เหล่าทาสต้องรู้!!! 'น้องหมาน้องแมว' เป็นเกย์ได้หรือไม่?

เหล่าทาสต้องรู้!!! 'น้องหมาน้องแมว' เป็นเกย์ได้หรือไม่?

เชื่อว่าเป็นคำถามที่เหล่าทาส หรือเจ้าของมีความสงสัยอยู่ไม่น้อย นั่นคือ 'น้องหมาน้องแมว' สัตว์เลี้ยงของเราเป็นเกย์ได้หรือไม่?เพราะบางครั้ง เราก็เห็นพฤติกรรมของน้องหมา น้องแมวเราขึ้นคร่อมน้องหมาน้องแมวเพศเดียวกัน

Keypoint:

  • การขึ้นคร่อมของน้องหมาน้องแมวในเพศเดียวกัน ไม่ได้แสดงว่าน้องหมาน้องแมวเหล่านั้น เป็นเกย์ เพราะการขึ้นคร่อมของเหล่าสัตว์เลี้ยงสามารถสื่อความหมายได้หลากหลาย
  • พฤติกรรมของสัตว์กับคนไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ ในสัตว์การที่ขึ้นคร่อมเพศเดียวกัน บ่งบอกถึงการแสดงอำนาจ เรียกร้องความสนใจ เครียด รู้สึกตื่นเต้นสุดขีด ซึ่งเหล่าทาสต้องเข้าใจ
  • น้องหมาน้องแมว มีช่วงเจริญพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป น้องหมามี 4 ระยะ น้องแมวมี 5 ระยะ ก่อนจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ควรทำความเข้าใจพฤติกรรมของเหล่าเจ้านาย

พฤติกรรมน้องหมา น้องแมวของเรา ที่ขึ้นคร่อมน้องหมาน้องแมวเพศเดียวกัน ต่างเพศ หรือแม้แต่ขึ้นคร่อมตุ๊กตา ขาคน โซฟา เฟอร์นิเจอร์ในบ้างต่างๆ ทำให้ทาสทั้งหลาย เกิดคำถามว่าพวกเขาจะสามารถเป็นเกย์ได้หรือไม่?

วันนี้ 'กรุงเทพธุรกิจ' ได้ไปค้นหาคำถามเกี่ยวกับ 'ความเป็นเกย์ หรือ Homosexual’ ในอาณาจักรของสัตว์ ซึ่งสิ่งแรกที่อยากให้ทุกคนเข้าใจก่อน คือ

"ความเป็นเกย์ หรือ Homosexual’ในอาณาจักรของสัตว์นั้น อย่าเปรียบเทียบกับพฤติกรรมทางเพศของมนุษย์"

เพราะการเป็นเกย์ในคนเรา  คือการที่เราชอบคนเพศเดียวกัน แต่ความชอบของมนุษย์ก็สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตามแต่รสนิยม ความชอบของแต่ละคน และมีความหลากหลายมาก

เหล่าทาสต้องรู้!!! \'น้องหมาน้องแมว\' เป็นเกย์ได้หรือไม่?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เปิดเทรนด์คนรักสัตว์เลี้ยง ทำไม?..ทาสแมวมาแรง! จ่อแซงน้องหมา

รู้จัก “Vet Service” แพลตฟอร์ม AI ที่ทำให้หมาแมวแข็งแรงจาก “Royal Canin”

Axotic Cafe & Farm เปิดฟาร์มน้องหมา “โกลเด้นดูเดิ้ล” ใหญ่ที่สุดในไทย

 

น้องหมาน้องแมวเป็นเกย์ไม่ได้จริงหรือ?

รศ.สพ.ญ.ดร.เกษกนก ศิรินฤมิตร อว.สพ.สาขาเวชศาสตร์ระบบสืบพันธุ์ ภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกสัตว์เลี้ยง คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ความเป็นเกย์ในน้องหมาไม่มียกเว้นว่าในหมาเองเกิดมามีความผิดปกติบริเวณของรังไข่ เรื่องของอัณฑะ เรื่องของอวัยวะสืบพันธุ์ เป็นกะเทยจริงๆ แต่ถ้าเป็นนิสัยของเขาที่ชอบ เรื่องนี้คงไม่ใช่ 

เช่น ถ้าพาตัวผู้ตัวนึงไปบ้าน แล้วนั้นมีตัวเมีย และตัวผู้ แต่ปรากฏว่าเขาไปทำตัวผู้ แสดงว่าตอนนี้เขากำลังข่ม สื่อว่า เขาเป็นใหญ่  ดังนั้น ถ้าต้องการให้เขาผสมพันธุ์กับตัวเมีย ต้องกันตัวผู้ออกไปก่อน และในตัวเมียเวลาช่วงที่เขาเป็นสัตว์ เขาจะมีเลือดออก มีกลิ่น ต้องพาไปช่วงนั้น แต่ถ้าตัวเมียเขาไม่ได้เป็นสัตว์ พาตัวผู้ไป เขาจะตีกัน เพราะตัวเมียจะไม่ยอม  ซึ่งเขาเรียกว่า โดมิเนนท์ฟีเมล คือ ตัวเมียที่ชอบข่มตัวผู้  อันนี้ต้องระวัง

"สุนัข เวลาที่เขามีความตื่นเต้น แล้วอยากทำอะไรจนถึงขีดสุด เราจะห้ามไม่อยู่  แต่ถ้าเรารู้ว่าเขาจะเริ่ม เราต้องห้ามก่อน เพราะทุกๆพฤติกรรมของสัตว์ ต้องห้ามตั้งแต่เริ่มต้อนก่อนที่เขาจะถึงจุดพีคของเขา ส่วนใหญ่น้องหมาเหล่านี้จะเป็นหมาเลี้ยง มีความใกล้ชิดกับเจ้าของ  และเขาจะติดคน  จริงๆ กรณีที่ติดคนในที่นี้ คือ เราเป็นลูกน้องเขานะ  เขาเป็นเจ้านายเรา ฉะนั้น สรุปได้ว่า น้องหมาเป็นเกย์ไม่ได้"

เหล่าทาสต้องรู้!!! \'น้องหมาน้องแมว\' เป็นเกย์ได้หรือไม่?

 

เหตุใด? น้องหมาน้องแมวขึ้นคร่อมเพศเดียวกัน

ส่วนคนสนใจว่าเหล่าสัตว์เลี้ยงที่ชอบขึ้นคร่อมร่างเพื่อนเพศเดียวกันตัวอื่น ๆ จะหมายถึงการเป็นเกย์หรือเปล่านั้น ที่จริงแล้วเป็นเพราะความเข้าใจผิดว่าพฤติกรรม ‘ขึ้นคร่อม’ ของน้อง ๆ ซึ่งหมายถึงความต้องการอยากผสมพันธุ์หรือติดสัดอย่างเดียวเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้วมันยังหมายถึงสิ่งอื่นได้ด้วย

ยกตัวอย่างพฤติกรรมเช่น น้องหมา ทั้งเพศผู้และเพศเมีย อาจจะพยายามคร่อมเพื่อนเพศเดียวกันเพราะอยากเล่นด้วย ปลดปล่อยความเครียด หรือแสดงอำนาจ มากกว่าความต้องการทางเพศเสียอีก โดยนอกจากคร่อมของน้องหมาที่เป็นเพศเดียวกันแล้ว น้องหมายังอาจจะขึ้นคร่อมอย่างอื่น เช่น เฟอร์นิเจอร์ หรือขาของมนุษย์ได้เช่นเดียวกัน

ในส่วนของแมวตัวผู้เอง แม้บางตัวจะทำหมันแล้ว พฤติกรรมการขึ้นคร่อมทั้งเจ้ามนุษย์และแมวตัวอื่น ๆ ในบ้าน ก็เป็นเหมือนการแสดงออกถึงอำนาจในบ้านนั่นเอง นอกจากนี้การเลียขนให้กัน หรือนอนด้วยกันของน้องแมวก็เป็นพฤติกรรมที่ปกติเช่นเดียวกัน

ขึ้นคร่อมของอาณาจักรสัตว์ สื่อความหมายได้เพียบ

พฤติกรรมขึ้นคร่อมยังเป็นการแสดงออกทางความรู้สึกและการสื่อสารทางสังคมของน้องหมาน้องแมว อีกด้วย ซึ่งสามารถเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อวินิจฉัยปัญหาน้องหมาน้องแมวในระดับต่อๆไป  ฉะนั้น มาดูกันว่า‘การขึ้นคร่อมของน้องหมาน้องแมว’ เป็นการสื่อสารอะไรได้บ้าง?

