อาหารเช้าสำคัญไฉน ? ส่อง 5 เมนูง่ายๆ เติมพลังสมอง
กรมอนามัย ห่วงเด็กนักเรียนไม่ได้กิน "อาหารเช้า" เสี่ยงน้ำตาลในเลือดต่ำ ร่างกายอ่อนเพลีย อาจกระทบต่อการเรียนและสุขภาพได้ กรมอนามัยขอแนะนำ 5 ชุดเมนูอาหารเช้า สะดวก ทำได้ง่าย เติมพลังสมอง และช่วยให้มีสมาธิในการเรียน
"อาหารมื้อเช้า" ถือเป็นมื้ออาหารที่สำคัญ กรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า การกินอาหารเช้าจะช่วยเติมท้องที่ว่างมาทั้งคืนของเรา ที่สำคัญเมื่อตื่นนอนในตอนเช้า ระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำ เมื่อลุกขึ้นเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่างๆ ก็จะรู้สึกหิว อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดสำหรับการให้พลังงาน
การงดรับประทานอาหารมื้อเช้า ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เนื่องจากกระเพาะอาหารของคนมีขนาดความจุที่จำกัดสำหรับการกินอาหารแต่ละครั้ง โดยเฉพาะในเด็กวัยเรียนซึ่งมีขนาดของกระเพาะอาหารเล็กกว่าผู้ใหญ่ ในขณะที่มีความต้องการพลังงานและสารอาหารต่อหน่วยน้ำหนักมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นวัยที่ยังเจริญเติบโตทุกคนจึงจำเป็นต้องกินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อ
ตามหลักโภชนาการอาหารทุกมื้อสำคัญควรกินอาหารทุกมื้อในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ร่างกายจึงจะได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอ โดยในเด็กเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต แต่ในผู้ใหญ่ใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
อาหารเช้า มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร
1. อาหารเช้าช่วยควบคุมน้ำหนักได้
- เพราะจากมื้อเย็นจนถึงเช้าวันใหม่ เราอดอาหารมานานเกือบ 12 ชั่วโมง และหากเรายิ่งไม่กินอาหารเช้า ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง ร่างกายยังรู้สึกหิวตลอดเวลา ทำให้บริโภคอาหารมื้อถัดไปมากขึ้น และต้องการกินอาหารจุบจิบอีก ซึ่งมักจะเลือกอาหารที่ให้พลังงานสูงเกินความต้องการของร่างกายในมื้อต่อไปเป็นสาเหตุให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว โรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังอื่นๆที่ตามมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
2. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดสมองและโรคหัวใจ
- เพราะในตอนเช้าเลือดของเรามีความเข้มข้นสูงส่งผลให้เส้นเลือดที่ส่งไปเลี้ยงสมอง หรือหัวใจอุดตันได้ แต่ถ้ากินอาหารเช้าเข้าไปจะช่วยให้ระดับความเข้มข้นในเลือดเจือจางลง
3. จะช่วยให้ระดับความเข้มข้นในเลือดเจือจางลง
- โดยคนที่กินอาหารเช้าจะมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน อาหารตามธงโภชนาการ อาหารที่ทำให้ลูกน้อยก็ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานนั้นลดลงถึงร้อยละ เช่นกัน ต้องครบคุณค่า และต้องหลากหลาย
4. ลดโอกาสเกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดี
- การไม่กินอาหารนานกว่า 14 ชั่วโมงจะทำให้คอเลสเตอรอลอาหารนานกว่า 14 ชั่วโมงจะทำให้คอเลสเตอรอลไปสิ่งที่จับตัวกันนั้นจะกลายเป็นก้อนนิ่ว แต่หากเรากินอาหารเช้าเข้าไป จะกระตุ้นให้ตับปล่อยน้ำดีออกมาละลายคอเลสเตอรอลที่จับตัวกันอยู่ได้
5. อาหารเช้ากระตุ้นพลังสมอง
