สปา-ฮาคูโฮโด ชู Positive Energy ใส่ใจพนักงานด้วยหัวใจธุรกิจโตยั่งยืน
บริษัท สปา-ฮาคูโฮโด จำกัดครีเอทีฟ เอเจนซี่ แถวหน้าของเมืองไทยมากว่า 40 ปี เผยหัวใจสำคัญในการพาองค์กรพุ่งสู่ความสำเร็จแบบก้าวกระโดดตามเป้าหมาย
KEY
POINTS
- เชื่อว่าความเข้าใจและการใส่ใจพนักงาน คือปัจจัยหลักที่สร้างพลังในการทำงานรวมถึงพลังงานบวกในที่ทำงานและการเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคงของพนักงาน
- เรามั่นใจในศักยภาพของทีมงาน เหมือนกับที่มั่นใจว่าพนักงานก็เชื่อมั่นในองค์กรเราและรู้ว่าจะได้รับการซัพพอร์ตทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจจากบริษัทฯ เต็ม100%เช่นกัน
- "ความสุขของพนักงาน" หัวใจสำคัญที่ทำให้องค์กรมีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้น การที่พนักงานมีความสุขย่อมส่งผลดีต่อประสิทธิภาพและคุณภาพของงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่นำบริษัทฯ ไปสู่ความสำเร็จ
บริษัท สปา-ฮาคูโฮโด จำกัดครีเอทีฟ เอเจนซี่ แถวหน้าของเมืองไทยมากว่า 40 ปี เผยหัวใจสำคัญในการพาองค์กรพุ่งสู่ความสำเร็จแบบก้าวกระโดดตามเป้าหมาย ท่ามกลางบริบทของภาคธุรกิจและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในตลาดการแข่งขันในปัจจุบัน ด้วยการบริหาร“คนในองค์กร” ด้วยหัวใจตามแนวคิดPositive Energyแนวทางการพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีศักยภาพสูงสุด ด้วยการสร้างพลังเชิงบวกและความเข้าใจ มั่นใจคุณภาพผลงานที่ดีจะสะท้อนผ่านความสุขที่พนักงานมีและทัศนคติที่มีต่อองค์กร
การดำเนินธุรกิจของบริษัทในยุคนี้ว่า “ความสุขของพนักงาน” คือหัวใจสำคัญที่ทำให้องค์กรมีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้นการที่พนักงานมีความสุขในการทำงาน ย่อมส่งผลดีต่อประสิทธิภาพและคุณภาพของงานที่ทำให้กับลูกค้า ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่นำบริษัทฯ ไปสู่ความสำเร็จที่สุด
ดังนั้น สปา-ฮาคูโฮโด จึงไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการเติบโตทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน (Well-Being)เพื่อให้พวกเขามีความสุขและมีสุขภาพที่ดีในการทำงานในโลกยุคใหม่ไปด้วยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ซัพพอร์ตทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
“จิรภัทร์ กาญจะโนสถ ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่าสปา-ฮาคูโฮโด ตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ค่อนข้างท้าทาย ด้วยแนวคิด Partnership Spirit ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมองค์กรของเรา เราเน้นการทำงานร่วมกับลูกค้าในฐานะพาร์ทเนอร์ที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การให้บริการในฐานะเอเจนซี่เท่านั้น
“แต่เป็นการร่วมมือกันเพื่อก้าวไปข้างหน้าเคียงข้างกันอย่างยั่งยืนทำให้เราตั้งเป้าเติบโตมากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมตลาดโฆษณา และมั่นใจว่าภายในปีนี้จะสามารถเติบโตได้ถึง10%จากปีที่แล้ว เพราะเรามั่นใจในศักยภาพของทีมงาน เหมือนกับที่มั่นใจว่าพนักงานก็เชื่อมั่นในองค์กรเราและรู้ว่าจะได้รับการซัพพอร์ตทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจจากบริษัทฯ เต็ม100%เช่นกัน”
ความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจและใส่ใจพนักงาน
สปา-ฮาคูโฮโด ให้ความสำคัญกับการเติบโตระยะยาว ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากการพัฒนาทั้งธุรกิจและบุคลากรไปพร้อมๆ กันในขณะที่หลายองค์กรอาจให้ความสำคัญกับผลกำไรระยะสั้นเป็นหลักหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ สปา-ฮาคูโฮโด โดดเด่นและเติบโตอย่างยั่งยืน
