ป.ป.ช. บุกสุ่มตรวจ 'อาหารกลางวัน' พบเนื้อสัตว์น้อยมาก
ป.ป.ช. ตรัง บุกสุ่มตรวจ โครงการ "อาหารกลางวัน" ในโรงเรียน หลังได้รับการร้องเรียน ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรมาให้หัวละ 22 บาท พบว่ามีเนื้อหมูที่น้อยมาก ทำให้นักเรียนบางรายไม่ได้กินแม้แต่ชิ้นเดียว กำชับคณะครูตรวจสอบคุณภาพอาหารอย่างเคร่งครัดก่อนเซ็นรับ
วันนี้ 15 มิ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนบ้านคลองคุ้ย หมู่ 5 ถนนห้วยยอด-บ้านโพธิ์ บ้านต้นไทร ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2 นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง มอบหมายให้ นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ป.ป.ช.ตรัง และคณะเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ ประธานชมรมตรังต้านโกง และสื่อมวลชน ลงพื้นที่สุ่มตรวจโครงการอาหารกลางวัน ภายหลังจากมีเบาะแสได้รับการร้องเรียนถึงคุณภาพของอาหารที่จัดทำให้กับนักเรียนไม่เพียงพอ
เมื่อไปถึงได้มีการสอบถามข้อมูล ทราบว่า โรงเรียนเป็นโรงเรียนขยายโอกาส ขนาดกลาง เปิดสอนระดับชั้น อนุบาล 2 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียนทั้งหมดจำนวน 250 คน โดยที่ทางรัฐบาลได้มีการจัดสรรงบประมาณค่าอาหารกลางวันรายหัวให้เพียงแค่นักเรียนระดับชั้น อนุบาล 1 ถึง ป.6 จำนวน 208 คน แบ่งเป็นหัวละ 22 บาท ซึ่งรวมแล้วเป็นเงินจำนวน 4,576 บาทต่อวันเปิดเรียน
โดยงบดังกล่าวได้เบิกจ่ายผ่านทาง อบต.ปากแจ่ม ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดทำอาหารกลางวันในรูปแบบจ้างเหมาพ่อครัวประกอบอาหารปรุงสำเร็จ ส่วนทางนักเรียนระดับชั้น ม.1 ถึง ม.3 อีกจำนวน 42 คน จะมีการนำอาหารจากบ้านมารับประทาน หรือเป็นการ ซื้อข้าวเหนียวไก่ทอด ลูกชิ้น ฯลฯ ที่มีจำหน่ายในสหกรณ์ของโรงเรียนเป็นอาหารกลางวัน ส่วนนักเรียนที่นับถือศาสนาอิสลามมีเพียงแค่ 2 คน หากวันไหนมีเมนูที่เกี่ยวกับเนื้อหมู ก็จะนำอาหารมาจากบ้าน
จากการตรวจสอบกลับพบว่า ทางผู้รับเหมาหรือคู่สัญญาที่รับจ้างทำอาหาร กลับมาดำเนินการทำประกอบอาหารภายในห้องครัวของโรงเรียน ซึ่งเป็นการใช้น้ำและไฟของโรงเรียน โดยที่ไม่ได้ปรุงหรือทำมาจากข้างนอก แต่ทางโรงเรียนให้ข้อมูลว่าได้มีการรับเป็นเงินบริจาคจากคู่สัญญาจ่ายให้กับทางโรงเรียนวันละ 300 บาทเป็นค่าน้ำและค่าไฟฟ้า
โดยในวันนี้เมนูอาหารกลางวันที่มีการเขียนไว้บนบอร์ด ระบุว่า 1.ผัดซีอิ้วเส้นใหญ่ ใสผัก และเนื้อหมู , 2.น้ำซุปฟักเขียว ใส่ไก่สับ , 3.กล้วยหอม (ครึ่งผล) แต่ผลปรากฏว่าไม่ได้มีกล้วยหอม แต่ได้เปลี่ยนเป็นฝรั่ง โดยที่ครูให้ข้อมูลว่าในตลาดไม่มีกล้วยหอม ซึ่งได้ทำการเปลี่ยนในตัวของเอกสารแล้ว
