การตระหนักรู้ระดับโลก:'ทักษะที่ผู้นำยุคใหม่ต้องมี'โดยอภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

การตระหนักรู้ระดับโลก:'ทักษะที่ผู้นำยุคใหม่ต้องมี'โดยอภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

จากงานวิจัยที่ สลิงชอท กรุ๊ป ทำร่วมกับ Center for Creative Leadership และ FutureTales Lab by MQDC พบว่า คุณลักษณะของผู้นำที่เหมาะกับยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

ซึ่ง มี 6 ประการย่อเป็น IMPACT ซึ่งแบ่งออกเป็นทักษะย่อยๆ ได้ 10 ข้อ 

วันนี้ขอเล่าถึงทักษะย่อยข้อแรกที่ชื่อว่า Embracing Global Awareness (การตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงหรือความเคลื่อนไหวในระดับโลก)

การมีมุมมองในระดับโลกไม่ใช่แค่ข้อได้เปรียบอีกต่อไป แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็น ผู้นำที่เพิกเฉยต่อแนวโน้มระดับนานาชาติจะพบว่าตัวเองตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ในขณะที่ผู้ที่ติดตามและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงระดับโลกจะสามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เกิดนวัตกรรมและความสามารถในการแข่งขันได้

แต่การตระหนักรู้ในระดับโลก (Global Awareness) แท้จริงแล้วหมายถึงอะไร? และทำไมจึงเป็นทักษะสำคัญที่ผู้นำยุคปัจจุบันต้องมี ?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

IMPACT: คุณสมบัติสำคัญสำหรับผู้บริหารไทย โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

พนักงานที่องค์กรไม่อาจขาดได้ โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

บทเรียนจากโลกธุรกิจ: ความสำเร็จ vs. ความล้มเหลว

ลองพิจารณากรณีของสยาม ผู้บริหารชาวไทยที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจการผลิตในประเทศมากว่าสิบปี ธุรกิจของเขาเติบโตได้ดีในตลาดภายในประเทศ แต่เมื่อเกิดโรคระบาดขึ้นและซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงัก สยามกลับตระหนักช้าเกินไปว่าธุรกิจของเขายังพึ่งพาโมเดลแบบเก่า

ในขณะที่คู่แข่งจากจีนและ เวียดนามได้เริ่มใช้เครื่องไม้เครื่องมือทางดิจิทัลและกระจายผู้ผลิต (Supplier) ไปยังหลายประเทศ ธุรกิจของสยามต้องดิ้นรนเพื่อปรับตัว ส่งผลให้สูญเสียรายได้และส่วนแบ่งตลาดมหาศาล นี่เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า การรับรู้ถึงแนวโน้มระดับโลกและปรับตัวให้ทันเวลามีความสำคัญเพียงใด

ในทางกลับกัน พลอย ผู้นำรุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เป็นคนที่ให้ความสนใจกับแนวโน้มระดับนานาชาติมาโดยตลอด เธอมีส่วนร่วมกับผู้นำความคิดระดับโลกผ่านฟอรัมและโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศ เมื่อเธอเห็นว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังมาแรงในซิลิคอนวัลเลย์ เธอไม่ได้รอให้กระแสนั้นมาถึงประเทศไทย 

แต่เริ่มสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับสตาร์ทอัพ AI จากอิสราเอลและแคนาดา และนำโซลูชันล้ำสมัยมาใช้ในแพลตฟอร์มของบริษัท ภายในสามปี บริษัทของเธอกลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ AI ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความสามารถของพลอยในการมองเห็นโอกาสระดับโลกไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจเติบโต แต่ยังทำให้บริษัทของเธอกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอีกด้วย

เรื่องราวของสยามและพลอยสะท้อนให้เห็นว่า การตระหนักรู้ในระดับโลกไม่ใช่แค่เรื่องของ การเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างหรือการติดตามข่าวสารระหว่างประเทศ แต่หมายถึงการมองเห็นโอกาสและความเสี่ยงระดับโลก ปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับสากล และสร้างองค์กรที่พร้อมแข่งขันในตลาดโลก

ผู้นำที่ขาดมุมมองระดับสากล มักดำเนินธุรกิจแบบโดดเดี่ยว พลาดโอกาสสำคัญในการร่วมมือและนวัตกรรมระดับนานาชาติ พวกเขาตัดสินใจโดยขาดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับมาตรฐานสากล ซึ่งนำไปสู่ความไม่มีประสิทธิภาพและการเสียเปรียบทางการแข่งขัน นอกจากนี้ องค์กรที่ไม่มีแนวคิดเชิงสากลมักดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถได้น้อยลง โดยเฉพาะในยุคที่คนรุ่นใหม่มองหาองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ระดับนานาชาติและก้าวไปข้างหน้า

การตระหนักรู้ในระดับโลกสามารถพัฒนาและแสดงออกได้ในทุกระดับของการบริหาร

• ระดับผู้บริหารสูงสุด (Executive Level): ต้องกำหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์ขององค์กรโดยมีมุมมองระดับโลก ใช้ข้อมูลเชิงลึกจากตลาดต่างประเทศ สร้างพันธมิตรระดับโลก และทำให้บริษัทเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมทั่วโลก

• ระดับหัวหน้าฝ่าย (Department Head Level): ต้องบูรณาการแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับโลกเข้าสู่กระบวนการขององค์กร และใช้มาตรฐานสากลเป็นเกณฑ์วัดประสิทธิภาพ

• ระดับผู้จัดการทีม (Team Managers & Supervisors): ควรกระตุ้นให้พนักงานศึกษาแนวโน้มระดับโลกและนำโซลูชันใหม่ๆ มาปรับใช้ในงานประจำวัน

• ระดับพนักงานทั่วไป (Individual Contributors): ควรฝึกฝนตนเองให้มีความใฝ่รู้ในระดับนานาชาติ โดยติดตามแนวโน้มใหม่ๆ และค้นหาวิธีนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน

ตัวอย่างองค์กรที่มีการตระหนักรู้ระดับโลกอย่างโดดเด่น ได้แก่ IBM ซึ่งส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในโครงการระดับนานาชาติ ทำให้พนักงานได้สัมผัสมุมมองที่หลากหลายและแนวทางแก้ปัญหาที่เป็นสากล อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Unilever ซึ่งผสานเป้าหมายด้านความยั่งยืนให้สอดคล้องกับนโยบายระดับนานาชาติ ทำให้บริษัทสามารถรักษาตำแหน่งในตลาดโลกได้อย่างแข็งแกร่งและปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ

อนาคตของการเป็นผู้นำจะต้องเป็นสากลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้จากทุกมุมโลก ความสามารถในการคาดการณ์และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นคือสิ่งที่จะทำให้องค์กรอยู่รอดและเติบโต ผู้นำไม่ควรเพียงแค่เข้าใจแนวโน้มระดับโลก แต่ต้องสามารถคาดการณ์และลงมือทำได้ก่อนคู่แข่ง ผู้นำที่ทำได้จะไม่เพียงช่วยปกป้ององค์กรจากความเสี่ยง แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างการเติบโตและความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้อีกด้วย