ชิมรส“ปลานิลน้ำไหล” นั่งรถ “จี๊ปยุคสงคราม” เที่ยวชุมชน ที่ชายแดนใต้
การได้ชิมอาหารเฉพาะที่ “ปลานิลน้ำไหล” “ทุเรียนมูซานคิง” และท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ “นั่งรถจี๊ปสมัยสงคราม” เรียนรู้อัตลักษณ์ชุมชน ณ 2 ใน 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ประจำปี 2565 ของกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เป็นสิ่งที่ต้องไปลองจริงๆ
“ไกลแค่ไหน หากมีใจก็ไปถึง” จึงตัดสินใจแบบไม่รอช้า ที่จะร่วมเดินทางร่วมกับวธ.ไป ชุมชนบ้านบ่อน้ำร้อน อ.เบตง จ.ยะลา และชุมชนวัดทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นเพียง 2 ชุมชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้และ2 ใน 10 ชุมชนทั่วประเทศ ที่เป็นต้นแบบในปี 2565
การเดินทางจากอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปยังอ.เบตง ใต้สุดแดนสยามใช้เวลาราว 4 ชั่วโมง และแน่นอน เส้นทางขึ้นเขาคดเคี้ยว ตั้งแต่อ.ธารโต ผู้ที่เมารถควรรับประทานยา แต่หากเคยผ่านเส้นทางโค้งแม่ฮ่องสอนหรือโค้งอ.อุ้มผาง จ.ตากมาได้ ที่นี่ก็ถือว่าคดโค้งน้อยกว่า ระหว่างทางจะผ่าน “เขื่อนบางลาง” นั่งชมทิวทัศน์ 2 ข้างทางเพลินก็ถึงจุดหมาย “บ้านบ่อน้ำร้อน”
ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านบ่อน้ำร้อน เป็นชุมชนที่มีต้นทุนทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายใน “วิถีพหุวัฒนธรรม” มีกลุ่มชาติพันธุ์ “ลาหู่” หรือ มูเซอ ที่รักษาวัฒนธรรมการแต่งกาย ศิลปะการแสดง ตลอดจนประเพณีอย่างมีเอกลักษณ์ จึงเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง
ชิมรสอาหารเฉพาะพื้นที่ @เบตง
ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมของชุมชน มาจากชาวจีนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ได้ค้นพบธารน้ำที่มีความร้อนของกรดกำมะถัน มีสรรพคุณมากมายในการรักษาโรคทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ปัจจุบันจึงได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีใหม่
ที่เรียกว่า บ่อน้ำพุร้อนเบตง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ สามารถอาบน้ำแร่ แช่เท้าผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต้มไข่ออนเซน 7 นาที ในตะกร้าไม้ไผ่ที่สานด้วยตัวเองแบบง่ายๆ สไตล์พื้นเมือง
และ “อุโมงค์ดินปิยะมิตร” ซึ่งอดีตคอมมิวนิสต์มลายาสร้างขึ้นในปี 2520 เป็นฐานปฏิบัติการหลบภัยทางอากาศและสะสมเสบียงอาหาร ยาว 1 กิโลเมตร ภายในอุโมงค์จุคนได้ราว 200 คน เคยเป็นลานกว้างสำหรับฝึกกำลังพลด้วย
เที่ยวชมธรรมชาติ บ้านบ่อน้ำร้อน มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ อาทิ สวนหมื่นบุปผา สวนดอกไม้เบตง ชมความสวยงามของดอกไม้ที่ปลูกเรียงรายเป็นทิวแถว
สวนส้มโชกุนปลูกบนภูเขาแบบขั้นบันใด สวนทุเรียนมูซังคิง หรือ เหมาซานหวัง ตลอดจนแวะสถานที่เชื่อมโยงที่มีชื่อเสียง จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ที่มีทะเลหมอกให้ชมตลอดทั้งปี
ชิมอาหารเฉพาะถิ่น เมนูขึ้นชื่อเฉพาะพื้นที่ที่ต้องลิ้มลอง เช่น ไก่เบตง เนื้อนุ่ม หนังกรอบ ไม่มันผสม
ผักน้ำ คล้ายผักคะน้าหรือกวางตุ้ง แต่กรอบและหวานกว่า โดยสถานที่เพาะพันธุ์ตั้งอยู่บนภูเขา
ปลานิลสายน้ำไหล เป็นปลาที่เลี้ยงแบบน้ำไหล รสชาติดี หายาก
ส้มโชกุน ต่างจากส้มทั่วไปตรงผลใหญ่ รสชาติหวานอมเปรี้ยว เปลือกบาง เนื้อเยอะ
ทุเรียนมูซังคิง ทุเรียนที่มีราคาสูง 500-1,000 บาทต่อกิโลกรัม เป็นทุเรียนที่เปลือกบาง เมล็ดเล็ก ลีบบาง เนื้อเนียนละเอียดสีเหลืองเข้ม รสชาติหวานมันและหวานแหลม มีกลิ่นเฉพาะตัว
ตื่นยามเช้าที่เบตง ในเวลา ตี 5 ก็พบว่า “หมอก”นั้นปกคลุมทั่วทั้งอำเภอ เป็นอีกหนึ่ง “เมืองในหมอก”ที่ควรต้องไปเยือน
นั่งรถจี๊ปสมัยสงครามโลกเที่ยวชุมชน
เดินทางออกจากอ.เบตง มุ่งหน้ากลับมายัง ชุมชนคุณธรรม ฯ วัดทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
ชุมชนคุณธรรมวัดทรายขาว มีแหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประเพณีที่หลากหลาย เป็นชุมชน 2 วิถี 2 วัฒนธรรมที่ผสมผสานทางวัฒนธรรมคือ วิถีพุทธและวิถีมุสลิม ใช้ภาษาใต้ท้องถิ่นซึ่งเป็นภาษาทรายขาว ในการพูดคุยสื่อสารและอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษจนถึงปัจจุบันตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่โดดเด่น หนึ่งเดียวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นำรถจี๊ปสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีอยู่เดิมในชุมชนจำนวนหนึ่ง และหาซื้อเพิ่มเติมมาอีกส่วนหนึ่ง พานักท่องเที่ยวไปชมทัศนียภาพ และความงดงามของชุมชน สักการะพระพุทธมหามุนินโลกนาถ ดูหินผาพญางูมีลักษณะคล้ายหัวงู ณ อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ชมทัศนียภาพงดงามท่ามกลางทะเลหมอก ที่เขารังเกียบ
