ปมคนไข้รอหมอนัดทำฟันนาน 2 ปี รพ.ฉะเชิงเทราวิกฤต บุคลากรฯขอลาออกทุกวัน
รพ.พุทธโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ชี้แจงปมคนไข้รอหมอนัดนาน 2 ปี ยอมรับวิกฤตบุคลากรการแพทย์ขาดแคลน มีหมอมาขอลาออกทุกวัน
วิกฤตบุคลากรการแพทย์ขาดแคลน คนไข้นัดหมอต้องรอนานถึง 2 ปี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติผู้ป่วยรายหนึ่งที่ได้พาเด็กชายวัย 11 ปีเข้าไปทำฟัน เนื่องจากมีฟันกรามผุ ยังที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2566 แต่หลังจากทันตแพทย์ทำการรักษาครั้งแรกแล้วเสร็จ ได้มีการนัดหมายให้ผู้ป่วยมาทำฟันต่อในครั้งที่ 2 ในอีก 2 ปีข้างหน้า คือวันที่ 8 ส.ค.2568
พร้อมกับบอกกับทางญาติด้วยว่าทาง รพ.จะไม่มีการตามนัด โดยให้คนไข้เข้ามาติดต่อเพื่อเข้ารับบริการรักษาเอง เรื่องนี้ทำให้ผู้ปกครองเด็กเกิดความสงสัยว่า เหตุใดทางโรงพยาบาลจึงได้นัดหมายให้มารับการรักษารากฟันต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 นานถึง 2 ปี โดยมองว่าเป็นเวลาที่นานมากเกินไป
เรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามจากทาง ทพญ.ชลธิชา อารมณ์เสรี รอง ผอ.รพ.พุทธโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดได้ให้ข้อมูลว่า การรักษารากฟันต้องทำการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางที่ทำหน้าที่รักษารากฟันโดยเฉพาะโดยคนไข้ 1 คนต้องใช้เวลาทำการรักษารากฟันประมาณ 1 ชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง และต้องมาทำการรักษาประมาณ 2-3 ครั้งตามจำนวนรากฟันในแต่ละซี่ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าฟันซี่นั้นมีกี่รากจึงต้องใช้เวลานานมากกว่าคนอื่น
ขณะที่คนที่มีฟันผุทะลุโพรงประสาทฟันที่ต้องรักษารากฟันนั้นมีปริมาณเยอะมาก หากจะทำให้แล้วเสร็จไปเพียง 1 คน แต่คนที่เหลืออีก 2-3 คนจะไม่ได้ทำการรักษา สำหรับคนไข้ที่มาแบบไม่ปวดฟัน แต่ฟันผุทะลุโพรงประสาทฟันเราจะทำฉุกเฉินให้ก่อน ด้วยการเปิดโพรงประสาทฟันเข้าไปล้างและใส่ยาจากนั้นจึงปิดเพื่อรอเข้าคิวรักษาต่อไป ขณะที่ รพ.พุทธโสธร นั้น มีทันตแพทย์รักษารากฟันอยู่เพียงแค่ 2 คนจากทันตแพทย์ทั้งหมด 19 คน
และทันตแพทย์รักษารากฟัน ยังต้องดูแลคนไข้ปกติด้านอื่นด้วย เช่น อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน และใช้เวลาช่วงบ่ายมาดูแลคนไข้ที่มาทำการรักษารากฟัน ซึ่งจะเหลือเวลาอีกแค่เพียง 4 คาบและเวลาที่ใช้ในการรักษาแต่ละคน ก็ยังต้องใช้เวลานาน ซึ่งต้องเข้าใจว่าทันตกรรมนั้นมีคิวที่ยาวนานมาก
โดยที่ผ่านมายังเคยนัดนานมากถึง 3 ปีมาก่อนแล้วด้วย ขณะนี้ได้ให้ปรับระบบใหม่แล้วเพราะคิวนานมากและเคสก็มีมากด้วย ประกอบกับทันตแพทย์รักษารากฟันกำลังจะลาออกไปอีก 1 คนในช่วงสิ้นเตือน ก.ย.2566 นี้
จะทำให้มีเหลือทันตแพทย์รักษารากฟันแค่เพียง 1 คนเท่านั้น ทางทันตกรรมจึงจะปรับใหม่ให้ทางทันตแพทย์รักษาราก มาทำหน้าที่รักษารากฟันเพียงอย่างเดียวแบบเฉพาะไปเลย ตลอดทั้งวันและทุกวันเพื่อเพิ่มอัตราการรักษารากฟันเข้ามา และในเคสไหนที่อยู่ในพื้นที่สามารถส่งต่อไปยังในที่ ที่อยู่ใกล้กับคนไข้มากกว่า ก็จะพิจารณาส่งต่อไปไปยังสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้กว่า และเคสไหนที่ง่ายจะให้ทันตแพทย์อื่นช่วยทำด้วย โดยยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เป็นปัญหามานานแล้ว
