กรมสุขภาพจิต ส่งทีม MCATT ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจเหตุ "กราดยิงหนองบัวลําภู"
กรมสุขภาพจิต ส่งทีม MCATT ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เยียวยาจิตใจในพื้นที่ประสบเหตุสะเทือนขวัญ "กราดยิงหนองบัวลําภู"
วันนี้(7 ตุลาคม 2565) กรณีเหตุสะเทือนขวัญ "กราดยิงหนองบัวลําภู" นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต จัดทีมเร่งด่วนเพื่อเยียวยาจิตใจ (MCATT) ทันทีหลังเกิดเหตุ เพื่อช่วยเหลือดูแลจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู
ทั้งนี้ได้ดำเนินการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกครอบครัว รวมทั้งสิ้น 88 ราย โดยทุกรายยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดเนื่องจากยังมีความเสี่ยงสูงจากภาวะปัญหาสุขภาพจิต
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การปฏิบัติการเยียวยาที่สำคัญโดยใช้หลักการปฐมพยาบาลทางใจ (Psychological First Aid: PFA) เป็นกระบวนการสำคัญในการเยียวยาจิตใจอย่างใกล้ชิด ช่วยให้ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ ครอบครัว ญาติ และคนในพื้นที่ รวมถึงผู้ได้รับผลกระทบในชุมชนใกล้เคียง ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไป โดยการซักถามต่อผู้ที่เผชิญเหตุการณ์ความรุนแรง ลักษณะการถามที่มีลักษณะเจาะ เค้น ขุดคุ้ย จะเป็นการตอกย้ำภาพความรุนแรง เสียง บรรยากาศของความรุนแรงจะฉายวนอยู่ในจิตใจคนนั้น ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกลายเป็นแผลลึก ทำให้เยียวยา คลี่คลายได้ยาก และหากจำเป็นต้องกระทำ ขอให้ทำโดยอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจความรู้สึกและข้อจำกัดตรงนี้ด้วย การถามต้องพร้อมรับฟังอารมณ์ ความรู้สึก ไม่สร้างคำถามที่ทำให้รู้สึกคุกคาม ทำให้ต้องกลับไปคิดวนซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ทำให้เขารู้สึกผิด หรือกล่าวโทษตอกย้ำ
โดยกรณีการดูแลจิตใจกลุ่มเด็กและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่กำลังอยู่ในสภาพของความหวาดกลัว ตระหนก ควรให้การดูแลอย่างเร่งด่วนที่สุด รู้สึกปลอดภัย อยู่ในสถานที่ที่รอดพ้นจากอันตรายแล้วทำให้รู้สึกได้รับการปกป้องทางร่างกายและความรู้สึกได้จากผู้ปกครอง/คนที่คุ้นเคย โดยการรับฟัง และเข้าใจการแสดงออก ท่าทางของเด็ก ๆ ทั้งนี้ควรระมัดระวังไม่ควรสอบถาม ซักไซ้ ขุดคุ้ย ให้เล่าถึงเหตุการณ์ เพื่อให้ตอบคำถามถึงเหตุการณ์นี้ซ้ำ ๆ จะทำให้เกิดบาดแผลทางจิตใจที่ลึกและเรื้อรังยากต่อการเยียวยา และในกลุ่มญาติหรือผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเร่งเยียวยาผลกระทบสภาพทางอารมณ์ทันที ดูแลบาดแผลทางจิตใจให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันผลกระทบทางจิตใจระยะยาว
แพทย์หญิงอัมพร กล่าวต่ออีกว่า ในการเยียวยาสร้างความเข้มแข็งทางใจในชุมชน ให้ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตในพื้นที่ สามารถใช้หลักการ Safe คือการสร้างบรรยากาศให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยกลับมาโดยเร็ว Calm การไม่กระจายข่าวลือหรือการส่งต่อข้อมูลจนเกิดการตื่นตระหนก Hope การสร้างความหวังให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ และ Care การใส่ใจดูแลในสังคมร่วมกัน โดยทีม MCATT จะติดตามดูแลช่วยเหลือและเยี่ยมบ้านอย่างใกล้ชิดพร้อมจัดตั้งศูนย์เยียวยาจิตใจในพื้นที่ โดยกระจายตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่ และสามารถเข้าถึงได้ง่าย และกับพัฒนาสังคมและตำรวจในพื้นที่เป็นต้น
การเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพจิตประชาชนหลังประสบเหตุหรือที่เรียกว่า โรคเครียดภายหลังภยันตราย PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder)
อาการ PTSD จะมี ดังนี้
- ตื่นกลัวทั้งทางร่างกายและจิตใจ
- มีอาการหวาดกลัว
- ตื่นตระหนก ตกใจง่าย กระสับกระส่าย วิตกกังวล คิดมาก
- มองโลกและตนเองในแง่ลบ
- นอนไม่หลับ
- หงุดหงิด สมาธิแย่ลง
- บางรายอาจมีความรู้สึกผิด รู้สึกซึมเศร้า หดหู่ สิ้นหวัง หรือการคิดเรื่องทำร้ายตัวเอง
ดังนั้นจึงขอให้สำรวจความรู้สึกตัวเองว่า "โกรธ/ก้าวร้าว จนไม่สามารถจัดการได้หรือไม่" หากมีความรู้สึกดังกล่าวขอให้ตั้งหลักหาทางออก เช่น ขอคำปรึกษาจากคนใกล้ตัว รับฟังและใส่ใจคนรอบข้าง หากไม่สามารถจัดการความรู้สึกตัวเองได้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต หรือโทร สายด่วน 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง