ทิศทาง'กัญชา' รัฐบาลใหม่ ท่าทีที่เปลี่ยน
'กัญชา'ทำอะไรได้ในปัจจุบันที่ไม่ผิดกฎหมาย พร้อมส่องกัญชาใน 'นโยบายรัฐบาลใหม่' ท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว จะกลับสู่ยาเสพติด หรือเดินหน้ากัญชาทางการแพทย์เพื่อเศรษฐกิจ
Keypoints:
- สิ่งที่สามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย ภายใต้สถานะปัจจุบันของกัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติด ยกเว้นสารสกัดที่มีTHC เกิน 0.2 % และช่อดอกที่กำหนดให้เป็นสมุนไพรควบคุม
- 5 กรณีห้ามจำหน่ายเพื่อการค้าและสถานที่ห้ามจำหน่ายช่อดอกกัญชา รวมถึง การห้ามโฆษณาเพื่อการค้าในทุกช่องทาง
- ส่องท่าทีนโยบายกัญชาของรัฐบาล ขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์เพื่อเศรษฐกิจ ผลักดันออกพรบ.กัญชากัญชงมาควบคุมการใช้ หรือกลับสู่บัญชายาเสพติด ประเภท 5
ทุกส่วนกัญชาใช้ได้ยกเว้นช่อดอก
ขณะนี้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด ทุกส่วนของกัญชายกเว้นช่อดอก สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต
แต่กรณีนำไปปรุงเป็นอาหารที่มีหน้าร้าน หรือในร้านอาหาร จะมีประกาศของกรมอนามัยควบคุมการใช้กัญชาเป็นส่วนผสม
- จะต้องมีการแสดงรายการเมนูที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมอย่างชัดเจน
- - มีคำแนะนำในการบริโภคอย่างชัดเจนว่าใครที่ เป็นกลุ่มต้องห้ามรับประทาน เช่น หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่มีประวัติแพ้
- มีคำแนะนำเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์
- กรณีที่มีการวางขายใบกัญชาตามท้องถนน ดังที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ก็จะมีการเอาผิดทางร้าน ฐานไม่ถูกสุขลักษณะ
ช่อดอกต้องขออนุญาต
การใช้ประโยชน์ช่อดอกกัญชา จะต้องขออนุญาตก่อนเนื่องจากถือเป็นสมุนไพรควบคุม โดยผู้ใดประสงค์จะศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ต้องได้รับใบอนุญาต และปฏิบัติ ดังนี้
ต้องจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มา การนำไปใช้ และจำนวนที่เก็บไว้ ณ สถานประกอบการ และให้รายงานข้อมูลนั้นต่อนายทะเบียนตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด
ต้องแจ้งรายละเอียดการส่งออกต่อผู้อนุญาตเป็นรายครั้ง ตามแบบที่อธิบตีประกาศกำหนด
5 กรณีห้ามจำหน่ายช่อดอกกัญชาเพื่อการค้า
- ห้ามจำหน่าย ให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปี สตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตร
- ห้ามจำหน่าย ให้กับนักเรียนนิสิตหรือนักศึกษา
- ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุมเพื่อการสูบในสถานที่ประกอบการ เว้นแต่การจำหน่ายโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หมอพื้นบ้านที่ได้รับการรับรอง ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน และผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยของตน หรือผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ ที่ใช้ในการรักษาสัตว์
- ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุม หรือสินค้าที่แปรรูปจากสมุนไพรควบคุมเพื่อการ ค้าผ่านเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์
สถานที่ห้ามขายช่อดอกกัญชา
- ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุม หรือสินค้าที่แปรรูปจากสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ในสถานที่ ดังต่อไปนี้
(ก) วัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา
(ข) หอพักตามกฎหมายว่าด้วยหอพัก
(ค) สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุก
- ห้ามโฆษณาสมุนไพรควบคุมในทุกช่องทางเพื่อการค้า
จุดยืนเดิมกัญชาเพื่อไทย
อย่างไรก็ตาม จุดสำคัญอยู่ตรงที่ “กัญชา”จะกลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 อีกหรือไม่
หากพิจารณาจากท่าทีของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังและพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ มีจุดยืน ยอมรับต่อนโยบายกัญชาทางการแพทย์ แต่จะนำกลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดให้โทษ ประเภท 5
โดยเฉพาะตามประกาศMOUของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่มีก้าวไกลเป็นแกนนำและพรรคเพื่อไทยร่วมอยู่ด้วย มีท่าทีที่ค่อนข้างขึงขังในการที่จะนำ “กัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติด”
ชงร่างพรบ.กัญชาเข้าสภาฯใหม่
แต่เมื่อขั้วการเมืองเปลี่ยน พรรคภูมิใจไทยเจ้าของนโยบายหาเสียงเรื่องกัญชา เข้ามาเป็นสมาขิกรัฐบาล ผนวกกับคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่กล่าวว่า ต้องขอบพระคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่จะนำกัญชาไปสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยนำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์ สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและเพื่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งเร็วๆ นี้ทางพรรคภูมิใจไทยจะยื่นกฎหมายควบคุมกัญชงกัญชาสู่สภาอีกครั้งหนึ่ง และในคำแถลงนโยบายก็มีเรื่องนี้ปรากฎอยู่เช่นกัน
ท่าทีกัญชาของรัฐบาลใหม่
ทั้งหมดทั้งมวล อาจพอสรุปคาดเดาได้ว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ รัฐบาลนี้ภายใต้การนำของนายกเศรษฐา และมีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นรมว.สาธารณสุข จากที่เคยมีท่าทีจะให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ก็คงจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
เป็นไปได้สูงที่“กัญชาไม่น่าจะกลับไปเป็นยาเสพติด” แต่จะใช้กลไกควบคุมด้วยการออกพรบ.กัญชากัญชง ที่เคยโดนตีตกไปจนไม่ได้คลอดออกมาในสภาฯสมัยที่แล้ว
และต้องรอดูเนื้อหาสาระที่มีอยู่ในร่างพรบ.ที่จะออกมาควบคุมมีอะไรเพิ่มเติม เข้มข้นขึ้นจากฉบับร่างเดิมหรือไม่อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีการระบุหรือไม่ว่า “ห้ามสูบ หรือใช้ในเชิงสันทนาการ”
และรัฐบาลใหม่ก็คงเดินหน้ากัญชาทางการแพทย์เพื่อเศรษฐกิจต่อไป