ดัน ฟาวิพิราเวียร์ ยาหลักรักษาไข้หวัดใหญ่ โอเซลทามิเวียร์ ขาดชั่วคราว
กรมการแพทย์ - องค์การเภสัชกรรม เสนอดัน 'ฟาวิพิราเวียร์' รักษาไข้หวัดใหญ่เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ เผย โอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) ผลิตและจำหน่ายไม่เพียงพอเกิดภาวะขาดชั่วคราว
กรมการแพทย์ - องค์การเภสัชกรรม เสนอดัน 'ฟาวิพิราเวียร์' รักษาไข้หวัดใหญ่เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ โดย อภ.ออกเอกสารด่วนที่สุดเรื่อง เสนอยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) บัญชียาหลักแห่งชาติ ในข้อบ่งใช้การติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ลงชื่อโดยมิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม
เนื้อหาดังกล่าวระบุว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ประเทศไทย ในปัจจุบันมีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งประเทศ และเพิ่มสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปี และมีแนวโน้มการระบาดอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้โอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) ที่เป็นยารักษาไข้หวัดใหญ่ซึ่งจัดอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติและเป็น First line drug ของประเทศที่องค์การเภสัชกรรมผลิตและจำหน่ายไม่เพียงพอเกิดภาวะขาดคราว โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการผลิต
ในการนี้ อภ. ได้มีการผลิตและสำรองรายการยาฟาวิพิราเวียร์ โดยยาดังกล่าวได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาในข้อบ่งใช้สำหรับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ดังนั้นเพื่อเป็นทางเลือกของหน่วยบริการในการนำไปใช้รักษาการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ให้กับผู้ป่วย
อภ. ขอนำเสนอยาฟาวิพิราเวียร์เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติ ในข้อบ่งใช้สำหรับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณานำเสนอคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติต่อไป
ด้าน กรมการแพทย์ โดย นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ยาทั้งสองชนิด คือ โอเซลทามิเวียร์และฟาวิพิราเวีย สามารถนำมารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้ โดยได้มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญฝ่ายวิชาการของ กรมการแพทย์ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา มีการพิจารณาถึงแนวทางการรักษาไข้หวัดใหญ่ด้วยฟาวิพิราเวียร์ นอกเหนือจากโอเซลทามิเวียร์ ซึ่งจะมีการเสนอเข้าสู่คณะกรรมการวิชาการของกระทรวงสาธารณสุข ก่อนออกเป็นประกาศแนวทางการรักษาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
"จริงๆแพทย์ทราบอยู่แล้วว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ สามารถนำมารักษาไข้หวัดใหญ่ได้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้มีการระบาดของโรคโควิด-19 จึงมีการนำมารักษา ทำให้คนเข้าใจว่าคนละโรค แต่จริงๆรักษาได้ โอเซลทามิเวียร์ ก็เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายาโอเซลทามิเวียร์อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติอยู่แล้ว เหลือแต่ฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ฟาวิฯ รักษาฟรี เพราะเอามาใช้โควิด-19 แต่เมื่อโรคโควิดไม่ใช่โรคติดต่ออันตรายแล้ว จากนี้ก็จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อผลักดันเข้าสู่คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติต่อไป"
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ (ข้อมูลจากกองระบาดวิทยา ณ วันที่ 1 มกราคม -16 กันยายน 256) มีรายงานผู้ป่วย 185,216 ราย อัตราป่วย 279.90 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานเสียชีวิต 4 รายในจังหวัดนครราชสีมา 2 ราย สงขลาและตาก จังหวัดละ 1 ราย อัตราป่วยตาย 0.002 สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H1N1 และ A/H3N2 สัปดาห์นี้รายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
"ตัวเลขการระบาดจะใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนจะมีการระบาดของโรคโควิด เพราะไทยเผชิญโควิดตั้งแต่ต้นปี 2563 ช่วงนั้นเรามีมาตรการป้องกันต่างๆ สวมหน้ากากอนามัยทำให้ได้ประโยชน์ในการป้องกันโรคทางเดินหายใจ แต่ด้วยปัจจุบันสถานการณ์เริ่มผ่อนคลาย ทั่วโลกเดินทางกันมาก แต่หากพิจารณาตัวเลขการระบาดก่อนโควิดกับปีนี้ ถือว่าการระบาด ใกล้เคียงกับปีก่อนโควิด ดังนั้น โรคไข้หวัดใหญ่แม้จะพบมากแต่ไม่ถือว่ารุนแรงเกินจัดการ"