2 สิ่งเปลี่ยนกระทบคุม 'ผลิตภัณฑ์สุขภาพ' อย.สกัดผิดกม.เข้าอีมาร์เก็ตเพลส
แนวโน้มมูลค่าผลิตภัณฑ์สุขภาพไม่ลด อย.เผยพฤติกรรมการซื้อ-รูปแบบการโฆษณาเปลี่ยน ใช้อินฟลูเอนเซอร์แอบแฝงการขายสินค้า รุกใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ยื่นขออนุญาต -แชร์ข้อมูลให้อีคอมเมิร์ซ สกัดหลุดเข้าอีมาร์เก็ตเพลส พร้อมเปิดช่อง Fast Track ผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพ
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค 2567 ที่สำนักงานคณะอาหารและยา(อย.) ภายในงาน 5 ทศวรรษ อย. นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์สุขภาพต่อจีดีพี(GDP)ของประเทศไทย ในปี 2561 มูลค่า 1,296.6 ล้านบาท ปี 2562 มูลค่า 1,308 ล้านบาท ปี 2563 มูลค่า 1,337 ล้านบาท ปี 2564 มูลค่า 1,362 ล้านบาท ,ปี 2565 มูลค่า 1,472 ล้านบาท และปี 2566 มูลค่า 1,374 ล้านบาท แม้แต่ละปีอาจจะดูยังห่างจากจีดีพีประเทศ แต่ทุกผลิตภัณฑ์ที่อย.ดูแลมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ลดลง
ขณะที่จำนวนรายการที่ขออนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพก็ไม่ลดลง โดยปริมาณการพิจารณาของอย.ในปี 2565 อยู่ที่ 311,295 คำขอ และปี 2566 อยู่ที่ 302,967 คำขอ ส่วนผลการพิจารณาอนุญาตโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ ปี 2565 อยู่ที่ 9,832 รายการ และปี 2566 อยู่ที่ 8,595 รายการ
พฤติกรรมการซื้อ-รูปแบบโฆษณาเปลี่ยน
เทคโนโลยีในการสื่อสารก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่มีปัญหาสุขภาพจะสอบถามจากแพทย์ หรือบุคลากรทางการแพทย์ แต่ปัจจุบันมีการสอบถามจากGoogle หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆที่ส่งต่อๆกัน มีทั้งจริงและไม่จริง แต่ส่วนใหญ่ 95 % เป็นข้อมูลที่ไม่จริง สะท้อนว่า การสื่อสารเปลี่ยนไปไม่ได้รับจากผู้เชี่ยวชาญเหมือนสมัยก่อน โดยเทรนด์โฆษณามาแรงของปี 2567 คือ รูปแบบการโฆษณาอาศัยอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อการโปรโมทหรือรีวิวสินค้าของแบรนด์ และเพิ่มช่อมทางการรับรู้ทางอ้อม ด้วยการนำเสนอเนื้อหาที่แอบแฝงการขายสินค้า ,นำผลิตภัณฑ์ของสปอนเซอร์มารีวิว และรูปแบบการขายสินค้าที่ต้องปิดการขายให้ได้ไวที่สุด
เช่นเดียวกับพฤติกรรมการซื้อสินค้า ที่เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ แม้อย.มีกฎหมายที่กำหนดไม่ให้มีการซื้อขายออนไลน์ แต่ไม่เป็นไปตามที่อยากให้เป็น โดยในปี 2567 พบว่า 44.6 % ซื้อสินค้า/บริการบนช่องทางออนไลน์ ความถี่ในการซื้ออย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ 40.37 % ,5-7 วันต่อสัปดาห์ 28.91 % และอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน 30.72 % เพราะฉะนั้น อย.จะต้องปรับกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้เท่าทันกับเรื่องเหล่านี้
ขออนุญาตโฆษณาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
อย.ได้มีการปรับเพื่อรองรับกับปัญหาต่างๆ ซึ่งหลายปัญหาเกิดขึ้นใหม่ อย่างเช่น ปัจจุบันอย.มีระบบ e-submission ให้ยื่นขออนุญาตผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผู้ประกอบการสะดวกและสามารถติดตามสถานะการยื่นได้ ขณะเดียวกันอย.สามาถตรวจจับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม และความเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยได้รวดเร็วด้วย
นอกจากนี้ กำลังจะดำเนินการให้ยื่นขออนุญาตโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความสะดวกให้ผู้ที่ทำถูกต้องจะได้รับการอนุญาตรวดเร็วขึ้น ที่สำคัญ ข้อมูลโฆษณาอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าสู่ระบบนั้น อย.จะสามารถตรวจจับและวิเคราะห์ความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว
“ที่สำคัญ มีการนำข้อมูลการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพและการอนุญาตโฆษณา เชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อีมาร์เก็ตเพลส เพื่อให้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ขึ้นทะเบียนอย. และโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการอนุญาตจากอย.แล้ว ช่วยในการดักจับผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้รับอนุญาตได้รวดเร็ว ก่อนนำเข้าสู่ตลาดอีมาร์เก็ต เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน”นพ.สุรโชคกล่าว
Fast Track ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพ
นพ.สุรโชค กล่าวอีกว่า การตอบสนองต่อนโยบายหลักของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในเรื่องการป้องกันและลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือโรคNCDs อย่างเรื่องยาที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคNCDsต่างๆพิจารณาขึ้นทะเบียนโดยให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัยเป็นหลัก แต่ก็ดำเนินการขั้นตอนต่างๆให้เร็วขึ้น
ส่วนอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดหรือลดโรคNCDs โดยจะเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ อย.มีการเชื่อมโยงกับสถาบันโภชนาการและสถาบันอาหารต่างๆในการที่จะแนะนำประชาชนอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลโภชนาการ และมีผลิตภัณฑ์ทางเลือกสุขภาพที่ลดปริมาณหวาน มัน เค็ม
“แนวโน้มการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสุขภาพมากขึ้น และอย.มีช่องทางพิเศษอำนวยความสะดวก(Fast Track)ในการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ให้สามารถทำได้เร็วขึ้น เพื่อให้ของดีเข้าสู่ตลาดได้เร็ว”นพ.สุรโชคกล่าว