เครือข่ายฯกัญชาเตรียมบุกทำเนียบ หากรัฐนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด
เครือข่ายฯกัญชา ขอเข้าพบรมว.สธ.สมศักดิ์ เทพสุทิน สัปดาห์หน้า หลังนายกฯสั่งคืนกัญชาเป็นยาเสพติด ก่อนรอดูท่าที่รัฐบาลอีกครั้ง พร้อมนัดชุมนมุใหญ่ทำเนียบรัฐบาล 9 มิ.ย.2567 ครบ 2 ปีปลดล็อกกัญชา
นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวว่า สัปดาห์หน้าเครือข่ายฯจะมาเข้าพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เพื่อหารือถึงข้อเสนอของเครือข่ายฯในการให้รัฐบาลศึกษาผลกระทบจากกัญชาเทียบเคียงกับเหล้า บุหรี่ ซึ่งกัญชาที่บอกว่ามีคนใช้แล้วคลั่ง ประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศเดียวที่ใช้กัญชาแล้วคลั่ง ไม่นับรวมกับการใช้ร่วมกับสารเสพติดอื่น ซึ่งก็ต้องขอดูท่าทีของรัฐมนตรีและรัฐบาล หากยังมีการยืนยันกลับไปเป็นยาเสพติด ในวันที่ 9 มิ.ย.2567 วันครบ 2 ปีของการปลดล็อกกัญชา จะนัดชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ตามที่ปรากฎตามสื่อหลายฉบับระบุว่านายกรัฐมนตรีสั่งให้กระทรวงสาธารณสุขนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด
เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ได้ยืนยันตลอดมาว่าการที่จะกำหนดสิ่งใดเป็นยาเสพติดนั้นให้ใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์เป็นตัวชี้วัด โดยขอให้กระทรวสาธารณสุขทำการเปรียบเทียบประโยชน์และโทษระหว่าง กัญชา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่
หากข้อเท็จจริงด้านวิทยาศาสตร์ระบุว่า กัญชามีโทษมากกว่าประโยชน์เมื่อเปรียบเทียบกับบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้นำกัญชากลับสู่ยาเสพติด แต่หากข้อเท็จจริงพิสูจน์ว่ากัญชาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ถูกปั่นในปัจจุบันให้สร้างกฎหมายขึ้นมาฉบับหนึ่งเป็นการเฉพาะสำหรับควบคุมการใช้กัญชาในประเทศไทย
หลักการเช่นนี้ทำไมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ปฏิบัติ ทั้งที่เป็นหลักการที่ตัดอคติทั้งมวลออกไปให้เหลือข้อเท็จจริงด้านวิทยาศาสตร์ที่ใช้สำหรับการกำหนดนโยบาย แต่เหตุผลที่แท้จริงแล้วพรรคเพื่อไทยคือพรรคของกลุ่มทุนตลอดมา และมีสส.หลายคนในพรรคทำธุรกิจกัญชา สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ ควบคุมการปลูก เมื่อควบคุมการปลูกได้เท่ากับผูกขาดได้เพราะมีผู้ผลิตน้อยราย ความพยายามมาตลอดในการทำกติกาใหม่เพื่อให้กลุ่มเฉพาะเท่านั้นที่ปลูกได้เป็นเป้าหมายสูงสุด
การนำกัญชากลับไปสู่ยาเสพติดเป็นการรีเซ็ตระบบใหม่ในการกำหนดกติกากัญชา เมื่อนำกลับไปสู่ยาเสพติดจะทำให้การกำหนดกติกาการปลูกจำกัดเฉพาะพวกที่มีใบอนุญาตและใบอนุญาตนี้จะออกโดยผู้เชี่ยวชาญและกลไกผู้เชียวชาญนี่แหละคือเครื่องมือในการควบคุมแบบชอบธรรม หากยังมองภาพไม่ออกให้นึกถึงธุรกิจเบียร์ เมื่อเขาควบคุมการผลิตให้เหลือน้อยรายเขาก็จะผูกขาดแล้วเปิดตลาดให้คนมาบริโภค
อยากเรียนไปยังประชาชนทุกท่านว่า ข่าวที่ใช้กัญชาแล้วคลั่งนั้นมีข้อสงสัย เพราะคนที่แสดงตัวว่าใช้กัญชามานับสิบปีและใช้ทุกวันแต่ทำไมไม่เกิดอาการคลั่ง แต่ข่าวที่ใช้กัญชาแล้วคลั่งหลายเหตุการณ์พบว่ามีการใช้กัญชามานานแล้ว หรือใช้แค่บางครั้ง แต่ทำไมถึงเกิดอาการคลั่ง
เพราะในความเป็นจริงพวกเขาอาจใช้ยาเสพติดชนิดอื่นแต่ต้องซัดใส่กัญชาเพราะถ้าอ้างกัญชาจะไม่ถูกจับหรือไม่ก็นำกัญชาไปใช้ร่วมกับยาเสพติดชนิดอื่น แต่โดยข้อเท็จจริงกัญชาไม่ได้ทำให้ใครคลั่งและเราขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้โดยไว โดยมีคนใช้กัญชานับสิบปีจำนวนหลายคนสามารถเป็นกรณีศึกษาได้
เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยยืนยันในหลักการเดิมว่าขอให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำข้อมูลวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบแล้วนำข้อเท็จจริงนั้นมากำหนดว่าสิ่งใดควรเป็นยาเสพติดและหากรัฐบาลยังไม่ใช้ข้อมูลในการกำหนด เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะรวมตัวยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขภายใน7วันนี้และหากรัฐบาลยังดึงดันไม่ใช้ข้อเท็จจริงกำหนดสถานะของกัญชา เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะประกาศการชุมนุมเพื่อให้รัฐบาลกำหนดกติกาการใช้กัญชาจากข้อเท็จจริง