"พยากรณ์อากาศ" ลมหนาวปกคลุม ไทยตอนบนแล้ว อีสานอุณหภูมิลดฮวบ 5 – 7 องศา
สภาพอากาศพรุ่งนี้ กรมอุตุ "พยากรณ์อากาศ" เผยลมหนาวปกคลุม ไทยตอนบนแล้ว อากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง อีสานอุณหภูมิลดฮวบ 5 – 7 องศา ส่วนเหนือ-กลาง-กทม.และปริมณฑล -ตะวันออก อุณหภูมิลด 3 – 5 องศา
รายงานสภาพอากาศอีก 7 วันข้างหน้า จาก กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุ "พยากรณ์อากาศ" 24 – 30 มกราคม พ.ศ. 2566 คาดการณ์ว่า
ในช่วงวันที่ 24 - 26 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 5 – 7 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง และภาคใต้ ส่งผลทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 27 - 30 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง ส่วนประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วยตลอดช่วง
กรมอุตุนิยมวิทยา ยังให้รายละเอียด "พยากรณ์อากาศ" ถึงข้อควรระวัง ระหว่างวันที่ 24 – 30 มกราคม พ.ศ. 2566 ระบุว่า
- ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 24 - 27 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 9 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2 – 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28 – 30 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 1 – 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 24 – 26 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 5 - 7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 9 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 32 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 27 – 30 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 9 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 – 30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3 – 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม.
- ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 24 – 27 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28 – 30 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1 - 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
- ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 24 – 27 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 28 – 30 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ในวันที่ 24 - 25 ม.ค. 66 ทางตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่จ. สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
- ตั้งแต่จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
- ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณตอนล่างของภาค ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 24 - 26 ม.ค. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ในช่วงวันที่ 27 - 30 ม.ค. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 24 – 27 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28 – 30 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1 - 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.