‘มวยไทย’ Soft Power มีดีมากกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ โดนใจชาวต่างชาติ
ศิลปะประจำชาติของไทยนั้นมีหลากหลาย ซึ่ง ‘มวยไทย’ เป็นหนึ่งในนั้น และเป็น 'Soft Power' ของประเทศที่ไม่ใช่เพียงกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นการสืบสานอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของคนไทย และกีฬาไทย
ปัจจุบัน 'มวยไทย’ ได้รับความนิยมจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในอาเซียน / เอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี หรือในยุโรป อเมริกา รัสเซีย ซึ่งมวยไทยเริ่มมีชื่อเสียง ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 และ มีชื่อเสียงอย่างมากในต่างประเทศ ในตอนต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 21 ผ่านการถ่ายทอด ทางสื่อต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทย และ ต่างประเทศ อันช่วยส่งเสริม มวยไทย ( Muay Thai ) ในวัฒนธรรมสมัยนิยม อาทิ ภาพยนต์ และ วีดีโอเกม เป็นต้น
จากสถิติในปี 2561 พบว่าการท่องเที่ยวเชิงกีฬามีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นเฉพาะตลาดมวยไทยมีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาทเติบโต 5% ซึ่งในปี2562 คาดว่าตลาดมวยไทยจะเติบโตได้ที่ 10% มูลค่ารวมเพิ่มขึ้นกว่า 1.2 แสนล้านบาท หรือเทียบเท่ากับมูลค่ารวมของตลาดการท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยเชื่อว่าจะเป็นส่วนช่วยในการผลักดันให้รายได้รวมของภาคการท่องเที่ยวเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้กว่า 3.38 ล้านล้านบาทได้ ซึ่งในขณะนี้มีค่ายมวยและยิมมวยไทยกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศและมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ประกาศขึ้นทะเบียนมวยไทยให้เป็น ‘มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ สาขากีฬาภูมิปัญญาไทย’ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดความตระหนักในคุณค่าและยกย่ององค์ความรู้ และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย และขณะนี้กำลังผลักดันให้ ยูเนสโกขึ้นบัญชี ‘มวยไทย’ เป็นมรดกโลก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
สืบสานเสน่ห์ มรดกวัฒนธรรม 'มวยไทย'
6 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ได้ถูกกำหนดให้เป็น ‘วันมวยไทย’ ซึ่งตรงกับวันเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) ซึ่งทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่มีพระปรีชาสามารถด้านมวยไทยเป็นที่ประจักษ์ และเป็นพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียว ที่เสด็จออกไปชกมวยกับสามัญชน
โดยณ ตำหนักพระเจ้าเสือ วัดตึก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีมอบสมรรถนะครูมวยไทย พิธีบวงสรวงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) โดยมีนายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และผู้บริหาร นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬามวยไทยพระเจ้าเสือ พระครูภาวนาวชิรคุณ เจ้าอาวาสวัดตึก ร่วมพิธี พร้อมด้วยเครือข่ายวัฒนธรรม ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานจำนวนมาก
นอกจากนั้น ยังมี นายจรัสเดช อุลิต นายกสมาคมกีฬามวยไทยพระเจ้าเสือ นายปรเมษฐ์ ภักดีคีรีไพรวัลย์ เลขาสมาคมกีฬามวยไทยพระเจ้าเสือ นายชาญณรงค์ สุหงษา นายกสมาคมสถาบันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไทย นายชินวุธ ศิริสัมพันธ์ นายกสมาคมครูมวยไทย นายแสวง วิทยพิทักษ์ อุปนายกสมาคมมวยโบราณ พร้อมวิทยากรครูมวยไทยอาชีพ License กกท. ทำพิธีครอบครูให้นักเรียนมวยไทย
'มวยไทย' เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจประเทศ
นายอิทธิพล กล่าวว่ามวยไทยเป็นมรดกของประเทศ ซึ่งหลายๆ หน่วยงานได้ให้ความสำคัญในการสนับสนุนมวยไทย และทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้มีการส่งเสริม และผลักดันให้มีการขอขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก