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบในถาดหลุมของนักเรียนรายคน พบว่านักเรียนได้รับเนื้อสัตว์ คือหมูที่ใส่ในผัดซีอิ้วน้อยมาก บางรายได้เพียงแค่ 1-3 ชิ้น บางรายไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว เช่นเดียวกับไก่สับในน้ำซุป แต่ทางคณะครูสามารถให้นักเรียนไปเติมได้จนกว่าจะอิ่ม ซึ่งมองแล้วว่านักเรียนไม่ได้รับอาหารในเชิงคุณภาพ เนื่องจากมีการปรุงอาหารใส่เนื้อสัตว์มาในจำนวนน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการนักเรียน
น.ส.อรุณศรี เที่ยงธรรม ผอ.โรงเรียนฯ กล่าวว่า ได้ดำเนินการแบบจ้างเหมา โดยมีคุณครูที่รับผิดชอบในส่วนอาหารกลางวัน และมีคุณครูเวรคอยตรวจสอบคุณภาพอาหารกลางวันในแต่ละวัน ซึ่งคุณครูเหล่านี้จะมีการคิดเมนู โดยเมนูเหล่านี้จะหมุนเวียนไปเรื่อยๆในการจัดให้เด็กได้รับประทาน โดยที่โรงเรียนจะจัดอาหารกลางวันในทุกๆวันจะต้องมีผัก และอีก 4 วันจะเป็นผลไม้ อีก 1 วันก็จะเป็นของหวาน ซึ่งจะใช้โปรแกรมไทยสคูลลั้น (Thai School Lunch) ในการคิดคำนวณปริมาณอาหาร ซึ่งงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรมาเพียงพอในการจัดอาหารให้กับเด็กนักเรียน
นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ป.ป.ช.ตรัง กล่าวว่า จากการลงตรวจสอบสังเกตเบื้องต้นพบว่านักเรียนบางคนได้รับอาหารในปริมาณที่ไม่ค่อยคุ้มค่ากับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร เนื่องจากเมนูผัดซีอิ้ว จะต้องมีเนื้อสัตว์ด้วย แต่บางคนก็มีเพียงแค่เนื้อสัตว์ชิ้นเดียว หรือบางคนก็ไม่ได้เนื้อสัตว์เลยสักชิ้น ก็ต้องกำชับให้คณะครูช่วยให้นักเรียนได้รับสารอาหารให้คุ้มค่ากับงบประมาณที่ได้รับจัดสรร เนื่องจากพ่อครัวหรือคู่สัญญาอาจจะตัดไม่เป็นไปตามปริมาณที่สมควรได้รับ และได้กำชับครูในส่วนการตรวจรับอาหารว่าปริมาณและคุณภาพของอาหารต้องเป็นไปตามสัญญาและให้เพียงพอกับเด็กนักเรียน ซึ่งเด็กเล็กๆจะต้องได้กินในเชิงคุณภาพ เด็กใหญ่ก็จะต้องได้กินในเชิงปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตามทาง ป.ป.ช.ตรัง ได้สุ่มตรวจตามนโยบายอย่างเคร่งครัดมาตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่ได้ครอบคลุมทั้ง 10 อำเภอของ จ.ตรัง โดยได้มีการเน้นย้ำและเป็นการป้องกันการทุจริต โดยมุ่งเน้นไปในส่วนของการป้องปราม มีการชี้แนะ ตักเตือน ไปถึงโรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้รับอาหารที่มีคุณค่า ทั้งนี้ในบางโรงเรียนที่เคยมีการสุ่มตรวจและพบปัญหาหรือมูลความผิดที่ส่อถึงการทุจริต ก็ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานนำเรื่องเข้าสู่ขบวนการของการไต่สวนของ ป.ป.ช.แล้วด้วยเช่นเดียวกัน.