เงินผู้สูงอายุ เดือนตุลาคม 2566 เข้าบัญชีวันไหน ได้กี่บาท เช็กเลย
เงินผู้สูงอายุ เดือนตุลาคม 2566 หรือ "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" เข้าบัญชีวันไหน พร้อมเช็กแต่ละช่วงอายุรับคนละเท่าไหร่ ? ใครบ้างมีสิทธิ
เงินผู้สูงอายุ เดือนตุลาคม 2566 หรือ "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" โอนเข้าบัญชีวันไหน หลังกระทรวงมหาดไทย ประกาศหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 12 สิงหาคม 2566 เป็นต้นมาแล้วนั้น
โดยทุกวันที่ 10 ของทุกเดือน ถ้าวันที่ 10 ของเดือนใดตรงกับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็จะเลื่อนเวลาจ่ายเงิน เป็นก่อนวันที่ 10 ของเดือนนั้น ๆ ดังนั้นอาจจะได้รับเงินไม่ตรงวันที่ 10 ในแต่ละเดือน โดยในปีนี้ภาครัฐจะโอนเงินเข้าบัญชีตามวันที่ ดังต่อไปนี้
ไทม์ไลน์การโอนเงินผู้สูงอายุ หรือ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- ตุลาคม 2566 : วันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566
- พฤศจิกายน 2566 : วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566
- ธันวาคม 2566 : วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ปัจจุบันการจ่าย เงินผู้สูงอายุ หรือ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แบบขั้นบันได ดังนี้
- อายุ 60-69 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 600 บาท
- อายุ 70 - 79 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 700 บาท
- อายุ 80 - 89 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท
- อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 1,000 บาท
ใครบ้างที่จะมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพ
ผู้มีสิทธิจะได้รับ เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
- มีสัญชาติไทย
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น
- เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด
หลักฐานที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิเงินผู้สูงอายุ
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
- ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ/ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ (สำหรับประสงค์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร)
หมายเหตุ : กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถมาลงทะเบียนด้วยตนเองได้ สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเบี้ยผู้สูงอายุแทนได้
สถานที่ลงทะเบียน
- สำนักงานเขต
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้สูงอายุมีภูมิลำเนาอยู่
การสิ้นสุดการได้รับเงินผู้สูงอายุ
- ถึงแก่กรรม
- ขาดคุณสมบัติ
- แจ้งสละสิทธิการขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นหนังสือต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ตนมีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
กรณีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุดังกล่าว สิ้นสุดลงให้ผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนสั่งระงับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สำหรับบุคคลดังกล่าว
ที่มา กรมกิจการผู้สูงอายุ