- การกินอาหารเช้าเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการทำงานทำให้ระบบความจำ ทักษะการเรียนรู้
เด็กไม่กิน "อาหารเช้า" ส่งผลต่อการเรียน สุขภาพ
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงเปิดเทอม บางครอบครัว พ่อแม่จำเป็นต้องรีบออกจากบ้านแต่เช้า จนทำให้ละเลยไม่มีเวลาเตรียมอาหารเช้าสำหรับลูก ซึ่งเด็กที่ไม่ได้กินอาหารเช้าเป็นประจำ จะส่งผลต่อการเรียนและสุขภาพ เนื่องจากช่วงเวลาระหว่างอาหารเย็นจนถึงช่วงเช้า ร่างกายจะมีการเผาผลาญอาหารตลอดเวลา หากร่างกายไม่ได้รับอาหารในมื้อเช้า จะทำให้ปริมาณน้ำตาล ในเลือดลดต่ำลง ส่งผลให้อ่อนเพลีย อาจถึงขั้นหน้ามืดเป็นลมได้
5 เมนูอาหารเช้าสำหรับเด็ก ทำง่าย รวดเร็ว ครบหมู่
ชุดที่ 1 ข้าวกล้อง ฟักทองผัดไข่ และแตงโม
- ฟักทองอุดมด้วยวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาของเด็กวัยเรียน ซึ่งต้องจ้องจอไวท์บอร์ดหรือกระดานนาน และลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิด โรคทางตา นอกจากนี้ ไข่แดงยังมีลูทีน ซีแซนทีน ที่ปกป้องดวงตา ป้องกันการเสื่อมของจอประสาทตา
ชุดที่ 2 ข้าวสวย ต้มเลือดหมู ใส่หมูสับ ตับหมู ใบตำลึง และส้ม
- ธาตุเหล็กจากเลือดและตับหมู ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก และควรกินคู่กับผลไม้สดที่มีวิตามินซี เพื่อช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กให้ดียิ่งขึ้น
ชุดที่ 3 แซนวิชขนมปังโฮลวีททูน่าสลัดไข่
- เมนูนี้ทำง่ายและสะดวกในการกินระหว่างเดินทาง ซึ่งอุดมด้วยใยอาหารจากธัญพืชและผัก ไข่มีโปรตีน ปลาทูน่าอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ช่วยบำรุงสมอง
ชุดที่ 4 โจ๊กหมูสับใส่ไข่ กับนม
- โจ๊กมีคุณค่าอาหารครบถ้วน ย่อยง่ายแต่หนักท้อง ทำให้อิ่มทน จมูกข้าวอุดมด้วยวิตามินอี และแกมมาออริซานอล ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนต์ ได้โปรตีนทั้งจากหมูและไข่ ขิง ต้นหอม ช่วยชูรสชาติและมีใยอาหาร
ชุดที่ 5 ข้าวผัดไก่ ต้มจืดไข่น้ำสาหร่าย แอปเปิล
- เนื้อไก่นุ่มอร่อย มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ รวมกับข้าวผัดไข่หอม ๆ เป็นแหล่งพลังงานชั้นดี ไข่น้ำ มีโปรตีน กินง่าย คล่องคอ เหมาะกับมื้อเช้า สาหร่ายมีไอโอดีนซึ่งจำเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาสติปัญญาและร่างกาย
ที่สำคัญควรเตรียม นมรสจืด 1 กล่อง และผลไม้ประมาณ 1 ผล เช่น กล้วยน้ำว้า ส้ม แอปเปิล ชมพู่ เพื่อให้เด็กได้คุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมและครบถ้วน
“ทั้งนี้ จากผลการสำรวจพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชาชน อายุ 6 ปีขึ้นไป ตั้งแต่ปี 2548 - 2564 พบว่า ประชาชนมีการบริโภคอาหารมื้อหลักครบทั้ง 3 มื้อ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่วนใหญ่นิยมทำกินเอง ซึ่งเป็นผลดีกับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว เพราะเด็กวัยเรียนเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโต จำเป็นต้องกินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อ"
"ดังนั้น เพื่อเป็นการประหยัดเวลา ลดความยุ่งยากในช่วงเช้า จึงควรวางแผนการเตรียมอาหารไว้ล่วงหน้า เลือกเมนูที่ปรุงง่าย สามารถจัดเตรียมวัตถุดิบไว้ล่วงหน้าได้ หรืออาจปรุงอาหารพร้อมมื้อค่ำ โดยเก็บในตู้เย็นเพื่ออุ่นกินในมื้อเช้า” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว