5 วิธีป้องกันสัตว์มีพิษในช่วงน้ำท่วม หลักปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง
กรมควบคุมโรค เตือนประประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ระวังสัตว์มีพิษ แนะ 5 วิธีป้องกัน ปี64 ผู้ถูกงูกัดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จำนวน 7,107 ราย
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคขอแนะนำประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ให้ระมัดระวัง อันตรายจากสัตว์มีพิษ ที่หนีน้ำมาหลบซ่อนในบ้านกัดต่อย เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง โดยเฉพาะงู ซึ่งในประเทศไทยมีงูหลายชนิดที่มีพิษร้ายแรง หากถูกกัดอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จากข้อมูลสถิติประเทศไทย ปี 2564 ของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค
จำนวนผู้ถูกงูกัด และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จำนวน 7,107 ราย
- เพศชายถูกกัดมากกว่าเพศหญิงเกือบ 2 เท่า
- พบผู้ถูกงูกัดในช่วงฤดูร้อนถึงฤดูฝน คือช่วงเดือนเมษายน - พฤศจิกายน
- โดยในเดือนตุลาคมพบผู้ป่วยในจากสาเหตุงูกัดสูงสุดจำนวน 779 ราย
- ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและลูกจ้างทั่วไป
- 5 ข้อป้องกันสัตว์มีพิษ
สำหรับคำแนะนำการป้องกันสัตว์มีพิษในช่วงน้ำท่วม คือ
1.สอดส่องและสังเกตมุมอับของบ้านเป็นประจำ ติดตั้งไฟส่องสว่างให้เพียงพอ
2.สำรวจที่นอน ยกที่นอนให้สูงจากพื้น หากกางมุ้งได้ควร
กางมุ้ง
3.สำรวจเสื้อผ้า รองเท้าก่อนสวมใส่ทุกครั้งและสวมรองเท้าบูทเมื่อเข้าสวน
4.ทำความสะอาดบ้านและดูแลบ้านให้เป็นระเบียบ
5.หลีกเลี่ยงการเดินในที่แคบหรือมีหญ้ารกขึ้นสูงในช่วงเวลากลางคืน
- ปฐมพยาบาลเมื่อถูกงูกัด
ด้านนพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในกรณีที่ถูกงูกัดควรปฐมพยาบาลให้ถูกวิธี ดังนี้
1.บีบเลือดบริเวณบาดแผลออก เพื่อขจัดพิษงูออกจากร่างกาย
2.ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและฟอกสบู่หรือน้ำด่างทับทิม ใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้ง
3.พยายามให้อวัยวะที่ถูกกัดเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด อาจดามบริเวณดังกล่าวให้อยู่ในระดับต่ำกว่าหัวใจ ห้ามขันชะเนาะ หรือรัดเชือกแน่นเหนือแผล เพราะเสียงอวัยวะขาดเลือด อาจสูญเสียอวัยวะได้
พร้อมทั้งให้รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ทั้งนี้
หากพบงูหรือสัตว์มีพิษเข้าบ้านควรตั้งสติให้ดี และโทรขอความช่วยเหลือได้ที่ 199 หรือหากได้รับบาดเจ็บให้โทร 1669