  • ต้องการแสดงว่ามีอำนาจเหนือกว่า

 หลายคนคงสงสัยว่าทำไมน้องหมาน้องแมวถึงมีพฤติกรรมขึ้นคร่อมตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ว่าจะตัวผู้คร่อมตัวเมีย ตัวเมียคร่อมตัวผู้ หรือเพศเดียวกันคร่อมกันเอง พาลให้วิตกกังวลว่าน้องหมาน้องแมวเราเป็นเกย์ หรือเป็นเลสเบี้ยน ซึ่งความจริงก็คือ การขึ้นคร่อมของน้องหมาน้องแมว นอกจากจะเป็นการแสดงว่ากำลังอยู่ในช่วงติดสัด ต้องการผสมพันธุ์แล้ว ยังเป็นการแสวงหาสถานะของตนเองในฝูง ทดสอบดูว่าใครคือผู้ที่อยู่เหนือกว่า หรือใครคือผู้ที่อยู่ต่ำกว่า โดยที่ไม่มีปัจจัยด้านอายุหรือเพศมาเกี่ยวข้อง

  • ต้องการระบายความเครียด

ทุกครั้งที่น้องหมาน้องแมวรู้สึกไม่ปลอดภัย ถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว หรือไม่รู้จะปรับตัวเข้าสังคมอย่างไรไม่ว่าจะกับคน หรือกับน้องหมาน้องแมวตัวอื่นๆ เขาจะรู้สึกเครียดและกระวนกระวายใจ และเนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับความเครียด หรือต้องปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นอย่างไร จึงระบายความเครียดด้วยการขึ้นคร่อมสิ่งของ หรือตุ๊กตาที่บ้านได้

เมื่อผู้เลี้ยงเห็นว่าน้องหมาน้องแมวมีพฤติกรรมดังกล่าว ก็ไม่ควรที่จะวิตกกังวลจนเกินไปว่า น้องหมาน้องแมวของเรานิสัยไม่ดี แต่ควรมองหาต้นตอของปัญหาเพื่อจัดการความเครียดให้น้องหมาน้องแมว เพราะการที่พวกเขาระบายความเครียดด้วยการขึ้นคร่อมเป็นการบอกว่าน้องหมาน้องแมวของเรามีความเครียดสะสมอยู่มหาศาลเลยทีเดียว

ส่วนในกรณีของการเข้าสังคม น้องหมาน้องแมวที่ไม่ได้รับการฝึกเข้าสังคมมาก่อนมักจะมีปัญหากับการเรียนรู้มารยาททางสังคม ตื่นเต้น ไม่รู้ต้องทำตัวอย่างไร เมื่อเจอเพื่อนใหม่ๆ อาจจะแสดงพฤติกรรมขึ้นคร่อมเพื่อกระตุ้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์กับน้องหมาน้องแมวตัวอื่นในลักษณะการเล่น หรือการหยอกกัน ไม่ควรต่อว่าหรือทำโทษเขาอย่างรุนแรง เพราะจะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้น้องหมาน้องแมวทำพฤติกรรมนั้นมากขึ้นไปอีก

ทั้งนี้หากพบว่าเมื่อพาน้องหมาน้องเมวเข้าสังคมแล้วน้องหมาน้องแมวมีพฤติกรรมขึ้นคร่อมน้องหมาน้องแมวตัวอื่น ให้ผู้เลี้ยงเตือนโดยการกระตุกสายจูงออกคำสั่งให้เขานั่งหรือนิ่งเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ถ้าเขาสามารถสงบสติได้ จึงค่อยปล่อยให้น้องหมาน้องแมวเล่นหรือทำความรู้จักกันต่อ

เหล่าทาสต้องรู้!!! \'น้องหมาน้องแมว\' เป็นเกย์ได้หรือไม่?

  • ต้องการแสดงความรู้สึกว่าตื่นเต้น ดีใจสุดขีด

ความรู้สึกดีใจมากๆ หรือตื่นเต้นสุดๆ ก็ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้น้องหมาน้องแมวมีพฤติกรรมดังกล่าว เพราะพวกเขาดีใจมากเสียจนควบคุมตัวเองไม่ได้นั่นเอง อย่างเช่นเวลาเรากลับมาบ้าน หลังจากที่หายไปตลอดทั้งวัน ปล่อยให้น้องหมาต้องอยู่ตัวเดียว เมื่อเรากลับมา เขาก็จะกระดิกหางวิ่งเข้าเกาะขาด้วยความดีใจ ยิ่งเราเรียกชื่อน้องหมาด้วยเสียงสูงเป็นการทักทาย ก็จะยิ่งเร่งปฏิกริยาความตื่นเต้นดีใจของเขาให้เพิ่มมากขึ้นจนถึงขีดสุด จนเข้าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จึงแสดงออกด้วยพฤติกรรมขึ้นคร่อมเพื่อแสดงออกทางความรู้สึกและยังเป็นการช่วยปลดปล่อย ระบายความตื่นเต้น ณ ช่วงขณะนั้น