วิถีชุมชน 2 วัฒนธรรม ซึ่งอยู่ร่วมกันของคนในชุมชนทั้งไทยพุทธ และมุสลิม มีศาสนสถานที่เป็นศูนย์รวมของชุมชน ซึ่งวัดทรายขาว มีประวัติและเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด พระวิปัสสนาที่เลื่องลือของแดนใต้ โดยวัดสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2300 ภายในวัดมีเจดีย์พระครูธรรมกิจโกศล (พ่อท่านนอง ธมมภูโต) อดีตเจ้าอาวาส และเป็นอริยสงฆ์ที่ได้เข้าร่วมปลุกเสกพระเครื่องหลวงปู่ทวด ปี พ.ศ. 2497 พร้อมพระอาจารย์ทิมแห่งวัดช้างให้
และมัสยิดบ้านควนลังงาหรือมัสยิดนัจมุดดีน ที่มีการก่อสร้างแบบผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบไทยและสถาปัตยกรรมของมุสลิมแห่งเดียวในไทย ซึ่งมีอายุกว่า 300 ปี กำหนดอายุในราวสมัยอยุธยาถึงสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เป็นอาคารไม้แบบเรือนทรงไทย หลังคาทรงจั่วต่อปีกนก ไม่มีผนัง โครงสร้างหลังคาเป็นไม้ตะเคียนมุงกระเบื้องดินเผาปลายแหลม ภายในมัสยิดมีมิมบัร มีนางญา หรือกลองที่ใช้ตีบอกเวลาละหมาด มีคัมภีร์อัลกุรอานเขียนด้วยมือ และมีกอเลาะห์หรืออ่างเก็บน้ำที่ใช้สำหรับอาบน้ำละหมาด
ชมสวนผลไม้และเลือกซื้อผ้าไหมมัดหมี่ลายจวนตานี ที่มีการท่อเป็นจุดกำเนิดจากที่ชุมชนนี้ จนได้รับเลือกให้เป็นผ้าอัตลักษณ์ของจ.ปัตตานี และผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป อีกมากมาย ช่วยส่งเสริมรายได้ให้กับคนในชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม
เที่ยวชุมชน สร้างรายได้หลายร้อยล้าน
นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวว่า วธ.ดำเนินโครงการคัดเลือก 10 สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” เพื่อคัดเลือกชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยว จากชุมชนทั่วประเทศกว่า 30,000 ชุมชน เป็นชุมชนคุณธรรมจำนวน 228 ชุมชน และคัดเลือกให้เหลือเพียง 10 ชุมชน ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในทุกมิติ ดำเนินการในปี 2564 เป็นปีแรก จำนวน 10 ชุมชนและประจำปี 2565 จำนวน 10 ชุมชน รวม 2 ปี 20 ชุมชน
“สุดยอดชุมชนต้นแบบ เที่ยวชุมชน ยลวิถี ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG และ Soft Power ของไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของวธ. ในการปรับบทบาทจากกระทรวงสังคม สู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนชุมชนอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมรูปแบบการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม โดยในปี 2564 สามารถทำรายได้กว่า 200 ล้านบาท และคาดว่าเมื่อมีการประกาศสุดยอดชุมชนเพิ่มอีก 10 แห่งในปี 2565 จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกหลายร้อยล้านบาท”นางยุพากล่าว
ปักหมุด 20 สุดยอดต้นแบบ“เที่ยวชุมชน ยลวิถี”
ประจำปี 2564 จำนวน 10 ชุมชน ได้แก่
1. ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโนนบุรี จังหวัดกาฬสินธุ์
2.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านศรีดอนชัย จังหวัดเชียงราย
3.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
4. ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านสามช่องเหนือ จังหวัดพังงาน
5. ชุมชนคุณธรรมฯ วัดศรีดอนคำ จังหวัดแพร่
6.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านผาบ่อง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7. ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเก่าริมน้ำประแส จังหวัดระยอง
8. ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านท่ามะโอ จังหวัดลำปาง
9. ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางใบไม้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
10. ชุมชนคุณธรรมฯ เมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
ประจำปี 2565 จำนวน 10 ชุมชน ได้แก่
1.ชุมชนคุณธรรมฯ แหลมสัก ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
2.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเมืองรวง ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
3.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดทรายขาว ต.ทรายขาว อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
4.ชุมชนคุณธรรมฯ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต
5.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านภู ต.บ้านเป้า อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร
6.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านบ่อน้ำร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา
7.ชุมชนคุณธรรมฯ วัดบางน้ำผึ้งใน ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
8.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านหนองบัว ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
9.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านถ้ำกลองเพล ต.โนนทัน อ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู
10.ชุมชนคุณธรรมฯ บ้านเชียง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี