สธ.เห็นชอบเพิ่มสายงานรับ ค่าตอบแทน-โอที-เวรบ่ายดึก ปรับฐาน พ.ต.ส. 20%
สธ.เห็นชอบเพิ่มสายงานรับค่าตอบแทน/ค่าโอที/เวรบ่ายดึก พร้อมเสนอปรับฐานอัตราเงิน พ.ต.ส. 20% และเพิ่ม 8 วิชาชีพ
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 2/2565 โดยกล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้รับทราบตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข ในการปรับปรุงเพิ่มเติมรายชื่อ สาขาวิชาชีพ และรายชื่อสายงาน ที่มีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนในข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุขฯ พ.ศ. 2565 ดังนี้
1.นักวิทยาศาสตร์ มีการเพิ่ม 10 สายงาน คือ นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก แพทย์แผนไทย นักจิตวิทยาคลินิก นักกิจกรรมบำบัด นักกายอุปกรณ์ นักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย นักโภชนาการ นักฟิสิกส์รังสี นายสัตวแพทย์ และนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์
2.นักวิชาการด้านสาธารณสุข เพิ่ม 4 สายงาน ได้แก่ นักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา นักวิชาการสิ่งแวดล้อม และนักวิชาการเกษตร
3.เจ้าพนักงานสาธารณสุข เพิ่ม 3 สายงาน คือ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน พนักงานกู้ชีพ
4.เจ้าพนักงานเทคนิค เพิ่ม 3 สายงาน ได้แก่ ช่างกายอุปกรณ์ ช่างทันตกรรม และช่างภาพการแพทย์ รวมทั้งหมด 20 สายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ส่วนรายชื่อสายงานที่มีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนโอที และเวรผลัดบ่าย/ดึก ตามหลักเกณฑ์ค่าตอบแทนฉบับที่ 5 ในส่วนของตำแหน่งเจ้าหน้าที่พยาบาล ได้มีการขยายนิยามและเพิ่มสายงาน 4 สายงาน คือ
1. พยาบาลวิชาชีพ นักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ (วุฒิปริญญาตรี)
2. พยาบาลเทคนิค เจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน เจ้าพนักงานสาธารณสุข (เวชกิจฉุกเฉิน) พนักงานกู้ชีพ EMT-I (วุฒิอนุปริญญา)
3. ผู้ช่วยพยาบาล
4. ผู้ช่วยเหลือคนไข้ พนักงานกู้ชีพ EMT-B
ซึ่งจากการคาดการณ์สถานการณ์การเงินการคลังหลังการเพิ่มค่าตอบแทนฉบับ 5 โดยเมื่อปรับค่าตอบแทนโอที 8% และค่าเวรบ่าย/ดึก 50% และปรับเพิ่มวิชาชีพและสายงานดังกล่าวแล้ว มีค่าใช้จ่ายเพิ่มประมาณปีละ 3 พันล้านบาท หน่วยบริการโรงพยาบาลทุกระดับสามารถดำเนินการบริหารจัดการได้ และสอดคล้องกับสภาวะการเงินการคลังรายรับรายจ่ายในภาพรวม
กรณีโรงพยาบาลที่มีปริมาณงานมากและมีสถานการณ์เงินบำรุงรายรับดี สามารถปรับการเบิกจ่ายให้เพิ่มได้ตามความเหมาะสมของภาระงานและสถานการณ์การเงินการคลัง โดยผู้บริหารหน่วยงานต้องติดตามผลรายรับรายจ่ายหลังเพิ่มค่าตอบแทนตามฉบับที่ 5 โดยผู้บริหารระดับจังหวัด และเขตสุขภาพ ร่วมพิจารณาการดำเนินงานในภาพรวม
"การปรับปรุงเพิ่มค่าตอบแทนโอที ได้มีการแก้ไขข้อความเล็กน้อยในส่วนของแพทย์ จากเดิมที่ระบุว่า แพทย์อัตราเดิม 550- 1,100 บาท ได้แก้ไขข้อเสนอเป็นอัตรา 600-1,200 บาท แทน ทั้งนี้ จะมีการจัดทำร่างข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุขฯ และจัดทำร่างหลักเกณฑ์ค่าตอบแทนฉบับที่ 5 ที่แก้ไขเพิ่มเติม นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขระเบียบเงินบำรุงฯ และกฎหมายลำดับรอง เสนอปลัดกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาลงนามต่อไป" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีการปรับเพิ่มรายชื่อ สาขาวิชาชีพ ที่สามารถเบิกจ่ายค่าตอบแทนในอัตราสหสาขาวิชาชีพ แนบท้ายหลักเกณฑ์ค่าตอบแทนฉบับที่ 11 ซึ่งเดิมมีการประกาศรายชื่อ 12 สาขาวิชาชีพ ก็ได้เพิ่มตำแหน่ง "นักโภชนาการ" เป็นลำดับที่ 13 รวมถึงเห็นชอบการปรับหลักเกณฑ์และอัตราเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีพิเศษของผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข (พ.ต.ส.) ซึ่งผ่านความเห็นชอบที่ประชุม อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุขแล้ว
โดยเสนอปรับฐานอัตราเงิน พ.ต.ส.เพิ่มร้อยละ 20 เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และเพิ่ม 8 วิชาชีพ ได้แก่
- นักสาธารณสุขหรือนักวิชาการสาธารณสุข
- แพทย์แผนไทย
- นักกายอุปกรณ์
- นักโภชนาการ
- นักวิทยาศาสตร์การแพทย์
- นักสังคมสงเคราะห์
- นักฟิสิกส์รังสี
- นักฟิสิกส์การแพทย์
โดยคาดการณ์ว่างบประมาณจากการปรับฐานจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.06 ซึ่งตรงนี้จะใช้เงินงบประมาณ จึงจะเสนอขอความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ต่อไป