  • ต้องการเรียกร้องความสนใจ

บางครั้งน้องหมาน้องแมวขึ้นคร่อมน้องหมาน้องแมวตัวอื่น หรือขึ้นคร่อมของเล่นโชว์เจ้าของ ก็เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของแม้การเรียกร้องนั้นจะให้ผลในทางลบไม่ว่าจะถูกดุ หรือทำโทษก็ตาม ดังนั้นวิธีการจัดการกับน้องหมาน้องแมวเรียกร้องความสนใจด้วยพฤติกรรมขึ้นคร่อมก็คือ เมื่อมีแขกมาบ้านแล้วน้องหมาน้องแมวแสดงพฤติกรรมขึ้นคร่อมกับแขกที่บ้านของเรา ให้เราบอกแขกที่เข้ามาในบ้านว่าให้อยู่นิ่งๆ หรือเดินหนีไม่ควรส่งเสียงดังด้วยความตกใจหรือแปลกใจ จากนั้นให้เราใช้คำสั่งเสียง สั่งให้น้องหมากลับไปเข้าที่ของตัวเอง หรืออีกฟากหนึ่งของห้องเงียบๆ แล้วค่อยบอกให้นั่งลง อยู่นิ่งๆ

  • ต้องการฝึกซ้อมการผสมพันธุ์ และเล่นกัน

เริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์น้องหมาจะเริ่มมีการฝึกซ้อมการผสมพันธุ์โดยมีลักษณะเป็นการเล่นรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วถือเป็นเรื่องปกติและเป็นสิ่งสำคัญของสัตว์ที่จะมีการฝึกซ้อมพฤติกรรมหรือทักษะต่างๆ เช่นเดียวกับการฝึกซ้อมพฤติกรรมการไล่ล่าสัตว์ การกัด การวิ่งไล่ เพื่อจะช่วยให้น้องหมาได้เรียนรู้การควบคุมแรง หรือน้ำหนักของการเล่นกัน การอยู่ในสังคมร่วมกับสัตว์ตัวอื่นๆ ที่ไม่ใช่เหยื่อ เป็นต้น

  • น้องหมาน้องแมวหนุ่มสาวกำลังเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์

น้องหมาน้องแมวที่เป็นวัยรุ่น เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ทั้งน้องหมาเพศผู้และเพศเมียจะมีฮอร์โมนเพศเพิ่มมากขึ้น ระดับฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลทำให้เกิดพฤติกรรมขึ้นคร่อมได้ เพราะฮอร์โมนจะส่งผลให้เกิดการตอบรับทางความรู้สึก แรงกระตุ้น และการตอบสนองของอารมณ์ที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามในบางครั้งฮอร์โมนเพศอาจเกิดจากผลข้างเคียงจากการให้ยาเราควรถามสัตวแพทย์ด้วยว่ายาที่ได้ให้นั้นมีผลต่อฮอร์โมนทางเพศหรือไม่?

เหล่าทาสต้องรู้!!! \'น้องหมาน้องแมว\' เป็นเกย์ได้หรือไม่?

ช่วงเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ของน้องหมาน้องแมว

น้องหมาเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์โดยปกติอยู่ในช่วง 7-12 เดือน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมนที่ผลิตจากต่อมไร้ท่อต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของอวัยวะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์และพฤติกรรมการเป็นสัดโดยวงรอบการเป็นสัด ในสุนัขเป็นสัดเฉลี่ยปีละ2ครั้ง (ประมาณ 6 เดือน) การแสดงอาการเป็นสัดในสุนัขแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้

1.ระยะก่อนเป็นสัด (Proestrus) จะพบอวัยวะเพศบวมขยายใหญ่ มีสิ่งคัดหลั่งลักษณะเป็นเลือดสีแดงออกมาจากช่องคลอด (sanguinous vaginal discharge) ระยะนี้สุนัขตัวเมียจะมีกลิ่นดึงดูดความสนใจจากสุนัขเพศผู้ แต่จะยังไม่ยอมให้สุนัขเพศผู้ขึ้นผสม ระยะนี้เฉลี่ยประมาณ 9 วัน