ทั้งนี้ 'มวยไทย' ถือเป็นอุตสหากรรมสร้างสรรค์ของไทย ที่ไม่ได้เพียงสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ แต่ยังสร้างรายได้จำนวนมาก โดยเฉพาะ ครูมวยไทย ที่ได้ไปเปิดการเรียนการสอนในต่างประเทศ ทำให้มวยไทยเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากขึ้น ดังนั้น อยากให้คนไทย ร่วมอนุรักษ์ศิลปะการต่อสู้ อย่าง มวยไทย และคงไว้ซึ่งพิธีการ ทำเนียบปฎิบัติ เช่น การไหว้ครู เป็นต้น
“ปีนี้เป็นปีที่ 321 ของประเทศไทยที่ได้มีการสืบสานอนุรักษ์ศิลปะ มวยไทย ดังนั้น ขณะนี้ที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับมวยไทย และมวยอื่นๆ นั้น ไม่อยากให้มองอย่างนั้น เพราะมวยเองก็มีการประยุกต์ให้เป็นไปตามยุคตามสมัย และมวยถือเป็นกีฬาสากล ที่มีมากกว่า 120 ประเทศ การที่หลายๆ ประเทศมีมวยคงไม่ได้มองเรื่องความขัดแย้งเพราะแต่ละประเทศล้วนมีเรื่องศิลปะการป้องกันตัว การต่อสู้ และมวยในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันอนุรักษ์ สืบสาน และหากเป็นการประยุกต์ตามสมัย ขอให้มีความเหมาะสม"นายอิทธิพล กล่าว
Cho Hae Sang ครูมวยจากสมาคมกีฬามวยไทยพระเจ้าเสือ ที่ประเทศเกาหลี เล่าว่ามวยไทยได้รับความสนใจ และเป็นกีฬายอดนิยมของคนเกาหลี ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาอยากเรียนมวยไทย เพราะถือเป็นการออกกำลังกายได้ทุกส่วนของร่างกาย และมวยไทยมีอัตลักษณ์ มีประวัติความเป็นมา ยิ่งเมื่อได้มาเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาคมกีฬามวยไทยพระเจ้าเสือ และสมาคมครูมวยไทย รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่มีการส่งเสริมมวยไทย ทำให้ได้เครือข่าย และได้การเรียนรู้เกี่ยวกับมวยไทยมากขึ้น
"เรียนมวยไทยมา ปีนี้เป็นปีที่ 12 ซึ่งเริ่มเล่นจากความชื่นชอบ เห็นนักมวยแล้วรู้สึกว่าถ้าเราได้ไปเรียน ไปเล่นคงสนุกมาก และเมื่อได้มาเล่นมาเรียนรู้จริงๆ มวยไทยเป็นกีฬาที่มีเรื่องราว มีมากกว่าเรื่องการเตะต่อย แต่เป็นการใช้ทุกส่วนของร่างกาย ใช้หมัด เท้า เข่า ศอก และมีการร่ายรำไหว้ครูมวยไทย มีพิธีการมากมายให้ได้เรียนรู้ ซึ่งเป็นศิลปะป้องกันตัว และวัฒนธรรมของไทยที่น่าสืบสาน น่าอนุรักษ์ให้คงอยู่" Cho Hae Sang กล่าว
เช่นเดียวกับ Lee Jaei ลูกศิษย์มวยไทยจากประเทศเกาหลี เล่าว่าชื่นชอบมวยไทย และได้เรียนมวยไทยมา 2 ปีแล้ว โดยเรียนที่ประเทศเกาหลี ซึ่งวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้เข้าร่วมพิธีการต่างๆ ซึ่งเสน่ห์ที่ทำให้เรียนเล่นมวยไทย เพราะทำให้ร่างกายมีความแข็งแรง มีสมาธิ เป็นการพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ และเมื่อได้เรียนเล่นมวยไปเรื่อยๆ ยิ่งเป็นกีฬาที่สนุก อยากให้มีการจัดกิจกรรมและอนุรักษ์มวยไทยต่อไปเรื่อยๆ
ขณะที่ น.ส.คัมภีรพรรณ เทียมทัศ นักเรียนโรงเรียนศรีเมืองวิทยาคาร จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า เริ่มเรียนมวยไทยตอนอยู่ประถมศึกษาปีที่ 6 และตอนนี้กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยปีที่ 1 ซึ่งเรียนมานานมาก เพราะเราชอบยิ่งเรียนยิ่งสนุก และขณะเดียวกัน ครูมวยที่สอนก็ได้ชวนไปแข่งขันในเวทีคีตะมวยไทยต่างๆ ทำให้เราได้ร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ น้องๆ และชื่นชอบมวยไทยมากขึ้น
"มวยไทยมีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งไม่ใช่เพียงความแข็งแกร่งทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นการฝึกฝนจิตใจ ให้มีสมาธิ และเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัว ยิ่งทุกวันนี้ภัยสังคมที่เกิดขึ้นมีมากมาย การป้องกันตนเอง ดูแลตัวเองได้เป็นสิ่งที่ดี และการได้เรียนมวย ทำให้เราเตะต่อย รู้จักการใช้ร่างกายในการดูแลตัวเอง อยากให้มีการสอนมวยไทยในทุกโรงเรียน" น.ส.คัมภีรพรรณ กล่าว
'มวยไทย' ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องการใช้ร่างกาย แต่มีเรื่องของคีตะมวยไทย นาฎมวยไทย การออกกำลังกายโดยการนำท่าทางต่าง ๆ ของ 'ศิลปะมวยไทย' มารวมกับการเต้นแอโรบิก เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้ร่วมเรียนรู้ สืบสานมวยไทยต่อไป