"หมอธีระ" อัปเดตวัคซีนรุ่นใหม่ bivalent กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าเดิม
"หมอธีระ" อัปเดตวัคซีนรุ่นใหม่ชนิด bivalent กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าเดิม มีความจำเพาะต่อสายพันธุ์ Omicron มากขึ้น
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ "หมอธีระ" คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat" ระบุว่า 5 ธันวาคม 2565 วันพ่อแห่งชาติ
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 258,416 คน ตายเพิ่ม 461 คน รวมแล้วติดไป 649,895,046 คน เสียชีวิตรวม 6,646,222 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุด คือ
- ญี่ปุ่น
- ฝรั่งเศส
- เกาหลีใต้
- ไต้หวัน
- อาร์เจนติน่า
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 86.61 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 86.76
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ประสิทธิภาพ และเงื่อนเวลาคือสิ่งสำคัญในการศึกสงครามโรค
ไม่ว่าจะประเทศไหนในโลกก็ตาม การวางแผนเรื่องยาและวัคซีน สำหรับรักษาและป้องกันโรคใดๆ นั้นถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะกำหนดผลลัพธ์ทางด้านสุขภาพของประชากรในสังคมนั้น
หากการบริหารจัดการมีปัญหา ใช้ยาที่ไม่มีประสิทธิภาพจริง ใช้ยาผีบอก พืชผักสมุนไพรตามความเชื่อที่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ตามขั้นตอนมาตรฐานวิชาการสากลอย่างเพียงพอ ก็ย่อมทำให้นำไปรักษาผู้ป่วยไม่ได้ผล เกิดความสูญเสียตามมา ไม่ใช่แค่ความสูญเสียต่อชีวิตของผู้ป่วย แต่ยังหมายถึงความสูญเสียของสมาชิกในครอบครัว และความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจของระดับบุคคล ครัวเรือน และประเทศด้วย
วัคซีนก็มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ต่างกันเพียงเรื่องการมุ่งหวังผลด้านการป้องกัน
นอกจากประสิทธิภาพแล้ว "เงื่อนเวลา" ที่ได้มาใช้จริงนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หากได้อาวุธมา แต่ไม่ทันต่อสถานการณ์ ก็ย่อมทำให้การศึกสงครามโรคนั้นประสบกับความยากลำบากได้ ดังที่สามารถเห็นบทเรียนต่างๆ ในรอบปีที่ผ่านมา
สำหรับโควิด-19 นั้น
สายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบันมีสมรรถนะในการหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้มาก ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทั้งฝั่งอเมริกาและยุโรปจึงได้มีการตัดสินใจใช้วัคซีนรุ่นใหม่ชนิด bivalent ซึ่งสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าเดิม เพราะมีความจำเพาะต่อสายพันธุ์ Omicron มากขึ้น
Topol E ได้ทำการติดตามรวบรวมผลการศึกษาจนถึงปัจจุบัน มีแล้ว 7 ชิ้น ที่ทำการพิสูจน์ให้เห็นว่า Bivalent vaccines นั้นสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันทั้งต่อ BA.5 และ BQ.1.1 ได้สูงกว่าเดิม ด้วยข้อมูลวิชาการปัจจุบัน การตัดสินใจนำ Bivalent vaccines มาให้แก่ประชาชน จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ควรดำเนินการทันที
อย่างไรก็ตาม สำหรับไทยเรานั้น ยังไม่มีวัคซีนประเภทนี้เข้ามาใช้ สถานการณ์ระบาดปัจจุบันมีการแพร่เชื้อติดเชื้อจำนวนมาก ประกอบกับมีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายไปนานกว่า 6 เดือนแล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันมากขึ้น ลดโอกาสป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
ไม่ควรรอวัคซีนรุ่นใหม่ เพราะจะไม่ทันต่อสถานการณ์ระบาด เหนืออื่นใด ควรป้องกันตัวระหว่างดำเนินชีวิตประจำวัน เลี่ยงการกินดื่มใกล้ชิดกับคนอื่นนอกบ้าน เลี่ยงสถานที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก