จาก "Work From Home" สู่ Work from Anywhere เพิ่มประสิทธิภาพทำงาน 13%
ในช่วงวิกฤติ โควิด-19 หลายองค์กรต้องทำงานที่บ้าน หรือ "Work From Home" จนกระทั่ง วิกฤติโควิดผ่านพ้นไป ปัจจุบัน มีการทำงานอีกรูปแบบหนึ่งคือการทำงานที่ไหนก็ได้หรือ Work From Anywhere มีการศึกษาพบว่าช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่ม 13% ใน 9 เดือน
ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ทั่วโลกต้องพบเจอกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อการทำงานขององค์กรต่างๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งแต่ละองค์กรก็จำเป็นต้องให้พนักงานทำงานที่บ้านหรือ Work from home (WFH) เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ประเทศไทยก็จำเป็นต้องใช้มาตรการดังกล่าวเช่นกัน แต่ปัญหาที่พบคือความพร้อมในการจัดการเนื่องจากเป็นสถานการณ์เร่งด่วน ไม่มีเทคโนโลยีที่เหมาะสมใช้งาน ทำให้การทำงานแบบ Work from home รู้สึกน่าเบื่อ การสื่อสารผิดพลาด ไม่สามารถติดตามความคืบหน้าของงานได้ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและท้ายที่สุดก็จะส่งผลต่อความก้าวหน้าขององค์กรด้วย
จาก Work from Home สู่ Work from Anywhere
"ภัญภญา ภัทร์ภิรมย์" ผู้ร่วมก่อตั้งและ ซีอีโอ บริษัท เอนี่เวิร์ค จํากัด (Anywork) เปิดเผยภายหลังการเสวนาหัวข้อ บริหารองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพจริง ต้องทํางานที่ไหนก็ได้ ในงาน e-Biz Expo 2022 ว่า แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะมีทิศทางที่ดีขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ก็ได้รับวัคซีนแล้ว แต่องค์กรชั้นนำระดับโลกหลายๆ แห่ง ก็ยังใช้วิธีการทำงานแบบอิสระ
กล่าวคือได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบ Work from Home (WFH) มาเป็น Work from Anywhere (WFA) เช่น Tata Consultancy Services (TCS) ผู้ให้บริการด้านไอทีรายใหญ่ของโลก, Twitter, Facebook, Shopify, Siemens และ State Bank of India
Work from Anywhere เพิ่มประสิทธิภาพทํางาน 13%
มีการวิจัยของ Harvard Business Review ที่แสดงให้เห็นประโยชน์ด้านประสิทธิภาพ ได้มีการศึกษาในปี 2015 โดย Nicholas Bloom และผู้เขียนร่วม พบว่า เมื่อพนักงานเลือกใช้นโยบาย Work from Anywhere (WFA) ประสิทธิภาพการทํางานเพิ่มขึ้น 13% ใน 9 เดือน
ต่อมาทางบริษัทให้พนักงานคนเดิมเป็นคนเลือกว่าอยากทํางานแบบไหน ระหว่างออฟฟิศหรือทำงานที่ไหนก็ได้ ซึ่งพนักงานคนดังกล่าวเลือกที่จะทํางานแบบ Work from Anywhere (WFA) ทำให้ประสิทธิภาพการทํางานเพิ่มขึ้นมากถึง 22% แสดงให้เห็นว่าพนักงานควรกําหนดพื้นที่การทำงานที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อการทํางานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
"เอนี่ เวิร์ค" ตัวช่วยคนทำงานยุคใหม่
