ปล่อยกู้อสม.คนละ 20,000 บาท รวมมิตรนโยบาย “สมศักดิ์” เอาใจอสม.

ปล่อยกู้อสม.คนละ 20,000 บาท รวมมิตรนโยบาย “สมศักดิ์” เอาใจอสม.

ธกส.จัดสินเชื่อเงินด่วนคนดี  ปล่อยกู้อสม. คนละ 20,000 บาท ขณะที่ “สมศักดิ์” รมว.สธ.กระหน่ำนโยบายสธ.เอาใจอสม. ออกพรบ.อสม.คุ้มครองค่าป่วยการ  2,000 บาท  อัปเกรดอสม.เป็นผู้ช่วยพยาบาล

หลังเข้ามาทำงานในตำแหน่งรมว.สาธารณสุข 20 วัน “สมศักดิ์ เทพสุทิน” กระหน่ำออกนโยบายและแนวคิดพัฒนา เพื่อเอาใจอสม.ทั่วประเทศที่มีอยู่กว่า  1.07 ล้านคน 

ธกส.ปล่อยกู้อสม.คนละ 20,000 บาท

กรณีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) จัดโครงการสินเชื่อเงินด่วนคนดี เพื่อสมาชิกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) เพื่อต่อยอดธุรกิจ ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสมาชิก แทนการกู้นอกระบบ

สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเครือข่ายด้านสาธารณสุขที่ดูแลเกษตรกร และรักษาและขยายฐานเงินฝากต้นทุนต่ำของธนาคาร กรอบวงเงินกู้ รวม 10,000 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ 29 มี.ค. 67 – 31 มี.ค. 72 วงเงินกู้สูงสุด รายละไม่เกิน 20,000 บาท (แยกวงเงินกู้จากวงเงินปกติของธนาคาร)

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข  กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ ร้อยละ 0.67 ต่อเดือน หรือ ร้อยละ 8 ต่อปี (แบบอัตราคงที่ Fixed Rate) และคิดอัตราดอกเบี้ยแบบต้นลด ดอกลด (Effective Rate) ส่วนการชำระหนี้ให้ชำระหนี้เงินกู้แบบรายเดือน โดยคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเท่ากันทุกเดือนไม่เกิน 48 เดือน

สำหรับหลักประกันเงินกู้ ให้สมาชิก อสม. หรือ อสส. 1 คน ค้ำประกันแก่ผู้กู้ได้เพียง 1 ราย หลักเกณฑ์และเงื่อนไขนั้นคุณสมบัติ คือเป็นสมาชิก อสม. และ อสส. ที่ได้รับเงินค่าป่วยการ โอนผ่านบัญชีธนาคาร และเป็นผู้ถือบัตร Smart Card อสม. ส่วยรานละเอียดต่างๆสามารถเข้าไปที่ธนาคารเพื่อขอคำแนะนำและคำปรึกษาได้ที่ ธกส.ทุกสาขาทั่วประเทศ

“ผมและกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจในการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งทั้ง อสม.และ อสส. เป็นบุคลากรที่สำคัญในการดำเนินการด้านสาธารณสุขที่ใกล้ชิดกับชาวบ้าน ดังนั้นเราจึงร่วมกับ ธกส. ในการจัดโครงการเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของ อสม.และ อสส. เพื่อให้พวกเขามีกำลังใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น” นายสมศักดิ์ กล่าว

คุ้มครองค่าป่วยการอสม. ในพ.ร.บ.อสม.

ไม่เพียงเท่านี้ ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ยังให้นโยบายเรื่องการยกร่างพ.ร.บ.เกี่ยวกับความมั่นคงในอาชีพของ​อสม. หรือ พ.ร.บ.​อสม.​ เพื่อให้ค่าป่วยการในการปฏิบัติ​หน้าที่​ของ​ อสม.​ เดือนละ ​2,000 บาท​ ต้องบรรจุอยู่ใน​ พ.ร.บ.​งบประมาณ​รายจ่ายประจำปี​ทุกๆปี​ แทนที่จะต้องมาของบประมาณเป็นปีต่อปี​  ในหมวดเงินอุดหนุน​ซึ่งมีความไม่แน่นอน

