ดันไทยฮับ 'แปลงเพศครบวงจร' - รพ.เอกชนแข่งชิงตลาดแสนล้าน

ตอบรับ “สมรสเท่าเทียม” สบส. ชี้โอกาสดีกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ดันไทยฮับรักษามีบุตรยาก-เสริมความงาม-แปลงเพศครบวงจร คาดสร้างรายได้ปีละกว่าแสนล้าน ขณะที่รพ.รัฐ-เอกชนจัดบริการเฉพาะกลุ่มหลากหลายทางเพศ ตั้งคลินิก-แข่งอัดแพ็กเกจตรวจสุขภาพตลอดปี 2568
เมื่อพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 23 ม.ค.2568 ไม่เพียงสร้างความเท่าเทียมการสมรสเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย โดยเฉพาะทางด้านบริการทางการแพทย์และเฮลท์แคร์ ซึ่งภาครัฐเดินหน้าบริการรักษามีบุตรยาก-เสริมความงามและแปลงเพศแบบครบวงจร ขณะที่ภาคเอกชนเริ่มมีการแข่งขันกันมากขึ้นในปี 2568 ทั้งการตั้งคลินิก-จัดแพ็กเกจตรวจสุขภาพเฉพาะเพื่อรองรับกลุ่มหลากหลายทางเพศ
รักษามีบุตรยาก กระตุ้นเศรษฐกิจ
นพ.ภาณุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ส่วนที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศเรื่องหนึ่ง คือ การรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยก่อนมีโรคโควิด-19ระบาด มีคนจีนเข้ามารับบริการในประเทศไทยจำนวนมาก แม้จะชะลอไปในช่วงโควิด-19 แต่หลังจากนี้น่าจะมีคนมารับบริการเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากฝีมือแพทย์ไทยดีและเป็นที่ยอมรับ ค่าใช้จ่ายในการมารับบริการไม่แพง และบริการครบวง จึงเป็นโอกาสดีจะกระตุ้นเศรษฐกิจ
ปัจจุบัน สถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตเกี่ยวกับการให้บริการทั้งกรณีการรักษาภาวะมีบุตรยาก ทำเด็กหลอดแก้วและตั้งครรภ์แทน(อุ้มบุญ) จำนวน 117 แห่ง เป็นภาครัฐ 17 แห่ง และเอกชน 100 แห่ง แยกเป็นรพ.เอกชน 29 แห่ง และคลินิก 71 แห่ง
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 (พ.ร.บ.อุ้มบุญ) ซึ่งใช้มา 9 ปีกว่าแล้ว หลังจากมีการแก้ไข จะเปิดให้คู่สมรสต่างชาติทั้งคู่สามารถเข้ามารับบริการทำอุ้มบุญในประเทศไทยได้ โดยหาคนรับตั้งครรภ์ที่เป็นคนชาติเดียวกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของคู่สมรสต่างชาติมาด้วย และเมื่อมีการปรับให้สอดคล้องพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ตรงคำว่าคู่สมรสต่างชาติจะเป็นชาย-ชาย หรือหญิง-หญิงก็ได้
อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้พ.ร.บ.ฉบับแก้ไขมีผลบังคับใช้ก่อน ระหว่างนี้ยังไม่สามารถทำได้ โดยในปี 2567 มีการอนุญาตในส่วนของการทำอุ้มบุญสำหรับคู่สามีภริยา 105 ราย
ดันไทยฮับเสริมความงาม-แปลงเพศ
นพ.ภาณุวัฒน์ กล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากที่บอร์ดเมดิคัลฮับให้ศึกษาความเป็นไปได้กรณีไทยเป็นศูนย์กลางเวชกรรมความงามและการแปลงเพศว่า ยังเดินหน้าเรื่องนี้ ตั้งเป้าชูประเด็นส่วนของการแปลงเพศเป็นแกนหลักแล้วให้บริการด้านอื่นๆมาช่วยเสริมสนับสนุนซึ่งกันและกัน ขณะนี้ช่วงกระแสพ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม อาจจะทำให้คนสนใจมากขึ้นทั้งคนไทยและต่างชาติ เรื่องนี้จะทำรายได้ให้ประเทศสูงพอสมควร
