ระวัง!! ไส้กรอกจีนเถื่อน พบลักลอบนำเข้า อย.แนะไม่ควรซื้อ หรือนำมาบริโภค
ตามที่มีข่าวผ่านทางสื่อออนไลน์ว่า หน่วยงาน DLD-Quarantine and Inspection K9 unit ของกรมปศุสัตว์ ได้ทำการตรวจยึดสินค้าไส้กรอกหมูลักลอบนำเข้าจากประเทศจีนนั้น
เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า ไส้กรอกหมูที่ลักลอบนำเข้ามานั้น เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่ได้ขอเลขสารบบอาหารและไม่แสดงฉลากตามกฎหมาย
โดยผู้นำเข้า หากนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และหากพบการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง จะมีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท ทั้งนี้ อย. ได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์แล้ว จะดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เปิดไส้“ไส้กรอก” สารอะไร...กินมากไป ป่วยและตายได้
ปม ‘ไส้กรอกสิงโต’ โดนแบน ชวนเช็กอาหาร ‘ห้ามนำเข้าไทย’ เสี่ยงโทษปรับ-จำคุก!
นวัตกรรมหนังคอลลาเจนไส้กรอก เพิ่มประสิทธิภาพ-ลดพลังงาน-ลดต้นทุนผลิต
เบคอน ไส้กรอก ยิ่งกินยิ่งเสี่ยง "มะเร็งลำไส้" ส่องวิธีปรับการกินให้สมดุล
เตือนเลือกซื้อไส้กรอกที่มาจากแหล่งน่าเชื่อถือ
"ขอเตือนให้ประชาชนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไส้กรอกที่มาจากแหล่งน่าเชื่อถือ มีฉลากแจ้งข้อมูลสำคัญ ได้แก่ เลขสารบบอาหาร ผู้ผลิต ส่วนประกอบ วิธีรับประทาน และติดตามข้อมูลข่าวสารจากอย. โดยเฉพาะการแจ้งผลการตรวจวิเคราะห์อาหาร ทั้งนี้ หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีการแจ้งเตือนว่ามีการปนเปื้อนหรือไม่ปลอดภัย ในการบริโภค และไม่ควรรับประทานอาหารดิบหรือผ่านความร้อนไม่เพียงพอ"
หากมีข้อสงสัย หรือพบการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายให้แจ้ง สายด่วน อย. 1556, ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) โทร. 0 2590 7354-5, กองอาหาร โทร. 0 2590 7252 หรือ สำนักงานสาธารณสุขทั่วประเทศ รองเลขาธิการฯ กล่าวในที่สุด
แนะวิธีการรับประทานอาหารแปรรูป บริโภคเนื้อแดง
ทั้งนี้ จากงานวิจัยจากสหราชอาณาจักร ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Epidemiology (รายงาน ณ ปี 2019 ; อัปเดตข้อมูลใหม่ปี 2021) ทีมวิจัยได้ศึกษาในหัวข้อ 'คนที่กินเนื้อแดงและแปรรูปเฉลี่ย 76 กรัมต่อวัน หรือแฮมประมาณ 3 ชิ้น (ระดับปานกลาง) มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ?' โดยปริมาณดังกล่าวใกล้เคียงกับปริมาณเฉลี่ยที่ผู้คนในสหราชอาณาจักรรับประทานในแต่ละวัน
ทีมวิจัยได้สำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลจากประชากร 'วัยทำงาน' ในสหราชอาณาจักรกว่า 500,000 คน ในช่วงเกือบ 7 ปีที่ผ่านมา ผลการวิจัยพบว่า การรับประทานเนื้อแดงและอาหารแปรรูป แม้จะบริโภคในระดับปานกลาง (ไม่ได้บริโภคปริมาณมาก) มีความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานอาหารแปรรูปและเนื้อแดงน้อยกว่า 11 กรัมต่อวัน
นักวิจัยมีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีปรับลดการบริโภคเนื้อแดงและอาหารแปรรูป ที่วัยทำงานสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ ดังนี้
1. เลือกหนึ่งวันในแต่ละสัปดาห์ กำหนดให้เป็นวันงดกินเนื้อสัตว์และอาหารแปรรูป เพื่อควบคุมให้ตนเองบริโภคน้อยลง
2. ค้นหาสูตรอาหารใหม่ๆ ที่ใช้เนื้อไก่หรือปลาสด มาทดแทนเนื้อแดง (เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อหมู) หรือทดแทนอาหารแปรรูป
3. ใช้วิธีแทนที่เนื้อสัตว์บางส่วนหรือทั้งหมดในอาหารปกติของคุณด้วยถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเลนทิล ถั่วลูกไก่ เป็นต้น
4. ลองทำ Veg Pledge หรือการตั้งคำมั่นว่าจะกินมังสวิรัติติดต่อกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น ตั้งปณิธานว่าจะกินอาหารมังสวิรัติเท่านั้นเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อสำรวจตัวเลือกอาหารประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช้เนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม และสำรวจความเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพ
5. ลดสัดส่วนอาหารที่ปรุงจากเนื้อแดงหรืออาหารแปรรูปที่ชอบกิน เช่น จากปกติเคยกินไส้กรอก 3 ชิ้นต่อวัน ให้ปรับลดลงเป็นกิน 1 ชิ้นต่อวัน หรือตัดทอนเนื้อแดงออกบางส่วนแล้วแทนที่ด้วยผัก
อีกข้อสำคัญที่ควรรู้ คือ การเปลี่ยนไปบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปที่มีราคาแพงกว่า หรือเลือกซื้อเนื้อแดงแบบออร์แกนิก ไม่ได้ทำให้คุณเสี่ยงมะเร็งน้อยลงแต่อย่างใด วิธีที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง คือ การลดบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปและเนื้อแดงทุกประเภท