หนุน 'ผู้สูงอายุ-กลุ่มเสี่ยง 607'เร่งฉีดภูมิคุ้มกันช่วงเทศกาลสงกรานต์
กรมควบคุมโรค จัด 'สร้างภูมิให้ผู้สูงวัย ปลอดภัยด้วยภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป' เพื่อให้เห็นความสำคัญของการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด 19 และกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุ
ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดี กรมควบคุมโรค และน.ส.แรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานร่วมเปิดกิจกรรม "สร้างภูมิให้ผู้สูงวัยปลอดภัยด้วยภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป"
เพื่อเร่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะป่วยหนักและเสียชีวิต โดยมี ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ และคณะผู้บริหารกรมควบคุมโรค ร่วมงาน
นพ.ธเรศ กล่าวถึงการรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปว่าเป็นการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต่อโควิด 19 ที่มีประสิทธิภาพในกลุ่มเป้าหมายที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ได้แก่ ผู้สูงอายุและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ข้อมูลจากผลการศึกษาและจากการใช้จริงพบว่า ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูงและผลข้างเคียงที่ต่ำมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ทำไม"ผู้หญิงโสด"มากขึ้น การแต่งงานไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบของชีวิต
ปักหมุด 6 โครงการฟื้นฟูผู้สูงอายุ ที่สามารถเริ่มเบิกจ่ายประกันได้
ไม่อยากแก่ ต้องเข้าใจ "เวชศาสตร์ชะลอวัย" โกงอายุแบบไม่ต้องพึ่งมีดหมอ!
บริการฉีดภูมิคุ้มผู้สูงอายุในช่วงเทศกาลสงกรานต์
แต่เท่าที่ผ่านมากลุ่มเป้าหมายอาจจะยังไม่ทราบถึงข้อมูล ประโยชน์และความปลอดภัยของการได้รับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปรวมถึงมีกลุ่มเป้าหมายบางส่วนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการฉีด
การจัดกิจกรรมที่สถานดูแลผู้สูงอายุบ้านบางแคในครั้งนี้ จึงถือเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงข้อมูลและการรับบริการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป รวมถึงเพื่อเป็นต้นแบบการดำเนินการให้บริการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปเชิงรุกในสถานดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งจะได้มีการขยายผลไปยังสถานดูแลผู้สูงอายุอื่นๆ เพื่อเตรียมพร้อมรับเทศกาลสงกรานต์
แนะกลุ่มเสี่ยง 607 - สูงวัยเร่งฉีดภูมิคุ้มกัน
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยได้ให้บริการภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา ซึ่งได้ให้บริการแล้วกว่า 63000 ราย ซึ่งยังมีกลุ่มเปราะบางอีกจำนวนมากที่เข้าเกณฑ์การรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป
จากการประชุมร่วมระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและคณะผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมแพทย์เฉพาะทาง ในวันที่ 16 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ยังคงแนะนำให้กลุ่มเสี่ยง 607 และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปสำหรับการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อ ซึ่งภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปยังสามารถใช้ได้กับสายพันธ์ BA 2.75 ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดอยู่ในประเทศไทยในขณะนี้
"ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปมีประสิทธิภาพดีและมีความปลอดภัยสูง ทั้งนี้กลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยโควิด 19 ที่เข้าเกณฑ์สามารถเข้ารับการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ได้ที่โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สถานพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ทุกแห่งทั่วประเทศ สถาบันบำราศนราดูร และสถานพยาบาลโรงเรียนแพทย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”นพ.โสภณ กล่าว