“ค่าใช้จ่ายต่อรายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาท ยิ่งถ้ามีบริการต่างๆ ที่รองรับแบบครบวงจร เนื่องจากเมื่อมีการผ่าตัดแปลงเพศแล้วจบ แต่จะต้องมีการรักษาด้วยฮอร์โมน และอื่นๆ เข้ามาร่วมด้วย ทั้งนี้ ประมาณการกรณีเสริมความงามและแปลงเพศมีผู้รับบริการทั้งชาวไทยและต่างชาติปีละ 1.2 ล้านคน เฉลี่ยรายละ 5 แสนบาท ก็สร้างรายได้กว่าแสนล้านบาทต่อปี” นพ.ภาณุวัฒน์ กล่าว
เปิดคลินิกเฉพาะกลุ่มหลากหลายทางเพศ
ขณะที่ รพ.รัฐ และเอกชนได้ตั้ง “คลินิกเฉพาะ”เพื่อให้บริการกลุ่มหลากหลายทางเพศ อย่างเช่น คลินิกเพศหลากหลาย (Gen V Clinic) คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดีเป็นคลินิกที่ให้การดูแลกลุ่มเพศหลากหลายแบบครบวงจรทั้งร่างกาย จิตใจ และครอบครัว อาทิ การผ่าตัด การใช้ฮอร์โมน การให้คำปรึกษาผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ และผู้ปกครองที่มีลูกที่มีความหลากหลายทางเพศ การให้คำแนะนำในการปรับตัว รวมถึงประเมินก่อนผ่าตัดสำหรับคนที่ต้องการยืนยันอัตลักษณ์ทางเพศ โดยทีมแพทย์หลากหลายสาขาวิชา
คลินิกสุขภาพเพศครบวงจร รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นคลินิกที่จัดตั้งโดยคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ โดยให้คำปรึกษาในด้านสุขภาพของกลุ่มหลากหลายทางเพศโดยเฉพาะซึ่งทางคลินิกมีการแนะนำในเรื่องต่างๆ อย่างเช่น การใช้ฮอร์โมนให้ถูกวิธี ได้มาตรฐาน หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ รวมถึงปัญหาทางสุขภาพจิตของแต่ละคนอีกด้วย
Si-PRIDE คลินิกเพศหลากหลาย รพ.ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บริการแบบครบวงจร ทั้งร่างกายและจิตใจ ให้คำปรึกษาด้านจิตใจ ประเมินความพร้อม ดูแลความเสี่ยงเรื่องสุขภาพเรื่องฮอร์โมน การศัลยกรรม และการผ่าตัดแปลงเพศ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ทุกคนรู้จักตัวเองดีมากขึ้น รู้ทันการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี รวมถึง การปรึกษาด้านจิตใจจาก ปัญหาครอบครัวและการเป็นที่ยอมรับในสังคม
สำหรับพื้นที่ภูมิภาค “คลินิกเพื่อผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ” ศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ “คลินิกทรานส์เจนเดอร์” โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ และคลินิกสุขภาพบุคคลข้ามเพศ (Trans Wellness Clinic) คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น เปิด ให้บริการสุขภาพกลุ่มคนข้ามเพศทุกมิติ ช่วยให้ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ อัตลักษณ์ทางเพศ และสุขลักษณะทางเพศจากบริการที่ครบวงจร
โดยรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา อาทิ สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา จิตเวช หน่วยต่อมไร้ท่อและเมแทบอลิซึม ศัลยกรรม อาทิ การดูแลด้านอารมณ์และจิตใจโดยจิตแพทย์, การรักษาด้วยฮอร์โมนและให้คำแนะนำสำหรับเด็กและวัยรุ่นโดยกุมารแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อและพัฒนาการ, การผ่าตัดเต้านมและการผ่าตัดแปลงเพศโดยศัลยแพทย์ตกแต่ง การผ่าตัดมดลูกและการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องทางนรีเวชวิทยาโดยสูตินรีแพทย์ เป็นต้น
