ไทยส่งทีมแพทย์ ร่วมปฏิบัติการกู้ภัย ‘แผ่นดินไหวตุรกี’ เดินทางค่ำนี้
สธ.จัดทีมบุคลากรทางการแพทย์เข้าร่วมทีมค้นหากู้ภัยเหตุ "แผ่นดินไหวตุรกี" เตรียมเดินทางค่ำนี้ (9 ก.พ.66) พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เหมาะสมภายใน 1 สัปดาห์ เตรียมพร้อมทีม Thailand EMT สนับสนุนตามความต้องการ
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเหตุการณ์ แผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกีและซีเรีย หรือ "แผ่นดินไหวตุรกี" ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ว่า ได้รับข้อสั่งการจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องนายกรัฐมนตรี มีดำริผ่านกระทรวงต่างประเทศ ในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการแพทย์ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุข โดยกองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ จึงประชุมหารือร่วมกับกรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ถึงสถานการณ์และความช่วยเหลือ พบว่า ประเทศตุรกีมีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง มีการประกาศเขตภัยพิบัติ 10 จังหวัด ส่วนประเทศซีเรียได้รับผลกระทบวงกว้างเช่นกัน ภาพรวมประชากรได้รับบาดเจ็บมากกว่า 20,000 ราย และอยู่ระหว่างค้นหาผู้ติดอยู่ในซากตึก โดยอุณหภูมิ ในพื้นที่ประมาณ -10 องศาเซลเซียส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สำหรับการพิจารณาสนับสนุนความช่วยเหลือเบื้องต้น จะแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่
1. การส่งทีม Urban Search and Rescue (USAR) หรือทีมค้นหากู้ภัย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรับดำเนินการ ซึ่งจะมีบุคลากรแพทย์ พยาบาลกู้ชีพ และเวชกิจฉุกเฉิน ของกรมการแพทย์ จำนวน 3 คนเข้าร่วมทีม ออกเดินทางในช่วงค่ำวันนี้
2.การสนับสนุนครุภัณฑ์และเวชภัณฑ์ ซึ่งสถานทูตตุรกีได้ส่งรายการเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ต้องการมา 215 รายการ กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นและเหมาะสมต่อสถานการณ์แผ่นดินไหวในวงเงิน 5-6 ล้านบาท อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ส่วนประเทศซีเรียไม่มีสถานทูตไทย การดำเนินการขอให้พิจารณาผ่านสถานทูตไทย ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน
3.การสนับสนุนทีมแพทย์เบื้องต้น โดยทีมแพทย์ทหารจัดส่งทีม MERT (Medical Emergency Response Team) ประมาณ 25 นาย ไปปฏิบัติการ
4.กระทรวงสาธารณสุข จะเตรียมความพร้อมทีม Thailand EMT (Emergency Medical Team) ซึ่งเป็นทีมปฏิบัติการทางการแพทย์ด้านภัยพิบัติที่ผ่านการอบรมและขึ้นทะเบียนกับองค์การอนามัยโลก อยู่ระหว่างการระดมทีม
สรุปแผนและแนวทางการปฏิบัติ มีจำนวน 32 คน เป็นสหวิชาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาลกู้ชีพ นักวิชาการสาธารณสุข เวชกิจฉุกเฉิน เทคนิคการแพทย์ วิศวกร บุคลากรอื่นๆ โดยจะมีการประชุมพรุ่งนี้ และจะประสานกับกระทรวงกลาโหม ว่าทีมแพทย์ทหารที่เดินทางไปแล้วต้องการทีมสนับสนุนเพิ่มเติมหรือผลัดเปลี่ยนหรือไม่ โดยกรมการแพทย์ เป็นผู้ประสานหลัก
"การไปปฏิบัติการช่วยเหลือในครั้งนี้มีข้อจำกัดหลายประการ ทั้งเรื่องอุณหภูมิที่ต่ำถึง - 10 องศาเซลเซียส ภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม รวมถึงการเกิด After Shock จึงเน้นย้ำให้บุคลากรที่จะเดินทางไปให้ความช่วยเหลือระมัดระวังอย่างเต็มที่ ดูแลความปลอดภัยทั้งของ ตนเองและผู้ประสบภัย" นพ.โอภาสกล่าว