“3 อ.” ดูแลสุขภาพคนวัยทำงาน เตรียมตัวสู่ "ผู้สูงวัย" คุณภาพ
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคม "ผู้สูงวัย" พร้อมกับมีคนวัยทำงานจำนวนมากจะกลายเป็น “ผู้สูงอายุ” แนะใช้ “3 อ.” อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ เพื่อดูแลตัวเองให้แข็งแรง เตรียมพร้อมเป็นผู้สูงวัยสุขภาพดีในอนาคต
เมื่อโครงสร้างสังคมเปลี่ยนไป ตัวเลขอายุเฉลี่ยขยับขึ้น วันนี้เราเป็นคนวัยทำงาน แต่อีกไม่กี่ปีก็จะเป็น ผู้สูงวัย แต่เราจะเป็นผู้สูงอายุที่ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการอย่างมีความสุข ต้องเริ่มต้นดูแลตัวเองให้แข็งแรงตั้งแต่วันนี้ด้วย 3 อ. อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์
กินผักเป็นหลัก (Credit: healthharvard.edu)
จากงานประชุมวิชาการโภชนาการแห่งชาติครั้งที่ 15 เมื่อไม่นานมานี้ นักวิชาการจากหลายสาขา นำเสนอแนวคิดการดูแลตัวเองสำหรับคนวัยทำงาน เนื่องจากคนวัยนี้มีภาระความรับผิดชอบมากมาย ทั้งเรื่องงานและชีวิตครอบครัว ถ้ามีลูกและมีผู้สูงอายุในครอบครัวก็ยิ่งเพิ่มภาระมากขึ้น อาจส่งผลให้ละเลยการดูแลสุขภาพและใช้ชีวิตไม่สมดุล ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และเสี่ยงต่อการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือโรค NCDs
ดร. สุพิชชา วงค์จันทร์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ กองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า
“ปัจจุบัน ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการตายด้วยโรคนี้สูงถึง 75% หรือราว 3.2 แสนคนต่อปี
ดร.สุพิชชา วงค์จันทร์
ซึ่งหากไม่มีการป้องกันตั้งแต่วันนี้จะทำให้จำนวนผู้ป่วยมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในคนวัยทำงานที่มีภาระเยอะที่สุด และต้องรับผิดชอบคนทุกวัยในครอบครัว ดังนั้นถ้าวัยทำงานยังมีความเสี่ยงในการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ก็จะเป็นผู้สูงอายุที่แข็งแรงไม่ได้
ดังนั้น คนวัยทำงานควรหันมาให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพพื้นฐานของตัวเอง อาจเริ่มทีละน้อย แต่ทำให้ต่อเนื่อง เช่น การสร้างพฤติกรรม 3 อ. 2 ส. คือดูแลเรื่อง อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ รวมถึงลดและงดดื่มสุราและการสูบบุหรี่
กินผักผลไม้หลากสี (Credit: healthjade.com)
อาหาร : ควรรับประทานผักให้ได้มากกว่า 5 ทัพพีต่อวัน ลดอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็มจนเกินไป รับประทานอาหารเช้าให้สม่ำเสมอ ลดความเร่งรีบในมื้อกลางวัน ลดปริมาณอาหารมื้อเย็น และหลีกเลี่ยงอาหารว่างที่ไม่มีประโยชน์ ทั้งหมดนี้เพื่อป้องกันการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่จะนำไปสู่โรคร้ายแรงต่าง ๆ ได้”
ดร.สง่า ดามาพงษ์
ดร.สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยฯ ชี้ว่า “นอกจากการหมั่นออกกำลังกายและเลี่ยงการกินอาหารที่ไม่เหมาะสมแล้ว คนวัยทำงานควรระวังเรื่องความเครียด เพราะจะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หลั่งและอยากกินอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารรสหวานและมัน ซึ่งอาจเกิดการสะสมไขมันในช่องท้อง อ้วนลงพุง และเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs ได้ง่ายขึ้น
คนวัยทำงานจึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่วัยสูงอายุด้วยสุขภาพกายที่แข็งแรง ไปพร้อม ๆ กับการสร้างสุขภาพจิตใจที่สดชื่นแจ่มใสเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการดูแลครอบครัว”
กนกทิพย์ ปริญญานุสสรณ์
กนกทิพย์ ปริญญานุสสรณ์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมความร่วมมือด้านโภชนาการและสุขภาพ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด บอกว่า
“เราเข้าใจถึงความท้าทายของคนวัยทำงาน และเห็นความสำคัญของคนกลุ่มนี้ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนในการสร้างสังคมสูงวัยที่มีสุขภาพดีอย่างยั่งยืนในอนาคต เราจึงมุ่งมั่นและร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน อาทิ ภาครัฐ นักวิชาการ ธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อรวมพลังกันสร้างสรรค์องค์ความรู้และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ (Credit: medicalnewstoday.com)
เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป จนอาจทำให้ละเลยการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนสท์เล่จึงจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้าน 3 อ. ที่เข้าใจง่ายและปฏิบัติได้ แนะนำเคล็ดลับสุขภาพดีแบบองค์รวม
รวมทั้งจัดทำแบบทดสอบการเช็คอายุร่างกาย (https://bit.ly/3G08D5G) เพื่อสร้างความตระหนักและส่งเสริมให้คนวัยทำงานดูแลสุขภาพเพื่อสร้างสมดุลกายใจด้วยวิธีง่าย ๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และทำให้สม่ำเสมอ เพื่อก้าวผ่านความท้าทายที่เกิดขึ้นทั้งที่ทำงานและที่บ้าน เตรียมพร้อมในการเข้าสู่ช่วงอายุที่มากขึ้นอย่างแข็งแรงในอนาคต”
กินอาหารสุขภาพ (Credit: englishclub.com)
เริ่มต้นวันนี้ยังไม่สาย กลับมาดูแลตัวเอง คือ 3 อ. อาหาร ออกกำลัง และอารมณ์ ที่ได้ยินกันจนชิน แต่อาจละเลยไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร
อ.อาหาร กินอาหารให้ครบ 3 มื้อ และครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักผลไม้เพื่อกระตุ้นการขับถ่ายและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง โดยสามารถดูไอเดียเมนูสร้างสรรค์เพื่อกินผักผลไม้ให้มากขึ้นได้ที่ https://www.nestle.co.th/th/nhw
และควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือประมาณ 1.5 ลิตร เพื่อคืนความสดชื่น ให้สมองตื่นตัว ช่วยรักษาสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย วัยทำงานเป็นวัยที่ชีวิตประจำวันเร่งรีบ
การมองหา สัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ บนฉลากของผลิตภัณฑ์ ถือเป็นทางเลือกที่ประหยัดเวลาและสะดวกต่อการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มที่มีโภชนาการที่ดีกว่า คือมีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และโซเดียม อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
ออกกำลังกาย (Credit: globalsportmatters.com)
อ.ออกกำลังกาย : พักคลายกล้ามเนื้อ ยืดเหยียด คอ หลัง ไหล่ มือ หรือลุกขึ้นขยับตัวทุก ๆ 1 ชั่วโมง และเพิ่มการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น เพิ่มอัตราการเผาผลาญแคลอรีที่ได้รับ ช่วยควบคุมน้ำหนักให้คงที่
อ.อารมณ์ : ทำอารมณ์ให้สดใส ยิ้มแย้มพร้อมตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ในแต่ละวัน ควรจัดสรรเวลาเบรกงาน เพื่อพักสมอง โดยอาจฟังเพลงเบา ๆ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ ช่วยให้อารมณ์แจ่มใส ไม่เกิดภาวะเครียดสะสม การนอนพักผ่อนให้เพียงพอก็ช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งและอารมณ์ดีได้
(Credit: thinkhealthmag.com)
ยังมีอีกเรื่องคือ ปรับทัศนคติทำความเข้าใจผู้สูงวัย สร้างความสุขในครอบครัว เรื่องนี้คนวัยทำงานเครียดไม่แพ้เรื่องงาน คือการดูแลผู้สูงอายุในบ้าน ต้องรับมือกับความไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของผู้สูงอายุ
ธนากร พรหมยศ ผู้ก่อตั้ง “ยังแฮปปี้” (YoungHappy) คอมมูนิตี้สำหรับผู้สูงอายุ ให้ความเห็นว่า
“หลาย ๆ บ้านอาจมีปัญหาเรื่องความไม่เข้าใจของคนต่างวัย วิธีแก้ปัญหาคือให้เราลองคิดว่าตัวเองเป็นพ่อหรือแม่ที่อายุมากแล้ว จินตนาการว่าเริ่มเดินช้าลง ทำอะไรลำบากมากขึ้น หรือหลง ๆ ลืม ๆ และจะเข้าใจได้ว่าตอนนี้ผู้สูงวัยเองกำลังเจอเรื่องพวกนี้เหมือนกัน
ดังนั้น การจะทำให้ผู้สูงวัยรับฟังหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง จำเป็นจะต้องสร้างกุศโลบายทำให้ผู้สูงวัยเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการหากิจกรรมทำร่วมกัน หาพื้นที่ให้เขาเรียนรู้เรื่องราวสิ่งใหม่ ได้เจอกับคนรุ่นใหม่ และมีสังคมของตัวเองบ้าง เพราะผู้สูงวัยบางส่วนมักไม่เชื่อคนในครอบครัวแต่จะเชื่อคนอื่นที่เขาได้พบเจอมากกว่า”