เงินช่วยเหลือเกษตรกร เช็กเกณฑ์ผู้ได้รับเงิน เยียวยาเกษตรกรน้ำท่วมปี 65

เงินช่วยเหลือเกษตรกร เช็กเกณฑ์ผู้ได้รับเงิน เยียวยาเกษตรกรน้ำท่วมปี 65

อัปเดตแจ้งให้ทราบด่วนเลย เงินช่วยเหลือเกษตรกร เช็กเกณฑ์ผู้ได้รับเงิน เยียวยาเกษตรกรน้ำท่วมปี 65 ตรวจสอบว่าใครจะได้เงินหมื่นหรือพันบาท

ตามต่อบอกให้รู้ กรณี เงินช่วยเหลือเกษตรกร เช็กเกณฑ์ผู้ได้รับ เงินเยียวยาเกษตรกร น้ำท่วมปี 65 มาตรการช่วยเหลือพื้นที่เกษตรเสียหายจากภัยพิบัติจากอุทกภัย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ชี้แจง กณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช ยังคงเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

และหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 

เงินช่วยเหลือเกษตรกร เช็กเกณฑ์ผู้ได้รับเงิน เยียวยาเกษตรกรน้ำท่วมปี 65

เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย มีพื้นที่เสียหายจริง อยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือ และช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ 

เงินช่วยเหลือเกษตรกร เช็กเกณฑ์ผู้ได้รับเงิน เยียวยาเกษตรกรน้ำท่วมปี 65

โดยการขอรับความช่วยเหลือนั้น มีระเบียบขั้นตอนดังนี้ 
1. เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว เกษตรกรยื่นแบบขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้าน/กำนัน/อบต. หรือนายกเทศมนตรีตรวจสอบและรับรอง ตามสถานที่ที่กำหนด 

2. คณะกรรมการหมู่บ้านตรวจสอบ และรับรองความเสียหายนำรายชื่อเกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ไปติดประกาศคัดค้านตามสถานที่ที่กำหนด ไม่น้อยกว่า 3 วัน 

3. สำนักงานเกษตรอำเภอนำเสนอคณะกรรมการ ก.ช.ภ.อ. พิจารณาให้ความช่วยเหลือ วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท 

  • หากไม่เพียงพอ ให้สำนักงานเกษตรจังหวัดเสนอคณะกรรมการ ก.ช.ภ.จ. พิจารณาให้ความช่วยเหลือ วงเงินในอำนาจ 20 ล้านบาท 
  • หรือหากไม่เพียงพอให้คณะกรรมการ ก.ช.ภ.จ. พิจารณาให้ความเห็นชอบใช้เงินทดรองราชการ ในอำนาจปลัด กษ. วงเงินในอำนาจ 50 ล้านบาท

 

การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ที่กำหนดตามประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีไม่สามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ให้ยื่นขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ก่อนระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินสิ้นสุดลงไม่น้อยกว่า 15 วัน และขอให้มีการบูรณาการหน่วยงานในระดับพื้นที่ เพื่อเร่งรัดดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร 

กรณีพื้นที่ทำการเพาะปลูก มีพืชตายหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟู หรือเยียวยาให้กลับสู่สภาพเดิมได้อีก ให้ช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เสียหายจริง ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตรา ดังนี้

  • ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท
  • พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท
  • ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่นๆ ไร่ละ 4,048 บาท

 

การประมง ให้ดำเนินการช่วยเหลือผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ประสบภัยพิบัติที่สัตว์ตายหรือสูญหาย ให้ดำเนินการช่วยเหลือเป็นเงิน ดังนี้

  • กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล หรือหอยทะเล ไร่ละ 11,780 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่
  • ปลาหรือสัตว์น้ำอื่นๆ ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าวหรือร่องสวน (คิดเฉพาะพื้นที่เลี้ยง)ไร่ละ 4,682 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่
  • สัตว์น้ำที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ หรือที่เลี้ยงในลักษณะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ตารางเมตรละ 368 บาท ไม่เกินรายละ 80 ตารางเมตร

หากคิดคำนวณพื้นที่เลี้ยงแล้ว ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ประสบภัยพิบัติรายใดจะได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 368 บาท ให้ช่วยเหลือในอัตรารายละ 368 บาท

เงินช่วยเหลือเกษตรกร เช็กเกณฑ์ผู้ได้รับเงิน เยียวยาเกษตรกรน้ำท่วมปี 65