองดกินยาเองโดยไม่มีคำแนะนำของแพทย์ โดยผู้ป่วยที่กินยาและปฏิบัติตามแผนการรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ มีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตต่ำกว่าผู้ป่วยที่ไม่ทำตามคำแนะนำของแพทย์ ถึง 10 เท่า