เมื่อรอบตัวมีแต่เรื่องน่าเศร้า เราเลยไม่กล้ามีความสุข?

โควิดที่ระบาดลุกลามไปทั่วโลกทำให้ใครหลายคน ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้เห็นคนรอบตัวเริ่มมีปัญหาหนี้สิน อีกทั้งเหตุภัยพิบัตที่เกิดขึ้นทั่วโลก เหตุกราดยิงในโรงเรียนที่เริ่มเกิดบ่อยขึ้น และล่าสุดกับการสลายการชุมนุมในช่วงการประชุมเอเปค 2022 ที่ส่งผลให้มีผู้ชุมนุมถูกจับและมีหลายคนบาดเจ็บ เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนสร้างความเจ็บปวดและเศร้าหมองให้กับใครหลายคน

โดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่คนส่วนใหญ่จะมีอารมณ์ร่วมและแสดงความคิดเห็นต่างๆ ต่อเหตุการณ์เหล่านั้น แต่ถ้าคุณคือกลุ่มคนที่อยู่ระหว่างท่องเที่ยวในวันหยุด ทานข้าวพร้อมหน้าครอบครัวในมื้อพิเศษ หรืออยู่ในช่วงเวลาดีๆ แล้วอยากจะแชร์โมเมนต์แห่งความสุขนั้นในโซเชียลมีเดีย แต่ก็ไม่กล้า เพราะกังวลว่าหากแสดงให้เห็นความสุขในเรื่องส่วนตัวขณะที่ผู้อื่นกำลังทุกข์ใจนั้น จะเป็นการไม่เคารพความรู้สึกผู้อื่นหรือไม่ หากคุณรู้สึกกังวลในเรื่องนี้หมายความว่า คุณกำลังตกอยู่ในภาวะ “Happiness Guilt” หรือ “รู้สึกผิดที่จะมีความสุข”

• ทำไมเราถึงรู้สึกผิดที่จะมีความสุข ?

เนื่องจากคนรอบข้างส่วนใหญ่กำลังมีความทุกข์ ทำให้เรารู้สึกว่าการที่เรามีความสุขอาจเป็นเรื่องผิด และไม่กล้าที่จะมีความสุขและแสดงออกไปในทางทุกข์ใจแทน และเมื่อความรู้สึกเหล่านี้ถูกสะสมไปเรื่อยๆ จะทำให้เรายึดติดว่าเราไม่ได้รับอนุญาตให้มีความสุข และคอยมองหาความสุขอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตจริงหรือในโลกโซเชียล

• เมื่อไม่กล้ามีความสุข จิตใจจึงได้รับผลกระทบ

สำหรับพฤติกรรมของผู้ที่ตกอยู่ในภาวะ “Happiness Guilt” มักจะเป็นคนอมทุกข์ เก็บซ่อนความรู้สึก หรือไม่มีความสุขกับสิ่งรอบตัว จนทำให้สภาพจิตใจอ่อนแอ และส่งผลต่อบุคลิภาพ อารมณ์ และความคิด ได้แก่

1. เมื่อเราแสดงออกในมุมความทุกข์ออกมาบ่อยครั้ง จะทำให้ขาดความมั่นในใจการแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา

2. กลายเป็นคนมองโลกในแง่ลบ และสะสมพลังงานด้านลบโดยไม่รู้ตัว ที่สำคัญเมื่อไม่สามารถอนุญาตให้ตนเองมีความสุขได้ ก็ย่อมทำให้สะสมความทุกข์ และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต

• รับมืออย่างไรเมื่อเรามีความสุขแต่ไม่กล้าแสดงออก

มีข้อมูลจากเว็บไซต์ Hospice ที่ได้แนะนำวิธีการรับมือเมื่อคุณเกิดภาวะความรู้สึกผิดที่จะมีความสุขไว้ดังนี้

- ให้พื้นที่ความเสียใจ

ขณะนั้นหากรู้สึกว่าเรามีความเศร้าหรือเสียใจตามคนส่วนใหญ่จริง ลองให้ตัวเองได้มีเวลาในพื้นที่ความเสียใจก่อน เมื่อเราปล่อยให้ตัวเองเสียใจจนพอแล้ว จะรู้สึกโล่งขึ้นและสามารถมีความสุขกับเรื่องราวอื่นๆ ได้

- ใช้เวลาอยู่กับความสุขที่มี

แม้ว่าในช่วงนั้นคนอื่นอาจจะยังอยู่ในช่วงที่มีความทุกข์ แต่ถ้าหากเราปล่อยวางความทุกข์นั้นและใช้เวลากับความสุขของตัวเองอย่างเต็มที่ นอกจากจะส่งผลดีกับตัวเองแล้ว อาจส่งพลังงานด้านบวกให้กับคนที่ยังไม่ละทิ้งจากความทุกข์ได้ด้วย

- ปล่อยให้ตัวเองได้หัวเราะ

ความจริงแล้วความรู้สึกนั้นก็เปรียบเสมือนโรคติดต่อในตอนที่เรามีความสุขหากเราแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่ก็สามารถช่วยให้คนรอบข้างยิ้มตามไปด้วยได้

- ควรใจดีกับตัวเองเข้าไว้

ข้อนี้ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะถ้าในช่วงที่เรากำลังมีความสุขแต่เรามองว่าสถานการณ์รอบข้างไม่เอื้ออำนวยให้เรามีความสุขได้เต็มที่หรือทำให้เรากังวลที่มีความสุขความจริงแล้วไม่จำเป็นเลย 

เนื่องจากเรามีสิทธิ์ที่จะซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเอง เมื่อมีช่วงเวลาหรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้เรามีความสุข เราควรปล่อยตัวเองให้มีความสุขตามที่ควรจะเป็น เพราะอย่าลืมว่าเมื่อตอนเราทุกข์เราก็ทุกข์โดยที่ไม่ได้มองว่ารอบข้างเป็นอย่างไร และความสุขคือสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยฮีลใจให้มนุษย์ทุกคนก้าวข้ามความเจ็บปวดไปได้

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงแนวทางเท่านั้น แต่ความจริงแล้ววิธีการจัดการกับความรู้สึกตัวเองของแต่ละคนนั้นไม่มีเหมือนกัน แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องซื่อสัตย์กับความรู้สึกเมื่อทุกข์ก็อย่าเก็บไว้คนเดียว และเมื่อสุขก็ควรจะแสดงออกให้เต็มที่

อ้างอิงข้อมูล : Alljit