จึงอยากแนะนำให้มีการดูแลฟัน โดยให้คำแนะนำ ให้ความรู้กับคนไข้ ไม่ใช่ปล่อยให้ผุก่อนแล้วจึงจะเข้ามารักษา ซึ่งถือว่าสายไปแล้ว หากคนไข้มีความรู้ดูแลฟันทุกวันและเข้ามาตรวจในทุก 6 เดือน จะทำให้เห็นรอยผุในช่วงแรกๆได้ และสามารถอุดได้เลยจะทำให้ไม่เสียเวลา และเสียทรัพยากรด้วย หากคนไข้ไม่มีความรู้ว่าเมื่อฟันผุแล้วต้องรีบมา และมาในตอนที่ปวดแล้วจะทำให้ล่าช้าไปจนรักษารากฟันไม่ได้
ด้าน พญ.นาตยา มิลส์ ผอ.รพ.พุทธโสธร กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.มีบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดประมาณ 1,500 คน ได้มาขอลาออกแทบทุกวัน เนื่องจากปัจจุบันพยาบาลวิชาชีพทำงาน 8 ชั่วโมง อยู่กับโรงพยาบาลได้เงินค่าจ้างวันละ 700 บาท และงานยังหนักมาก แต่เมื่อไปทำงานอยู่ภายในห้องพยาบาลตามสถานประกอบการเอกชน เช่น โรงงานอุตสาหกรรม เขาทำงานเพียง 1-2 ชั่วโมง ได้ค่าจ้างมากถึง 2,000 บาท ซึ่งอันนี้เป็นความจริงที่เกิดในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา
ซึ่งต่างจากโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดอื่นๆที่ห่างไกล ที่คนจะรักในเกียรติและศักดิ์ศรีทางวิชาชีพพยาบาลมาก หากใครได้มาทำงานด้านนี้จะถือว่าเป็นเกียรติแก่ครอบครัว จึงทำให้ไม่มีใครยอมลาออกทิ้งหน้าที่การงานไปง่ายๆ แต่ที่นี่กลับไม่ใช่เพราะมีทางเลือกมากกว่า จากการที่มีสถานประกอบการในพื้นที่มากถึงกว่า 4,500 แห่ง จึงทำให้หัวหน้าพยาบาลปัจจุบันไม่มีวันไหนที่จะไม่ปวดศีรษะจากการที่น้องๆ เหล่านี้มาขอลาออก เพื่อไปอยู่ในห้องพยาบาลตามโรงงาน
ซึ่งส่วนใหญ่จะได้ไปนั่งเฉยๆ และวัดความดัน จึงทำงานสบายมากกว่าอยู่กับทางโรงพยาบาล บางรายได้ไปอยู่กับทางคลินิกเสริมความงาม ที่ทำงานแค่เพียงแปบเดียวต่อเคสเท่านั้น โดยสาเหตุที่คนไข้ล้นโรงพยาบาล เพราะสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้มีคนป่วยเพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะสังคมเมืองฉะเชิงเทรา ที่เห็นได้ชัดจากการที่เราเปิดวอร์ดจิตเวชจำนวน 15 เตียงขึ้นมา แต่ได้มีผู้ป่วยเข้ามาจนเต็มในทันที ทำให้สะท้อนได้ว่าสภาพจิตใจของคนในสังคมไม่ค่อยดี มีการใช้ยาเสพติดมากขึ้นมีความก้าวร้าวรุนแรง และมีอะไรที่คล้ายจะเป็นปัญหาสังคมชาวฉะเชิงเทราเพิ่มขึ้นมามากพอสมควร
โดยโรงพยาบาลนั้นเป็นเสมือนปลายทางรองรับปัญหาของสังคมและปัญหาสุขภาพ โดยสิ่งที่ทาง รพ.เห็นได้อย่างชัดเจน คือ เรื่องของสภาพจิตใจ สภาพสังคมที่เปลี่ยนไปมาก นอกจากนี้อยากให้มีการดูแลรักษาสุขภาพ หากเราไม่ได้เอาใจใส่ในเรื่องของอาหารการกินและการออกกำลังกาย จะทำให้มีเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บตามมา และเพิ่มขึ้นมาเยอะมากในปัจจุบัน แม้ว่าเราจะเอาเทคโนโลยีชั้นสูงจนาดไหนมาใช้ แต่ยังพบว่าจำนวนคนไข้ไม่ได้ลดลงเลย เช่น ผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานนับวันมีแต่เพิ่มขึ้น โรคความดันมีแต่พุ่งทะลุไม่หยุด ซึ่งส่งผลต่อเนื่องกับสังคมในพื้นที่
ในฐานะของแทพย์นั้นจึงรู้สึกกังวลในส่วนของ 2 เรื่องดังกล่าวนี้ และทาง รพ. ยังเป็นปลายทางในเกือบทุกปัญหาในสังคม ทั้งด้านจิตเวช มารดาไม่มีความสามารถในการเลี้ยงดูบุตร เด็กที่เกิดมาในขณะที่มารดาติดตาเสพติด แพทย์ก็ต้องมาดูแลรักษา สังคมในเมืองฉะเชิงเทราวันนี้จึงน่าเป็นห่วง
การป้องกันส่งเสริมสุขภาพจึงน่าจะเป็นวิถีทางออกที่ดีที่สุด นี่เป็นข้อห่วงใยของทางแพทย์พยาบาลและบุคคลากรของทาง รพ.พุทธโสธร ทุกคน ในการรักษาสุขภาพให้แก่คนแปดริ้วและใกล้เคียงให้ดีที่สุด