คลินิกรพ.เอกชนดูแลครบวงจร
ส่วนรพ.เอกชน Pride Clinic รพ.บำรุงราษฎร์ ให้กลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศได้เข้าถึงการบริบาล ครอบคลุมทุกมิติ (holistic integrated care) สามารถออกแบบการดูแลตามเป้าหมายและความต้องการของผู้รับการบริบาลแต่ละบุคคล (personalized care) ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การตรวจวินิจฉัย การประเมินสุขภาพทางกายและสุขภาพทางใจการตรวจสุขภาพทั้งภายนอกและภายใน การใช้ฮอร์โมน การผ่าตัดยืนยันเพศสภาพ และการดูแลหลังผ่าตัด
คลินิกสุขภาพเพศเท่าเทียม (All Gender Clinic) รพ.สมิติเวช ชลบุรี มีบริการตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคล ,ฮอร์โมนเพื่อการข้ามเพศ ,บริการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์,ให้คำปรึกษาการวางแผนครอบครัว,ให้คำปรึกษาการใช้ยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และบริการตกแต่งน้องสาว ให้คำปรึกษาโดยแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ทางเพศ,ศัลยกรรมตกแต่ง และอายุรแพทย์สาขาโรคติดเชื้อ
และบริการทางการแพทย์ด้านกลุ่มหลากหลายทางเพศ Rainbow Services (LGBTQ+) ศูนย์การแพทย์ รพ.นครธน ให้บริการทางการแพทย์ เช่น ให้คำปรึกษาภาวะไม่พอใจในเพศสภาพของตนเอง ,การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนเพื่อการข้ามเพศ การใช้ฮอร์โมนเพศหรือยาฮอร์โมนเพื่อความเป็นหญิงและเพื่อความเป็นชาย และให้คำปรึกษาและบริการเรื่องสุขภาวะทางเพศ Sexual health โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ,ตรวจคัดกรองมะเร็งปากทวารหนักในทุกเพศสภาพ ,ให้คำปรึกษาตรวจเลือดในกลุ่มโรคที่มีความเสี่ยงติดต่อ และแนะนำฉีดวัคซีนป้องกันโรค ได้แก่ วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ ,วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ เอ ,วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ บี เป็นต้น
จัดแพ็กเกจตรวจสุขภาพ LGBTQIA+
ไม่เพียงเท่านี้ ในปี 2568 รพ.เอกชนต่างจัดแพ็กเกจตรวจสุขภาพ ที่มีการจัดโปรแกรมที่เป็นการตรวจเฉพาะของกลุ่มหลากหลายทางเพศด้วย รพ.สินแพทย์ เทพารักษ์ มีโปรแกรมตรวจสุขภาพ(LGBTQIA+) ครอบคลุมการตรวจ 21 รายการ ราคา 4,200 บาท ตั้งแต่ 1 มิ.ย.2567-31 ธ.ค.2568 ,รพ.พญาไท ครอบคลุม 21 รายการ รองรับเฉพาะลูกค้าคนไทย ราคา 4,500 บาท รับบริการได้จนถึง 31 ธ.ค.2568, รพ.วิภาวดี โปรแกรมตรวจสุขภาพ คู่รักทางเลือก LGBTQ+ ราคา3,900 บาท ครอบคลุม 10 รายการ รับบริการได้ถึง 31 ธ.ค.2568 รับบริการได้ที่ศูนย์สุขภาพและอาชีวอนามัย
และรพ.กรุงเทพ เชียงใหม่ มีแพ็กเกจตรวจสุขภาพสำหรับ LGBTQ+ แยกเป็นโปรแกรมสำหรับผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป เพศกำเนิดเป็นเพศชายครอบคลุม 19 รายการ ราคา 5,900 บาท และเพศกำเนิดเป็นหญิง ครอบคลุม 20 รายการ ราคา 6,200 บาท มีทั้งการตรวจพื้นฐานที่จำเป็น ตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สอดคล้องกับรสนิยมทางเพศของตนเอง และสุขภาพด้านความสัมพันธ์กับคู่ครองไปพร้อมๆ กับการตรวจสุขภาพ รับบริการได้ จนถึง 31 ธ.ค.2568