อย.ออกใบอนุญาตผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงกว่า 1,400 รายการ

อย.ออกใบอนุญาตผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงกว่า 1,400 รายการ

"กัญชา"กลับเป็นยาเสพติด อย.อนุญาตผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงกว่า 1,400 รายการ เครื่องสำอางมากสุด ขณะที่ “สมศักดิ์”เด้งรับนายกฯทำให้เสร็จภายในปี 67 ลั่นมุ่งทางการแพทย์และสุขภาพเพื่อเศรษฐกิจ ยันไม่กระทบผู้ประกอบการ ส่วนคนปลูกขอให้หยุดก่อน เตรียมทำประชาพิจารณ์

KEY

POINTS

  • สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ออกใบอนุญาตผลิตภัณฑ์กัญชากัญชง กว่า 1,400 รายการ เป็นเครื่องสำอางมากที่สุด
  • สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข(รมว.สธ.) ยืนยันดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
  • สมศักดิ์ รมว.สธ.” ลั่นผู้ประกอบการที่มีการลงทุนไปแล้ว ไม่ได้รับผลกระทบ และไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการธุรกิจ คนปลูกกัญชาขอให้หยุดก่อน 

 จากกรณีนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายว่าเรื่องกัญชาขอให้กระทรวงสาธารณสุขแก้ไขประกาศกระทรวง โดยดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวงอนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น โดยกำหนดไทม์ไลน์ให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี  2567 ซึ่งอาจจะกระทบต่อแผนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการที่มีการลงทุนและขออนุญาตผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชากัญชงแล้ว  

 อนุญาตผลิตภัณฑ์กว่า 1,400 รายการ 

เนื่องจากภายหลังจากที่มีการปลดล็อกกัญชากัญชงออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5  ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.2565 มีการดำเนินการธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะที่เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพจำนวนมาก จากการสืบค้นในฐานระบบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ณ วันที่ 9 พ.ค.2567 ทั้งคำค้นกัญชา กัญชง แคนนาบิส  แคนนาบิไดออล และHemp พบว่ามีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตรวมกันกว่า 1,400 รายการทั้งที่เป็นอาหาร ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องมือแพทย์ และเครื่องสำอาง โดยผู้ที่ยื่นขออนุญาตมีทั้งวิสาหกิจชุมชน บริษัทจำกัด บริษัทจำกัดมหาชน ประกอบด้วย

  • คำค้นกัญชา  43 รายการ เป็นอาหาร 26 รายการ ผลิตภัณพ์สมุนไพร 14 รายการ เครื่องสำอาง 1 รายการ เครื่องมือแพทย์ 2 รายการ
  • คำค้นกัญชง 13 รายการ เป็นอาหาร 3 รายการ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร 3 รายการ และเครื่องสำอาง 7 รายการ  
  • คำค้นแคนนาบิส  287รายการ เป็นอาหาร 14 รายการ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร 4 รายการ เครื่องสำอาง 269 รายการ  
  • คำค้นแคนนาบิไดออล เป็นเครื่องสำอาง 35 รายการ
  • คำค้นHemp 1,032 รายการ เป็นอาหาร 125 รายการ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร 4 รายการ  เครื่องมือแพทย์ 2 รายการและเครื่องสำอาง 901 รายการ  

อย.ออกใบอนุญาตผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงกว่า 1,400 รายการ
กัญชามุ่งการแพทย์สุขภาพสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข  ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลดำเนินนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ พูดในแนวทางที่ให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน  ซึ่งแนวทางการดำเนินการเรื่องทำประโยชน์กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ  ผู้ประกอบการอาจคิดว่าในอดีตเหมือนปิดกั้นในการขออนุญาตต่างๆ 

กัญชาเตรียมทำประชาพิจารณ์ 

นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า  เมื่อรับแนวนโยบายจากรัฐบาลมา ก็จะพยายามทำให้สอดคล้องในเรื่องกัญชานี้อาจจะต้องละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะเรื่องการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็น  และต้องมองดูความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของผู้ที่ลงทุนไปแล้ว ทั้งการปลูกหรือการทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ

ซึ่งในส่วนของการอนุญาตต่างๆต้องทำให้เกิดความคล่องตัว ก็ยังต้องใช้เวลา ในการทำประชาพิจารณ์ให้ถึงแก่นแกนและถ่องแท้ ส่วนจะทำกี่รอบกี่ครั้งยังตอบไม่ได้ แต่อย่างน้อยต้อง 3 ครั้ง มีหลายประเด็นที่จะสอบถาม โดยจะเริ่มทำเมื่อยกร่างระเบียบ กฎเกณฑ์ออกมาแล้ว   

กัญชาเสร็จภายในปี 67 

“ขอให้ทุกฝ่ายมองเห็นประโยชน์ประเทศชาติส่วนรวม แล้วเดินไปให้เสร็จสิ้น ทั้งนี้ จะพยายามดำเนินการให้ทันภายในปี 2567 ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ เมื่อรัฐบาลมีสัญญาณออกมาเช่นนี้ ขอให้ดูกระแสสังคมว่าอย่างไร มาเป็นตัวช่วยกำหนดทิศทางในการเดินได้เร็ว ได้ช้า”นายสมศกดิ์กล่าว 