อัปเกรดอสม.เป็นผู้ช่วยพยาบาล

รวมถึง การจะอัปเกรด อสม. ที่มีพื้นฐานการศึกษาดี เปิดโอกาสให้เข้ามาเป็นผู้ช่วยพยาบาล ก็จะทำให้มีชีวิตที่มั่นคงขึ้น ก่อนจะไปช่วยเหลือผู้อื่น  โดยให้เข้าอบรมที่สถาบันพระบรมราชชนก​ เพื่อเป็นผู้ช่วยพยาบาล

 “คิดวางแนวทางการยกระดับอัพเกรด อสม. ที่มีความเหมาะสม ให้สามารถเป็นผู้ช่วยพยาบาลได้ คาดว่า จะใช้ระยะเวลาทำกฎหมายประมาณ 1 ปีงบประมาณ”นายสมศักดิ์กล่าว  


เพิ่มอุปกรณ์ให้อสม.

นายสมศักดิ์ กล่าวระหว่างการมอบนโยบายสธ.ปี 2567-2568 ตอนหนึ่งว่า  ต้องสนับสนุน อสม.ที่ปัจจุบันมีราว 1.07 ล้านคน แบ่งทำงานเป็นคุ้ม โดย 1 คุ้มมีอสม.3-5 คน ดูราว 30-50 หลังคาเรือน จึงต้องทำกฎหมายที่เป็นพรบ.อสม.  เอาอสม.มาทำงาน ซื้อเครื่องมือใส่ถุงย่ามกระเป๋าอสม. เช่น อุปกรณ์ตรวจความดัน

 ซึ่งทั่วประเทศมีประมาณ 3 แสนคุ้ม ถ้าลงทุนซื้อให้คุ้มละ 1,000 บาท เป็นเงิน 300 ล้านบาท ถ้าลงทุนให้ 1,000 เป็นเงิน 3,000 ล้านบาท แต่ต้องคิดตัวเลขว่าลงทุนแล้วทำให้คนเข้ารพ.น้อยจริงหรือไม่ 

พิจารณานำเงินฌาปนกิจปล่อยกู้บางส่วน

ขณะที่  นายจิรพงษ์​ ทร​งวัชราภรณ์​ รอง​โฆษก​กระทรวง​สาธารณสุข​ ให้ข้อมูลว่า   จากที่​ นายสมศักดิ์​ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ​ ได้รับเรื่องข้อเสนอแนะต่างๆ​จาก​ประชาชนผ่านสมาชิกสภาผู้แทน​ราษฎร​พรรค​เพื่อ​ไทย​  และกลุ่ม​ อสม. บางส่วนที่เข้าพบ​ว่า การที่​มีสมาชิก​ อสม.ประมาณ​ 1 ล้านราย​ เข้าร่วมโครงการของสมาคมฌาปนกิจสงเคาระห์​ อสม.​ แห่งประเทศไ​ทย

เมื่อเสียชีวิตแล้วจะได้รับเงินค่าฌาปนกิจ​รายละประมาณ​ 500,000 บาท ต่อคน​นั้น​ โดยทางสมาคมฯจะหักเงินสมาชิก อสม.ที่เข้าร่วมโครงการ​ (สมาชิกทั้งหมด​1,339,330คน) ประมาณ​ 40​ สตางค์​ต่อหนึ่งผู้เสียชีวิต​ หรือประมาณ​ 400-500​ บาทต่อเดือน​ ​

อสม. จึงขอเสนอว่า ​ขอให้หาทางออกในกรณีที่​ อสม.เจ็บป่วยให้นำเงินค่าฌาปนกิจ​มากู้ได้เป็นบางส่วน​ ซึ่งนายสมศักดิ์​ ก็เร่งให้คณะทำงานรัฐมนตรี​และกระทรวง​สาธารณสุข​ ศึกษา​รายละเอียดพร้อมทั้งหาทางช่วยให้ยอดหักเงินสงเคราะห์​ต่อหนึ่งผู้เสียชีวิตลดลงอีกด้วย เพื่อลดภาระให้กับสมาชิก​ อสม.ที่เข้าร่วมโครงการ