มุมมอง 2 ผู้หญิงเก่ง ชั่วโมงบินสูง พัฒนาการทำงาน ไม่ลืมใช้ชีวิต

“อุตสาหกรรมการบิน” เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ถูกมองว่ามีตำแหน่งงานของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่สำหรับ สายการบินสกู๊ต (Scoot) สายการบินในเครือสิงคโปร์แอร์ไลน์
KEY
POINTS
“อุตสาหกรรมการบิน” เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ถูกมองว่ามีตำแหน่งงานของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่สำหรับ สายการบินสกู๊ต (Scoot) สายการบินในเครือสิงคโปร์แอร์ไลน์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพันธมิตรสายการบิน Value Allianc (แวลูอัลไลแอนซ์) ไม่เป็นเช่นนั้น จำนวนพนักงานชายและหญิงไม่ได้แตกต่างกัน ทุกตำแหน่งเปิดโอกาสให้ผู้หญิงสามารถทำได้ และมีความก้าวหน้าในการทำงานไม่แตกต่างจากผู้ชาย
ปัจจุบัน “สายการบินสกู๊ต(Scoot)” เดินทางมากว่า 10 ปี และกำลังเติบโตอย่างเข้มแข็งตามแบบฉบับ “Scootitude (สกู๊ตติจูด)” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะขององค์กร ซึ่งก็คือความหลงใหลในการเดินทาง การเชื่อมโยงผู้คนกับวัฒนธรรม และการผลักดันขีดจำกัด ขับเคลื่อนให้สกู๊ตสร้างสรรค์นวัตกรรม มุ่งมั่นเพื่อการพัฒนา และแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
บทสรุป 'เส้นทางสู่ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการบินของไทย'
‘สกู๊ต’ รุกบินเชื่อมไทยหนุนฮับ ‘สิงคโปร์’ เพิ่มเครื่องบินไซส์เล็กเจาะตลาด
เปิดโอกาสหญิงชายเท่ากัน
“ภาวิณี ทวีธนะ” ผู้จัดการการบริการภาคพื้น ประจำประเทศไทย เล่าว่าเธอทำงานในอุตสาหกรรมการบินมาเป็นเวลา 15 ปี เป็นงานแรกและทำมาตลอดตั้งแต่เรียนจบคณะมนุษยศาสตร์ ด้านภาษามา ซึ่งที่เลือกทำงานในอุตสาหกรรมการบิน เพราะอยากเป็น Ground Staff หรือ พนักงานภาคพื้นสายการบิน ความฝันตั้งแต่เด็ก ที่อยากไปสนามบินและชื่นชอบพี่ๆ ที่ทำงานอยู่ภาคพื้นของสายการบิน
“ได้มาทำงานที่สายการบินสกู๊ต เป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งตอนนั้นสายการบินสกู๊ตเปิดรับสมัครพนักงานเข้าทำงานก็สนใจทำงาน เพราะที่นี่เปิดโอกาสให้พนักงานหญิงอย่างมาก ทั้งตำแหน่งงาน และความก้าวหน้าในการทำงาน ขณะเดียวกันในช่วงโควิด-19 สายการบินอื่นๆ อาจจะมีการการเลย์ออฟพนักงาน แต่สายการบินสกู๊ต ไม่มีการเลย์ออฟพนักงาน ในทางกลับกันมีการดูแลพนักงานที่ดี มีสวัสดิการ และรูปแบบการทำงานที่รองรับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการบิน”
“สกู๊ต” สายการบินที่ให้อิสระ
“ภาวิณี” ทำงานที่ประเทศไทย ไม่ได้ต้องไปประจำที่สิงคโปร์ แต่หากต้องการจะไปทำงานที่ประเทศสิงค์โปร์ก็สามารถทำได้ ซึ่ง “สายการบินสกู๊ต” จะเปิดโอกาสให้พนักงานได้เลือกสถานที่การทำงานตามที่ตนเองต้องการ และทำงานได้ตามทักษะ ศักยภาพที่ตนเองมี โดยองค์กรจะมีการพัฒนาศักยภาพ เติมเต็มทักษะ และโอกาสให้พนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
“ทุกสายการบินจะมีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกันออกไป อย่าง จิ๊บ เปลี่ยนสายการบินมา 2-4 สายการบิน สกู๊ตเป็นสายการบินที่ให้อิสระ ให้ความเท่าเทียม และพัฒนาศักยภาพให้ทุกคนได้แสดงอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็น เพศหญิง หรือเพศชาย ตำแหน่งงานไม่มีการกำหนดว่าจะรับเฉพาะเพศใดเพศหนึ่ง เช่น จิ๊บต้องดูแลทุกเรื่อง บางทีต้องปีนขึ้นไปข้างบนเพื่อไปดูกระเป๋าของผู้ใช้บริการสายการบิน ซึ่งหลายคนอาจมองว่างานภาคพื้น หรือส่วนนี้เหมาะกับผู้ชายเนื่องจากต้องใช้กำลัง ใช้แรง แต่ที่นี่ทุกคนทำได้อย่างเท่าเทียม และการเติบโตในการทำงานก็เปิดโอกาสเท่ากัน”
3 อัตลักษณ์ร่วมงานสายการบิน
