แล็ปท็อปสร้างประสบการณ์ดิจิทัล สร้างรอยยิ้มให้เด็กน้อย"สหศาสตร์ศึกษา"

อีเลคโทรลักซ์ กรุ๊ป ร่วมกับ Electrolux Food Foundation ฟื้นฟูโรงเรียนสหศาสตร์ศึกษา จังหวัดเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม มอบเงินสนับสนุนเพื่อช่วยซ่อมแซมอาคารเรียน จัดหาโต๊ะเก้าอี้และอุปกรณ์การเรียนการสอนชุดใหม่ พร้อมมอบถุงยังชีพ
'โรงเรียนสหศาสตร์ศึกษา' เป็นโรงเรียนเอกชนการกุศลที่ให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสในจังหวัดเชียงราย จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา มีน้ำเข้าท่วมโรงเรียนสูงถึง 1.5 เมตร ทำลายอาคารเรียนและอุปกรณ์การเรียนการสอนจนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทำให้โรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อทำการฟื้นฟูจนสามารถกลับมาเปิดทำการให้นักเรียนมาเรียนได้ตามปกติในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารและคณะจิตอาสาพนักงานของอีเลคโทรลักซ์ประเทศไทย ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูโรงเรียนสหศาสตร์ศึกษา นำโดย นายอเล็กซิส ริชาร์ด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด โดยได้มอบเงินสนับสนุนช่วยเหลือในด้านต่างๆ ตามความต้องการอย่างเร่งด่วนของทางโรงเรียน พร้อมมอบถุงยังชีพของใช้ที่จำเป็นซึ่งจัดทำโดยพนักงานอีเลคโทรลักซ์ที่สำนักงานกรุงเทพฯ และบริจาคคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปให้กับโรงเรียนเพื่อยกระดับประสบการณ์ด้านดิจิทัล นอกจากนี้ ทีมจิตอาสายังได้ร่วมสอนวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งสร้างความสนุกสนานและรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ได้ตลอดกิจกรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อีเลคโทรลักซ์ ตั้ง 'ไทย' เป็นฮับภูมิภาค หลังปิดออฟฟิศสิงคโปร์หันซบ กรุงเทพฯ
มอบถุงยังชีพ อุปกรณ์การเรียนการสอนช่วยน้ำท่วมเชียงราย
"อเล็กซิส" กล่าวว่าความร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือกันไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเล็กๆ หรือใหญ่ ล้วนสร้างคุณค่าและมีความหมายต่อชุมชนที่กำลังประสบความยากลำบากทั้งสิ้น การร่วมแรงร่วมใจของพนักงานจิตอาสาทุกคนในการช่วยเหลือทำให้เด็กๆ ได้กลับมาเรียนตามปกติได้อีกครั้ง
"ดร.ประพันธ์ ทรรศนียากร" ผู้จัดการโรงเรียนสหศาสตร์ศึกษา จังหวัดเชียงราย กล่าวว่าโรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนเอกชนการกุศล ประเภทการศึกษาสงเคราะห์ สังกัดมูลนิธิแบ๊บติสท์เพื่อการศึกษา ไม่ได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการเรียนใด ๆ จากนักเรียนหรือผู้ปกครองทั้งสิ้น มุ่งเน้นให้นักเรียนได้ “เรียนดี เรียนฟรี อย่างมีคุณภาพ”
การดำเนินงานขอยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ปัจจุบันมีครู จำนวน 105 คน บุคลากรสนับสนุนการสอน จำนวน 22 คน และมีนักเรียน จำนวน 2,590 คน ซึ่งเป็นเด็กด้อยโอกาสทางการศึกษามีฐานะยากจน นักเรียนร้อยละ 85 เป็นเด็กชาติพันธุ์ และร้อยละ 80 นับถือคริสต์ศาสนา นักเรียนร้อยละ 50 อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิ บ้านพัก โครงการต่าง ๆ ที่ดูแลเด็กด้อยโอกาส โรงเรียนมีหอพักในโรงเรียนสำหรับเด็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและประสงค์พักประจำในโรงเรียน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 146 คน
จากเหตุอุทกภัยในวันที่ 11 กันยายน 2567 ช่วงเช้ามีครูและบุคลากรที่พักอาศัยอยู่หมู่บ้านแคววัวดำ และหมู่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาวแจ้งขอลากิจเนื่องจากเกิดเหตุน้ำท่วม บ้านได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก ถนนขาดไม่สามารถมาปฏิบัติหน้าที่ได้ รวมทั้งพื้นที่ใกล้แม่น้ำกกเริ่มมีระดับน้ำที่สูงขึ้น ผู้อำนวยการโรงเรียน จึงสั่งหยุดเรียนกรณีฉุกเฉิน โดยให้ครูและบุคลากรกลับที่พักไปเฝ้าระวังในพื้นที่ของตนเอง คงเหลือแต่ผู้บริหารครูและบุคลากรที่พักอาศัยในโรงเรียน
ในเวลาประมาณ 12.00 น. ได้มีการตัดกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาในโรงเรียน จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น. มีน้ำทะลักมาจากฝั่งทางทิศตะวันตกและทิศเหนือเข้ามาด้วยความรวดเร็ว จึงได้ให้นักเรียนพักประจำขึ้นไปอยู่ชั้น 2 ของเรือนนอน สำหรับชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียงที่ประสบอุทกภัย ทางโรงเรียนได้เปิดให้ใช้อาคารเรียนเป็นที่พักชั่วคราวระดับน้ำในโรงเรียนที่มาจาก 3 ทิศทาง ส่งผลให้ในโรงเรียนมีระดับน้ำสูงเฉลี่ยประมาณ 1 เมตรในบริเวณห้องประกอบที่อยู่บริเวณด้านหลังของอาคารเรียนมีน้ำสูงจากพื้นประมาณ 1.20 เมตร และจุดที่พื้นที่ต่ำสุดจะเป็นบ้านพักครู มีน้ำสูงจากพื้นประมาณ 1.50 เมตร โรงเรียนมีเนื้อที่กว้าง 34 ไร่ ความเสียหายจึงกระจายเป็นวงกว้างทุกพื้นที่
ผู้จัดการโรงเรียนสหศาสตร์ศึกษา กล่าวด้วยว่า หลังจากได้รับความช่วยเหลือซ่อมแซมอาคารเรียน รวมถึงจัดหาโต๊ะเก้าอี้และอุปกรณ์การเรียนการสอนชุดใหม่ ทำให้นักเรียนได้กลับมาใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้ที่เหมาะสมอีกครั้ง ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา มีน้ำท่วมโรงเรียนสูงถึง 1.5 เมตร ทำลายอาคารเรียนและอุปกรณ์การเรียนการสอนจนเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทำให้โรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อทำการฟื้นฟูจนสามารถกลับมาเปิดทำการให้นักเรียนมาเรียนได้ตามปกติในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ความร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือกันไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเล็กๆ หรือใหญ่ ล้วนสร้างคุณค่าและมีความหมายต่อชุมชนที่กำลังประสบความยากลำบากทั้งสิ้น