ถามถึงขั้นตอนในการนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด ต้องเป็นฝ่ายกระทรวงสาธารณสุข ในการเสนอเข้าบอร์ดป.ป.ส.เหมือนตอนปลดล็อกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การนำเรื่องเข้าสู่บอร์ดป.ป.ส. เข้าใจว่าเลขานุการของคณะกรรมการชุดนี้มีหลายท่าน หรืออาจจะมีรองเลขาฯเป็นหน่วยงานร่วมก็สามารถนำเสนอเข้าไปได้ ซึ่งประมวลกฎหมายยาเสพติดไม่ได้มีกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเป็นผู้รักษาการ ซึ่งมีอนุกรรมการทำงานร่วมกัน จะไม่มีความขัดแย้งในการดำเนินการ

ไม่ให้กระทบผู้ประกอบการกัญชา 

ถามว่านิยามการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพหมายรวมถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น อาหาร เครื่องสำอางด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะความเข้าใจของผู้คนอาจจะไม่เหมือนกัน  ทำให้ดีที่สุด ขอให้มาร่วมกัน เป็นประโยชน์กับส่วนรวม ซึ่งก็พร้อมเปิดให้ทุกฝ่ายเข้าพบ แสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเสมอ
 ผู้สื่อข่าวถามว่าหากนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการที่ลงทุนไปแล้ว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  ไม่ใช่จะดำเนินการกลับไปเป็นยาเสพติดได้ทันที จะต้องดูว่าสิ่งที่จะต้องกระทบ เสียหายก็ต้องดูให้น้อยที่สุด  แต่รัฐบาลมีแนวนโยบายแบบไหนก็ต้องไปแบบนั้น และเชื่อว่าไปได้ ต้องทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย  

อย.ออกใบอนุญาตผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงกว่า 1,400 รายการ

ต้องมีการเยียวยาให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  ยังไม่ได้พูดคุยถึงขนาดนั้น แต่ในฐานะที่ตนเองมารับหน้าที่ตรงนี้ ก็ต้องดูและฟังทั้งหมด 

 “ผู้ประกอบการที่มีการลงทุนไปแล้ว ไม่ได้รับผลกระทบ แต่จะสะดวกขึ้น  ไม่ให้ใครมาเอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการ และไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการธุรกิจ”นายสมศักดิ์กล่าว  


ขอให้หยุดปลูกกัญชาก่อน  

ผู้สื่อข่าวถามว่าการคืนไปเป็นยาเสพติดเฉพาะกัญชาหรือกัญชงด้วย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  ตนมีความรู้เกี่ยวกับกัญชงน้อย พยายามพูดคุยและดูจากเอกสารต่างๆ ก็เห็นว่ากัญชงไม่ได้นิยมนำมาสูบหรือเสพ เพราะกัญชงที่ปลูกบนพื้นที่ภูเขาจะมีสารทีเอชซีต่ำกว่า 0.2 % แต่ถ้าปลูกพื้นที่ราบกัญชงก็มีสารทีเอชซีสูง ซึ่งก็พยายามพูดคุยกับผู้รู้ก็แจ้งว่าสามารถแยกกันได้  ส่วนจะแยกอย่างไรต้องมาพิจารณาอย่างรอบคอบ
ถามว่ากัญชาคืนกลับเป็นยาเสพติดทุกส่วนของกัญชาหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่ารัฐบาลจะดำเนินการนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ ยังมีการตีความไปต่างๆนานา จึงต้องให้ผู้รู้ ผู้เกี่ยวข้องมาช่วยทำให้ปัญหาหมดไป ถึงจะเดินต่อไปได้ อะไรที่เดินจากความขัดแย้งไปทั้งหมดก็จะไปไม่ได้ แต่ต้องยืนหยัดในสิ่งที่รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แถลงออกมา  
     

“ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ปลูกไปก่อนหน้านี้ที่ปลูกไปแล้วก็ปลูกไป ส่วนที่ยังไม่ปลูกก็อย่าเพิ่งปลูก เพราะรัฐบาลมีแนวโน้มตามนโยบายรัฐบาล”นายสมศักดิ์กล่าว   

ชะลอร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชง

ในส่วนของร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชงที่มีการทำประชาพิจารณ์ผ่านไปแล้ว นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อาจจะต้องชะลอไว้ก่อน  
 ความแตกต่างที่จะเกิดขึ้นของสถานะกัญชาปัจจุบันกับการกลับไปเป็นยาสเพติด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  ทุกวันนี้ที่จะต้องทำให้เป็นเสรีเพราะที่ผ่านมาการขออนุญาตทำได้ยาก แต่สิ่งต่างๆสามารถแก้ได้ และต้องควบคุมให้อยู่ ไม่ใช่ให้คนไปติดหรือเสพ

ถ้ายังควบคุมไม่ได้ดีก็ยังทำไม่ได้ จะต้องปรับแก้ ให้เป็นตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลเรื่องใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งในมุมของนักกฎหมายการจะดำเนินการตามแนวทางนี้ ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นยาเสพติดหรือไม่เป็นยาเสพติด  โดยรัฐบาลกำลังตีเส้นสิ่งที่เป็นยาเสพติดและไม่ใช่ยาเสพติด