สพฐ. ปูพรม 'พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง' ลดเด็กตกหล่น

สพฐ. ปูพรม 'พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง' ลดเด็กตกหล่น

เลขาธิการ กพฐ. เผยเร่งขยายเครือข่ายโรงเรียนจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นด้วย 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ “พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง” ไม่มีเด็กตกหล่น-ออกกลางคัน

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ทั่วประเทศ นำนโยบาย “OBEC Zero Dropout” หรือ “สพฐ. ไม่มีเด็กตกหล่นหรือออกกลางคัน” ไปสู่แผนการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2568 ของทุกเขตพื้นที่การศึกษา

โดยใช้ชื่อโครงการว่า “พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง” ซึ่งมีเป้าหมายให้เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษา และมีโอกาสได้เรียนในทุกพื้นที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ทุนแลกงาน 2568 สพฐ. นักเรียนได้รับค่าตอบแทนวันละ 300 บาท เปิดแล้ว

สพฐ. โชว์ผลงาน 'โรงเรียนคุณภาพ' บูมในอำเภอเปรียบรร.นานาชาติ

เร่งแก้ปัญหาเด็กตกหล่น พากลับสู่ห้องเรียน

จากการตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ รอบที่ 1 ระหว่างเดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนมีนาคม 2568 พบว่า การติดตามเด็กตกหล่น อายุระหว่าง 3-18 ปี จำนวน 616,625 คน พบตัวแล้ว 195,432 คน คิดเป็นร้อยละ 31.69 ไม่พบตัว 421,193 คน คิดเป็นร้อยละ 68.31 ในจำนวนที่พบตัวได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาแล้ว 54,629 คน คิดเป็นร้อยละ 8.87

"ผมได้กำชับให้ทุกเขตพื้นที่การศึกษาเร่งติดตามค้นหาเด็กตกหล่นเหล่านี้ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาให้เร็วที่สุด โดยจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นเข้ามารองรับ เช่น ใช้แนวทาง 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ซึ่งมีทั้งการเรียนในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย เพราะเด็กแต่ละคนก็มีความจำเป็นที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราก็จะพาการศึกษาไปหาเด็กๆ ตามนโยบายเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา Anywhere Anytime"

สพฐ. ปูพรม \'พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง\' ลดเด็กตกหล่น

พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า Thailand Zero Dropout เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งตนมั่นใจว่า โครงการ “พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง” จะสามารถตอบสนองความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครองที่มีความจำเป็นแตกต่างกันได้

ทั้งนี้ “นำการเรียนไปให้น้อง” จะจัดสำหรับนักเรียนที่มีความจำเป็นเฉพาะไม่สามารถกลับเข้ามาเรียนในระบบได้ โรงเรียนก็จะนำการเรียนไปให้นักเรียนได้เรียนที่บ้าน หรือเรียนออนไลน์ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย โดยปัจจุบันมีการนำร่องนำการเรียนไปให้น้องในรูปแบบต่างๆ เช่น โรงเรียนมือถือ เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา, ห้องเรียน/บวรสร้างโอกาส, ห้องเรียนเคลื่อนที่ ห้องเรียนสาขา, เครดิตแบงก์/เทียบโอนหน่วยกิต และเปลี่ยนบ้านเป็นห้องเรียน เปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู

โดยครูประจำชั้น ครูฝ่ายวิชาการ ร่วมจัดหาสื่อการเรียนรู้ นำแบบฝึกใบงานไปให้นักเรียนที่บ้าน ผู้ปกครองช่วยสอนและทำกิจกรรมร่วมกับนักเรียน มีการประเมินนักเรียนจากคลิปวิดีโอที่ผู้ปกครองส่งให้ เป็นต้น 

สพฐ. ปูพรม \'พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง\' ลดเด็กตกหล่น

ปัจจุบันมีโรงเรียนสังกัด สพฐ. จำนวน 54 โรงเรียน ใน 16 เขตตรวจราชการ ที่เป็นโรงเรียนต้นแบบจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นด้วย 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ และมีโรงเรียน จำนวน 927 โรงเรียนที่สมัครพัฒนาโมเดลการศึกษาที่ยืดหยุ่น 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ซึ่งตนได้เน้นย้ำให้ ผอ.สพท.ทั่วประเทศ มีการบูรณาการดำเนินงานแก้ปัญหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่นให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา

โดยเชิญชวนประสานกับภาคีเครือข่าย หรือชุมชนมาร่วมค้นหา จัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น และมีการชี้เป้า เฝ้าระวัง เด็กเยาวชนที่มีลักษณะที่ไม่ได้เรียนหนังสือ เพื่อพาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง ให้ได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง สู่เป้าหมาย Thailand Zero Dropout หรือ เด็กหลุดจากระบบการศึกษาเป็นศูนย์ให้เร็วที่สุด

สพฐ. ปูพรม \'พาน้องกลับมาเรียน นำการเรียนไปให้น้อง\' ลดเด็กตกหล่น