เสียงจากประชาชน! ชาวโคราช รอเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ช่วยแบ่งเบาภาระ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ไฟเขียวให้คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) 10,000 บาท ดำเนินการกู้เงินตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อทำโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทได้ 

โดยเชื่อมั่นว่า การเดินหน้าโครงการจะเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดให้สามารถใช้จ่ายได้ ในเดือนพฤษภาคม 2567 นั้น วันนี้ (9 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามความคิดเป็นประชาชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เกี่ยวกับโครงการดังกล่าว 

 

 

โดยนางลำยอง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี แม่ค้าขายหมูปิ้งรายหนึ่งในชุมชนพานิชเจริญ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า รอความหวังจากโครงการช่วยเหลือของรัฐบาล เพราะมีหนี้สินและภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีตั้งแต่โควิด-19 ระบาดมาแล้ว จากไม่เคยเป็นหนี้ต้องไปกู้ยืมเงินใคร แต่ตอนนี้แย่มากต้องไปกู้ยืมเงินมาใช้จ่าย 

ข้าวของสินค้าแต่ละอย่างก็แพง ถ้าได้เงิน 10,000 บาท มาช่วยก็จะแบ่งเบาภาระได้อย่างมาก แต่จะได้จริงรึเปล่าก็ยังไม่รู้ เพราะเห็นเลื่อนออกไปเรื่อย ถ้าได้จริงก็จะดีอย่างมาก แต่ถ้าไม่ได้ แล้วมาบอกว่าเลื่อนออกไปเรื่อยๆ แบบนี้ ก็เหมือนมาหลอกลวงประชาชนให้มีความหวัง จึงอยากให้รัฐบาลดันโครงการนี้ให้สำเร็จสักที 

 

ด้านนางเขียด (นามสมมติ) อายุ 60 ปี ชาวบ้านชุมชนหนองแก้ช้าง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา บอกว่า ได้ยินโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท มาตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งแล้ว แต่ไม่คาดหวังว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือก้อนนี้ เพราะได้ยินนายกฯ และรัฐบาลบอกว่า น่าจะวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา แต่ก็เงียบ แถมยังจะเลื่อนไปเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 อีก ก็มีความหวังแค่ 50 : 50 เท่านั้น

ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะทำได้จริงหรือเปล่า กลัวจะไม่ได้อย่างเดียว ถ้าได้มาก็จะช่วยทุนค่าใช้จ่าย แต่ถ้า 1 พฤษภาคมนี้ ยังไม่ได้เงิน ก็เหมือนโดนรัฐบาลหลอก จึงอยากฝากถึงรัฐบาลทำอะไรให้จริงจัง จริงใจหน่อย เร่งรัดทำให้ได้ จะแจกก็แจก จะไม่แจกก็ไม่ต้องแจก ไม่ต้องให้ประชาชนมีความหวัง รอคอยเงินหมื่นมาช่วยเหลือกันแบบนี้ 

ตอนแรกหวังจะได้เงินมาช่วยช่วงปีใหม่ ได้ใช้จ่ายเลี้ยงต้อนรับลูกหลานประชาชนที่กลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว แต่มาเลื่อนออกไปอีก ทำไมไม่เป็นช่วงสงกรานต์ ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว จะได้มีเงินไว้ใช้จ่ายได้มีความสุขกันบ้าง มาเลื่อนเป็นเดือนพฤษภาคม จะเอาเงินไปใช้จ่ายให้ทันได้อย่างไร 

 

นอกจากนี้ นายกอล์ฟ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี พ่อค้าขายไก่ปิ้งรายหนึ่งในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา บอกว่า ตั้งความหวังกับ โครงการดิจิทัล 10,000 บาท อย่างมาก เพราะจะนำเงินมาใช้จ่ายบรรเทาภาระต่างๆ ได้หลายอย่าง ถ้าได้เงินก้อนนี้มา ก็จะนำมาซื้อวัตถุดิบสำหรับค้าขาย และอุปกรณ์เครื่องทำมาหากิน เพราะเพิงที่เคยขายในแต่ละวัน เทศบาลนครฯ ก็ขอคืนพื้นที่ ต้องหารถเข็น และอุปกรณ์เข็นไปขายไก่ปิ้งในที่ต่างๆ เพื่อให้มีรายได้มาใช้จ่าย ถึงแม้จะมีข้อจำกัดการใช้เงินอยู่บ้าง ก็ดีกว่าไม่ได้เงินช่วยเหลือเลย รอความหวังจากรัฐบาลอยู่