2.ระยะเป็นสัด (Estrus) การผสมพันธุ์ในสุนัขจะเกิดในช่วงระยะเวลานี้สุนัขตัวเมียเริ่มสนใจและเบี่ยงก้นให้กับสุนัขตัวผู้ โดยมีอาการยืนนิ่งยอมรับการผสม (Standing heat) โดยอวัยวะเพศยังคงบวมอยู่ และปรากฏสิ่งคัดหลั่งเป็นเมือกใสๆ หรือสีแดงอ่อน ระยะนี้เป็นช่วงที่มีการตกไข่ โดยจะตกไข่ที่ 1-3 วันหลังยอมรับการผสม

3.ระยะหลังเป็นสัด (Diestrus) จะไม่พบอวัยวะเพศบวมหรือมีสิ่งคัดหลั่งใดๆเป็นช่วงที่สัตว์มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูง โดยฮอร์โมนตัวนี้มีหน้าที่รองรับการตั้งท้อง ซึ่งจะลดลงช่วงท้ายของระยะการตั้งท้อง โดยปกติการตั้งท้องสุนัขประมาณ 2 เดือน

4.ระยะไม่เป็นสัด (Anestrus) จะพบว่าอวัยวะเพศเล็กเหมือนปกติ ไม่สามารถดึงดูดหรือสนใจสุนัขตัวผู้แต่อย่างใด กล่าวได้ว่าเป็นระยะที่ระบบสืบพันธุ์กลับสู่ภาวะปกติไม่มีฮอร์โมนทางระบบสืบพันธุ์เข้ามาเกี่ยวข้องเลย โดยเฉลี่ยระยะนี้จะกินเวลาประมาณ 4-5 เดือน

  • พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ในแมว

ส่วนใหญ่แมวจะเริ่มเป็นสัดเมื่ออายุประมาณ 6 ถึง 10 เดือน การเป็นสัดของแมวขึ้นอยู่กับฤดูกาล (seasonally polyestrous) ซึ่งหมายถึงว่าระยะเวลาของแสงมีอิทธิพลต่อการเป็นสัดในแมว โดยวงจรการเป็นสัดในแมว แบ่งออกเป็น 5 ระยะ

1.Proestrus ระยะนี้แมวเริ่มเข้าสู่วงจรการเป็นสัด มีระยะเวลา 1-2วัน โดยมีอาการส่งเสียงร้องดังๆหรือที่เรียกกันว่า “หง่าว” รวมทั้งทำท่าย่อตัวส่วนหน้าและยกส่วนท้ายขึ้น เอาตัวไปกลิ้งกับพื้น แต่ระยะนี้จะยังไม่ยอมรับการผสมจากตัวผู้

2.Estrus ระยะเป็นสัดแท้จริง มีระยะเวลาประมาณ 6-7วัน มีอาการคล้ายกับระยะ proestrus แต่จะยอมรับการผสมพันธุ์ ยอมให้ตัวผู้งับหนังคอด้านบนและขึ้นผสม แมวแตกต่างกับสุนัขตรงที่ ไข่จะตกเมื่อเกิดการกระตุ้นหรือการผสมพันธุ์โดยเฉพาะหากผสม 2-3 ครั้งขึ้นไป

3.Diestrus เป็นระยะที่ไข่ตกแล้วจะท้องหรือไม่ก็ได้ หากท้องระยะนี้จะใช้เวลาประมาณ 60วัน หากไม่ท้องจะใช้เวลาประมาณ 35-40วัน

4.Interestrus เป็นระยะที่ไข่ไม่ตก ระยะนี้ยาวนานประมาณ 3 ถึง 16 วัน จากนั้นแมวจะกลับเข้าสู่การเป็นสัดได้อีก 

5.Anestrus เป็นระยะพักตัวของระบบสืบพันธุ์ ระยะนี้ยาวนานประมาณ 5-10 วันไปจนกระทั่งหลายเดือน

การสังเกตพฤติกรรมของทั้งน้องหมาน้องแมวจะทำให้เจ้าของมีความเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือกับการจัดการพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ในกรณีที่สัตว์ยังไม่ได้ทำหมันและเจ้าของยังไม่พร้อมเลี้ยงดูลูกสัตว์ที่จะออกมา การป้องกันจึงควรขังไม่ให้ออกจากบ้านหรือไม่ให้ตัวผู้ขึ้นผสมได้

อ้างอิง : โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ,โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน  ,Doglike