ภาวิณี กล่าวต่อว่าสายการบินสกู๊ต จะมีการคัดเลือกผู้หญิงขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารมีเท่ากับจำนวนผู้ชาย และเปิดโอกาสให้คนไทยร่วมด้วย โดยคนไทยที่ทำงานกับสายการบินสกู๊ตส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง และตั้งแต่เริ่มทำงาน จะมีการเส้นทางขึ้นสู่ตำแหน่งงานที่สูงขึ้น มีการพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ จุดเด่นของการทำงาน และเป็นอัตลักษณ์ที่ทำให้ทางสายการบินเลือกเข้าทำงาน คือ ความคล่องตัว มีใจรักงานบริการ หรือ service mind และมีความอดทน หากมี 3 อย่างนี้ สายการบินก็อยากที่จะรวมงานกับเรา
“การทำงานในแผนก Ground ย่อมมีความหลากหลายของผู้คน เพศวัย ซึ่งสกู๊ต มีแนวทางให้แต่ละกลุ่มวัยได้ทำงานด้วยกัน เรียนรู้ร่วมกัน โดยเฉพาะหัวหน้างานที่ต้องพยายามเบลนให้ทุกคนทำงานเข้ากันได้ ผ่านcommunity ออนไลน์ เช่น ให้พนักงานจากประเทศสิงคโปร์มาทำงานหรือเยี่ยมเยียนที่ประเทศไทย มีการแลกเปลี่ยนระหว่างเพศ วัย และอายุ ทุกคนทำงานร่วมกัน"
นอกจากนั้น จะมีการนำเทคโนโลยีมีช่วยพัฒนาทักษะ เติมเต็มความสามารถ อย่าง E-learning หรือ คอร์สเรียนออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันขององค์กรที่ตำแหน่งตั้งแต่ผู้บริหารระดับ CEO หัวหน้างาน พนักงานจะใช้ร่วมกัน มีการอัปเดตการทำงาน การสื่อสารภายในองค์กร รวมถึงการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ การช่วยเหลือการทำงาน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนทางองค์กรก็จะมีทีมงานองค์กรคอยช่วยสนับสนุนดูแล สร้างความปลอดภัย ทำให้พนักงานมีความอุ่นใจ เพราะไม่ได้ทำงานอยู่คนเดียว
“สวัสดิการของสายการบินสกู๊ต อาจจะมีความคล้ายกับที่อื่น มีเงินสนับสนุน มีการส่งเสริมเรื่อง Work Life Balance เช่น ให้เงินสนับสนุนไปออกกำลังกาย ไปท่องเที่ยว ไปตรวจสุขภาพ หรือทำกิจกรรมที่ตนเองมีความสุข เนื่องจากองค์กรเชื่อว่าหากพนักงานมีความสุขในการใช้ชีวิตก็จะส่งผลต่อการทำงานร่วมด้วย และการทำงานต้องไม่ลืมที่จะให้ไปใช้ชีวิตด้วย มีวันหยุดที่ค่อนข้างมาก ทุกคนสามารถบาลานซ์ชีวิตและการทำงานของตนเองได้”
รับฟัง-เข้าใจ-เรียนรู้คน ทำงานได้ทุกอาชีพ
"กัญญพัชร แซ่กวาน" พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน สายการบินสกู๊ต (Scoot)กล่าวว่า หลังจากเรียนจบคณะอักษรศาสตร์เธอมีความสนใจอยากจะเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพราะส่วนตัวจะเป็นคนใจดี ยิ้มเก่ง ชอบการทำงานเป็นทีม สนใจในงานบริการ และเป็นลักษณะงานที่ค่อนข้างเปิด และฝึกพัฒนาทักษะในหลายๆ ด้าน ซึ่งการทำงานกับสายการบินสกู๊ตมา 1 ปี ได้เรียนรู้ความท้าทายใหม่ๆ และพัฒนาตนเอง
“คนไทยมีความใจเย็น ยิ้มเก่ง ไทยเป็นสยามเมืองยิ้ม เวลาพูดหรือสื่อสารจะยิ้มไปด้วย ทำให้เวลาทำงานคนไทยได้รับการตอบรับจากผู้โดยสารอย่างดี ผู้โดยสารรู้สึกประทับใจ และตอนนี้สายการบินในอุตสาหกรรมการบินจะให้ความสำคัญเรื่องของความเสมอภาค และเท่าเทียมในการทำงานของทุกเพศ ทุกวัย ดังนั้น ถือเป็นโอกาสของทุกคน”
ทักษะที่เหมาะกับการทำงานในสายการบิน หรืออุตสาหกรรมการบิน ต้องมีทัศนคติที่ดี กล้าแสดงความคิดเห็น และรับฟังผู้อื่น ที่สำคัญต้องมีใจรักงานบริการ ทำงานเป็นทีม ไม่เกี่ยงงาน รู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และมีความอดทน เพราะไม่ว่าจะทำงานในตำแหน่งไหน ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น ต้องปรับตัวเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายของผู้คน การเปิดรับฟัง ทำความเข้าใจ จะทำให้สามารถทำงานในแต่ละอาชีพได้
“สกู๊ตจะไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องของอายุ ทุกวัยทุกเพศจะได้รับการโปรโมทหากมีศักยภาพ มีทักษะตรงกับตำแหน่งนั้นๆ เด็ก หรือผู้ใหญ่จะเข้าสู่ความก้าวหน้าในการทำงานได้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ หรือเพศไหน ทุกคนสามารถโปรโมทของตัวเองได้ ขณะเดียวกัน สกู๊ต ไม่จำกัดว่าเคยบิน หรือมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน ขอเพียงเป็นคนที่ใจรักบริการ พร้อมทำงานร่วมกับผู้อื่น ชอบทำงานเป็นทีม มีความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา ก็มีคุณสมบัติที่พอเราจะเป็นลูกเรือในสายการบินต่างๆได้”