สำหรับ เอนี่ เวิร์ค (Anywork) นั้น ได้ศึกษาและสำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานในช่วง Work from home (WFH) ทำให้ทราบว่ามักมีปัญหางานตกหล่น ตามงานผิดคน พนักงานลาออกบ่อย การทำงานนอกสถานที่มักจะใช้หลากหลายแอพลิเคชั่นในการทำงานร่วมกัน ทำให้ไม่สามารถมอนิเตอร์ภาพรวมของการทำงานได้ และยังมีปัญหาอื่นๆ เช่น การส่งไฟล์ผิดกลุ่ม สั่งงานพนักงานวันที่ลางาน เชิญประชุมออนไลน์ทับซ้อนกัน ทั้งหมดนี้ล้วนลดคุณภาพของผลงาน เพิ่มอัตราการลาออก ส่งผลกระทบต่อการเติบโตขององค์กร
เป็นที่มาของการพัฒนาแพลตฟอร์ม “เอนี่เวิร์ค (Anywork)” ขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาการบริหารจัดการภายในองค์การให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีฟีเจอร์ที่สำคัญครบถ้วน จบ ! ในที่เดียว ได้แก่
1) TASK LIST ส่งต่องานกันเป็นทีม เช็คความ เคลื่อนไหวได้อย่าง Real Time
2) SCHEDULE วางแผนและจัดการงานของตัวเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
3) MEETING สามารถเช็ควัน เวลา และเรื่อง ที่จะประชุมได้อย่างสะดวก
4) TEAM แสดงผลการทำงานของแต่ละบุคคลเพื่อลดภาระและกระจายงานได้อย่างทั่วถึง
5) REPORT อัพเดทสถานะและรายงานผล ไปยังหัวหน้างานได้
6) LEAVE REQUEST ช่วยให้การลางานเป็นเรื่องง่าย ลดปัญหาการถูกสั่งงานและเชิญเข้าประชุมในวันที่ลางาน
7) MONITOR เช็คภาพรวมของงาน และบุคคล ในองค์กรได้ทั้งหมด
8) CHAT ROOM ห้องสนทนาระหว่างเพื่อนร่วมงาน พูดคุยทุกเรื่องเกี่ยวกับงาน สะดวกมีความ เป็นส่วนตัว ไม่ต้องสลับไปใช้แอพฯหรืออุปกรณ์อื่น
9) FILE MANAGER จัดเก็บไฟล์ข้อมูลทุกชนิดที่จัดส่งทางระบบ สามารถเปิดดูไฟล์ย้อนหลังได้
“เอนี่ เวิร์ค (Anywork) ได้ออกแบบมาให้สามารถใช้งานที่ไหนก็ได้เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต ผ่านอุปกรณ์ใดก็ได้ ไม่ต้องติดตั้ง และยังให้ความสำคัญกับการใช้งานที่ง่ายเหมาะสมกับคนไทย เพราะเมนูการใช้งานเป็นภาษาไทย โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งระบบจะช่วยให้การสั่ง-ส่งต่อ-ติดตามงาน สะดวก ถูกคน ไม่สับสน ไม่ทับวันลา
ดึงประสิทธิภาพสูงสุดของพนักงานออกมาใช้ แต่ไม่ต้องเพิ่มเวลางาน คืนพื้นที่และเวลาส่วนตัว ให้พนักงาน ช่วยลดปัญหาการลาออกบ่อย เพราะการกระจายงานที่ยุติธรรมมากขึ้น ผู้บริหาร, เจ้าของกิจการ สามารถมอนิเตอร์ได้
เพิ่มความสะดวกในการเก็บรวบรวมและเข้าถึงข้อมูล Work from anywhere สามารถทําได้จริง ในระบบสามารถให้แนบไฟล์ เอกสาร กราฟต่างๆได้อย่างไม่มีวันหมดอายุ สำหรับความปลอดภัยมีการการันตี Cloud service ISO/IEC 20000-1 and ISO/IEC 27001 ที่สำคัญไฟล์ที่ถูกจัดเก็บจะถูกเข้ารหัส ด้วยการเข้ารหัสแบบ AES-256 (Advanced Encryption Standard) แบบเดียวกับที่ google drive และธนาคารออนไลน์ใช้
"และใช้เทคโนโลยีการส่งไฟล์แบบเข้ารหัส TLS (Transport Layer Security) เช่นเดียวกับ Google drive เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งหมดนี้เพื่อพัฒนาประสิทธิผลขององค์กร และเพิ่มความสุขของคนทำงาน Work from anywhere with Anywork" ภัญภญา กล่าว