"พยากรณ์อากาศ" มวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่ แผ่ปกคลุมไทยตอนบน
"พยากรณ์อากาศ" 28 – 31 ม.ค.66 มวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากจีน แผ่ปกคลุมไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2 – 4 องศา
รายงานสภาพอากาศอีก 7 วันข้างหน้า จาก กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุ "พยากรณ์อากาศ" ระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2566 คาดการณ์ว่า
ในช่วงวันที่ 26 - 27 ม.ค. และ 1 ก.พ. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า
ส่วนในช่วงวันที่ 28 – 31 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 2 – 4 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 27 - 31 ม.ค. 66 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 27 – 31 ม.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง
คาดหมาย "พยากรณ์อากาศ" รายภาค ระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2566
- ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 26 – 28 ม.ค. และ 1 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3 – 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ในช่วงวันที่ 29 – 31 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 9 – 16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 1 – 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 26 – 27 และ 1 ก.พ. 66 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 10 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 – 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28 – 31 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 – 30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 – 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม.
- ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 26 – 28 ม.ค. และ 1 ก.พ. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 29 – 31 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม.
- ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 26 – 27 และ 1 ก.พ. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 28 – 31 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 34 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 26 – 27 ม.ค. และ 1 ก.พ. 66 ตั้งแต่จ. สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ในช่วงวันที่ 28 - 31 ม.ค. 66 ตั้งแต่จ. สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
- ตั้งแต่จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
- ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27 – 34 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 26 - 27 ม.ค. และ 1 ก.พ. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ในช่วงวันที่ 28 - 31 ม.ค. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 - 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 26 – 28 ม.ค. และ 1 ก.พ. 66 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 29 – 31 ม.ค. 66 อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1 - 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.