จุฬาฯ ผนึก รีโว่เมด พัฒนางานวิจัย ยกระดับอาหารเสริม-เครื่องสำอาง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผนึกความร่วมมือด้านการวิจัยกับบริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด พัฒนาอาหารเสริม-เครื่องสำอาง จากองค์ความรู้และนวัตกรรมจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ
Keypoint:
- อาหารเสริมและเครื่องสำอาง เป็นอีกหนึ่งวิธีในการดูแลสุขภาพของคนไทย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ยิ่งปี 2566 ผู้คนจะนิยมรับประทานอาหารยา วิตามินเพื่อสุขภาพ และยาสมุนไพร
- คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯร่วมมือกับบริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด นำผลงานวิจัยสู่นวัตกรรมทางด้านสุขภาพ ช่วยเสริมการทำงานของจุฬาฟาร์เทค
- พัฒนาอาหารเสริมและเครื่องสำอาง ขยายผลในเชิงอุตสาหกรรมความงามและสุขภาพของไทย
จากการศึกษาของ Nielsen CMV พบว่าใน ปีพ.ศ. 2565 คนไทยมีการซื้อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสุขภาพและความงามถึง 84% โดยกลุ่มสุขภาพ เช่น วิตามิน อาหารเสริม มีการเติบโตขึ้น 229% จากปีพ.ศ. 2562 โดยจากผลสำรวจยังพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ประมาณ 60% ต้องการรับประทานอาหารเสริมเพื่อให้ดูอ่อนกว่าวัย รองลงมาคือต้องการมีผิวที่ดีขึ้น
นอกจากนั้น คาดว่าในปี 2566 จะยังเป็นปีที่ผู้คนมีแนวโน้ม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหารให้มีความสมดุลมากขึ้น โดยมีการรับประทานอาหารเป็นยา วิตามินเพื่อสุขภาพ และยาสมุนไพร
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการวิจัยกับบริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นระยะเวลาความร่วมมือ 1 ปี (1 มิถุนายน 2566 – 31 พฤษภาคม 2567)
โดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเป็นผู้นำในการพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมทางด้านอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและเครื่องสำอาง ขณะที่บริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทของคนไทย 100% ในการให้บริการเพื่อพัฒนาเครื่องสำอาง สินค้าเพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริมทุกรูปแบบ รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำในการดำเนินธุรกิจและการตลาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เทรนด์ ‘บิวตี้-เฮลตี้’แรง ดันเครื่องสำอางไทยโตสวนโควิด
อุทาหรณ์!! "เครื่องสำอาง" เช็กก่อนซื้อ ทดสอบก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง
สร้างนวัตกรรมด้านสุขภาพและความงามตอบโจทย์สังคม
เมื่อทั้งสองหน่วยงานจะร่วมมือกันส่งเสริมผลงานวิจัยเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสุขภาพโดยใช้วัตถุดิบในประเทศไทย ต่อยอด ขยายผลและส่งเสริมการใช้ประโยชน์ร่วมกัน สามารถนำผลงานนวัตกรรมทางด้านสุขภาพไปใช้ประโยชน์เพื่อสังคมในวงกว้าง ช่วยเสริมการทำงานของบริษัท จุฬาฟาร์เทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ซียูฟาร์มาซี เอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด (CUPE) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมต่างๆ จากคณะออกสู่เชิงพาณิชย์
นอกจากนั้น ความร่วมมือดังกล่าวยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทุกรูปแบบ สนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเพิ่มขีดความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ผ่านกระบวนการวิจัย การฝึกอบรม และนำความรู้ที่ได้รับสู่การปฏิบัติจริงอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรและประเทศชาติ
ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาฯ เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่างคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ กับบริษัทริโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด ทำให้คณาจารย์และนิสิตได้นำความรู้ออกสู่สังคม ตอบสนองเรื่องสุขภาพ ความงาม และความสุขให้สังคมไทย และหวังว่าจะขยายไปสู่สังคมโลก จุฬาฯ มีเป้าหมายในการสร้างสรรค์องค์ความรู้และนวัตกรรมออกไปรับใช้สังคมไทย
พิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายหลักของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการนำความรู้จากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ออกสู่สังคมผ่านบริษัทริโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด ในอนาคตจะได้เห็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ต่างๆ ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ซึ่งจะมีการขยายตลาดสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้คนไทยมีสุขภาพดีและมีอายุยืน
นวัตกรรมจุฬาฯลดการนำเข้า เสริมการส่งออกจากงานวิจัย
ศ.ภญ.ดร.พรอนงค์ อร่ามวิทย์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ มีความพร้อมและความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอาหารเสริมและเครื่องสำอาง โดยได้รับการสนับสนุนจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจากอธิการบดีจุฬาฯ ที่มีแนวคิดในการส่งเสริมเรื่องสตาร์ทอัพในมหาวิทยาลัย รวมทั้งสตาร์ทอัพในคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งเป็นแหล่งกระจายองค์ความรู้สู่เชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นรูปธรรม
"ปัจจุบันคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ มีการขยายการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีไปสู่เครื่องมือแพทย์ การพัฒนายาโมเลกุลใหม่ๆเชื่อมั่นว่าการพัฒนานวัตกรรมโดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เชื่อมั่นว่านวัตกรรมจุฬาฯ จะช่วยลดการนำเข้า เสริมการส่งออกจากงานวิจัยให้มีมูลค่ามหาศาล"
ทั้งนี้ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้บริษัทริโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด ในเรื่องระบบในการนำส่งยาอย่างมีประสิทธิภาพ การสกัดสารแอนโทไซยานินในผลหม่อนหรือมัลเบอร์รี่ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระให้ได้ปริมาณสูงสุดและคงตัว เพื่อพัฒนาเป็นอาหารเสริมและเครื่องสำอาง สามารถขยายผลในเชิงอุตสาหกรรม รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสายตาวิซิออน (VI-SION) ที่ช่วยลดภาวะตาแห้ง ลดการอักเสบในตา และต้านอนุมูลอิสระที่ดวงตา
น.ส.วาสนา อินทะแสง กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีโว่เมด (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่าความร่วมมือกับจุฬาฯ ในครั้งนี้เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมสุขภาพและความงามครั้งใหญ่ของประเทศไทย ทางบริษัทฯ มีเป้าหมายในการนำส่งนวัตกรรมผ่านการวิจัยให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ การที่บริษัทนำนวัตกรรมส่งให้กับผู้บริโภคผ่านการวิจัยโดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งทุ่มเทศึกษาวิจัย ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รวมถึงการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี เป็นบทพิสูจน์ว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยคณะเภสัชศาสตร์มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่นำไปสู่ผู้บริโภค นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยนี้ยังมีการส่งออกต่างประเทศด้วย