คือ การมีEmpathy หรือความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจและใส่ใจพนักงานอย่างแท้จริง โดยมีหลักคิดว่า พนักงานไม่ใช่แค่ทรัพยากรที่ต้องบริหารจัดการ แต่คือคนในครอบครัวที่ต้องการความเข้าใจและการดูแลเอาใจใส่ บริษัทฯ จึงใส่ใจในทุกแง่มุมของการทำงาน รวมถึงการไม่นิ่งนอนใจที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยเสริมสร้างพลังบวกและความสุขในการทำงาน
"ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำงานในวงการเอเจนซี่มีความเครียดสูง แต่จะทำอย่างไรที่จะช่วยให้พนักงานมาทำงานที่เครียดได้อย่างมีความสุขนั่นคือโจทย์ที่ท้าทายและสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพนักงานรุ่นใหม่คิดไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พวกเขามองหามิติต่างๆ ของการทำงานมากกว่าแค่ค่าตอบแทนทางการเงิน เช่น ความสุข ความรู้ และสังคมที่ดี เราจึงเน้นให้ความสำคัญกับการตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ผ่านกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และความสัมพันธ์ต่างๆสวัสดิการเพิ่มเติมต่างๆ เพื่อให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน(Work with happiness)แม้ว่าจะต้องทำงานในช่วงเวลาที่ยาวนาน"
แต่เรามั่นใจว่าความเข้าใจและการดูแลที่ดีจะทำให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่าและสนุกกับงานและเราก็ทำสำเร็จ เสียงตอบรับจากพนักงานทำให้เรามั่นใจว่าเราเดินมาถูกทางแล้วกับแนวคิด“Happy Workplace, Happy Workpiece” ที่จะทำให้พนักงานมีความสุขในทุกวันที่มาทำงาน ผ่านการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นมิตรและสร้างบรรยากาศการทำงานที่ผ่อนคลาย สนับสนุนให้พนักงานได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาสามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน
3 แนวทางหลัก โปรแกรมWell-being
ทั้งนี้ สปา-ฮาคูโฮโด ได้พัฒนาโปรแกรม Well-being ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนทั้งการเติบโตทางอาชีพและความสุขของพนักงาน โดยโปรแกรมนี้ถูกแบ่งออกเป็น3แนวทางหลัก ได้แก่
1.Empower –การส่งเสริมการเติบโตด้านความรู้วิธีคิด และอาชีพ เช่น การเรียนรู้ผ่านการทำงานจริง (Learning by Doing),การให้Career CoachและLife Coachช่วยสนับสนุนเป้าหมายชีวิตและงาน รวมถึงการเปิดโอกาสให้พนักงานรุ่นใหม่ได้ก้าวสู่การบริหารงานใหญ่โดยไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ
2.Engagement –การเสริมสร้างความสัมพันธ์ในองค์กร ผ่านกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน เช่นFriday Friyay กิจกรรมสังสรรค์ทุกเย็นวันศุกร์ และWednesday Free Lunch ที่เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศที่ผ่อนคลายนอกเหนือจากการทำงาน
3.Empathy –การแสดงความเข้าใจและใส่ใจในความเป็นอยู่ของพนักงาน ผ่านกิจกรรมพิเศษ เช่นMonday Early Bird ที่บริษัทจัดเตรียมอาหารเช้าทุกวันจันทร์ เพื่อให้พนักงานเริ่มต้นสัปดาห์ได้อย่างสดใส หรือPower Nap มุมพักผ่อนที่จัดไว้ให้พนักงานได้ผ่อนคลายระหว่างวันทำงาน นอกจากนี้ยังมีCompensate Leave ซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานที่ทำงานในวันหยุดสามารถหยุดชดเชยในวันอื่นๆ รวมถึงสิทธิวันลาพิเศษในเดือนเกิด (Birthday Celebration & Leave)เพื่อให้พนักงานได้ฉลองกับครอบครัวและเพื่อนๆ
“เราให้ความสำคัญกับความสุขและความพึงพอใจของพนักงานในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงาน สุขภาพ หรือสังคม เพราะเราเชื่อว่าความเข้าใจและการใส่ใจพนักงานคือปัจจัยหลักที่สร้างพลังในการทำงานรวมถึงพลังงานบวกในที่ทำงานและการเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคงของพนักงาน (Well-Being)เพื่อให้พวกเขามีความสุขและมีสุขภาพที่ดีในการทำงานในโลกยุคใหม่ไปด้วยกัน“จิรภัทร์ กล่าวทิ้งท้าย