กรมอุตุฯ ชี้ช่วง 1-3 วันนี้ อากาศแปรปรวน แนวโน้มฝนลดลง แต่ยังมีฝนตกกระจาย
พยากรณ์อากาศช่วง 1-3 วันนี้ (5 -7 ก.ค.66) อากาศยังแปรปรวน แนวโน้มฝนลดลง แต่ยังมีกระจายอยู่บ้างทางภาคเหนือ-อีสาน ส่วนภาคเหนือตอนล่าง - อีสานด้านตะวันตก - กลาง(รวมกทม.และปริมณฑล) - ตะวันออก และใต้ มีฝนบางจุดบางพื้นที่
"กรมอุตุนิยมวิทยา" วิเคราะห์สาเหตุของฝนน้อยลงในช่วง 1-3 วันนี้ (5 -7 ก.ค.66) วิเคราะห์จากแบบจำลองพยากรณ์ฝนของ ECMWF init.2023070500: ระบุ พยากรณ์อากาศ วันนี้ 5 - 7 ก.ค.66 อากาศยังแปรปรวน แนวโน้มพื้นที่ฝนลดลง แต่ยังมีกระจายอยู่บ้างทางภาคเหนือและอีสานตอนบน ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานด้านตะวันตก ภาคกลาง(รวมกทม.และปริมณฑล) ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนบางจุดบางพื้นที่
ปัจจัยหลักที่ทำให้มีฝนน้อยลงช่วงนี้ มาจากมรสุมที่อ่อนกำลังลงบ้าง ประกอบความกดอากาศสูง(มวลอากาศเย็นจากทางด้านมหาสมุทรแปซิฟิกแผ่ซึมเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ทิศทางลมในระดับบนๆเปลี่ยนทิศทาง ส่วนทางภาคใต้ยังมีมวลอากาศเย็นจากซีกโลกใต้แผ่เสริมขึ้นมาปกคลุมภาคใต้ตอนล่างอีก
สถานการณ์ฝนในขณะนี้มีหลายพื้นที่ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานด้านตะวันตก ภาคกลาง เริ่มมีฝนทิ้งช่วงบ้างแล้วบางพื้นที่ หรือบางพื้นที่ฝนยังไม่ขาดช่วงแต่ฝนที่ตกยังมีปริมาณน้อย ตกไม่สม่ำเสมอ ไม่เพียงพอต่อความต้องการทั้งอุปโภค บริโภคและด้านการเกษตร จึงยังต้องใช้น้ำอย่างแระหยัดและบริหารน้ำอย่างรัดกุม
ยังพอจะมีข่าวดีอยู่บ้าง หลังวันที่ 17 ก.ค. 66 มีแนวโน้มว่าจะมีฝนเพิ่มขึ้น จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำที่จะเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ชายฝั่งเวียดนาม ส่งผลให้มีฝนเพิ่มขึ้นในภาคอีสาน แต่อาจจะเฉพาะอีสานด้านตะวันออกหรือต้องติดตามกันต่อไป
นอกจากนี้ "กรมอุตุฯ" ยังได้เปรียบเทียบผลการพยากรณ์และตรวจวัดฝน 24 ชม.ที่ผ่านมา (4 ก.ค.66) ระบุ พื้นที่ฝนยังกระจายบริเวณภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล เป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง
ส่วนบริเวณภาคใต้มีฝนน้อยลง ฝนมากที่ วัดได้ 30.5 มม. อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ส่วน กทม. จากรายงานฝนของสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร มีฝนเล็กน้อยบางพื้นที่ มากที่สุด เขตคลองสาน วัดปริมาณฝนได้ 7.5 มม.
"กรมอุตุนิยมวิทยา" ยังให้รายละเอียด พยากรณ์อากาศ ถึงข้อควรระวัง ระหว่างวันที่ 5 - 11 กรกฎาคม 2566 ระบุว่า
ในช่วงวันที่ 5 - 11 ก.ค. 66 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยตอนบน และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง
ในขณะที่ในช่วงวันที่ 8 – 10 ก.ค. 66 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 5 - 7 ก.ค. 66 สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร โดยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.ค. 66 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร โดยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตร
- ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 8 – 10 ก.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 5 - 11 กรกฎาคม 2566
- ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 6 – 7 ก.ค. 66 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.ค. 66 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ โดยในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.ค. 66 มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 6 – 7 ก.ค. 66 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.ค. 66 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 38 องศาเซลเซียส
- ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 6 – 7 ก.ค. 66 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.ค. 66 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 37 องศาเซลเซียส
- ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 5 – 7 ก.ค. 66 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.ค. 66 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 - 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 24 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส
- ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในวันที่ 5 - 7 ก.ค. 66 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส
- ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในวันที่ 5 - 7 ก.ค. 66 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่ จ.ระนอง ขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่ จ.พังงา ลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 11 ก.ค. 66 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 33 องศาเซลเซียส
- กรุงเทพและปริมณฑล
ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 8 - 10 ก.ค. 66 มีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 26 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 37 องศาเซลเซียส