"ผู้นำเปลี่ยน" องค์กรยั่งยืน เป้าหมายช่วยคนสไตล์ Learn Corporation

“DNA หรือ Passion พนักงาน LEARN Corporation คือ การช่วยเหลือคน ที่มีหลักการทำงานฉบับS.T.I (Student.Teamwork.Innovation) และชีวิตของพนักงานต้องมาก่อนกำไรขององค์กร”

ทั้งหมดข้างต้น คือเป้าหมายการสร้างคน พัฒนาพนักงานของ บริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ภายใต้การนำของ “สาธร อุพันวัน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เลิร์น คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือพี่เต๋อ ของน้องๆ LEARN Corporation

"LEARN Corporation" ก่อตั้งเมื่อปี 2549 ด้วยพันธะกิจต้องการลดความเหลื่อมล้ำด้านการเรียนรู้ และกระจายบทเรียนคุณภาพให้เข้าถึงคนทั่วประเทศ  จึงเกิด OnDemand สถาบันสอนพิเศษแห่งแรกที่นําคอมพิวเตอร์มาเป็นสื่อการเรียนการสอน ต่อมาปี 2560 LEARN Corporation ได้อดีต Data Scientist จากองค์กรเทคโนโลยีระดับโลกมาร่วมสร้างทีม Technology คิดค้นแพลตฟอร์มและนวัตกรรมการศึกษาที่ตอบโจทย์และครอบคลุมทุกช่วงวัย สร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตและเข้าถึงคนกว่า 2.5 ล้านคนทั่วประเทศ สร้าง Lifelong Learning EdTech Ecosystem หรือระบบนิเวศเพื่อเทคโนโลยีการเรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด ขับเคลื่อนโดยบุคลากร 900 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

"EdTech พันล้าน" ช่วยสร้างLifelong Learning ได้อย่างไร?

“Lifelong learning” เรียนรู้ตลอดชีวิต : ทักษะที่ต้องมี ในโลกที่หมุนเร็ว

ช่วยคน “DNA LEARN Corporation”

พี่เต๋อ เล่าว่า LEARN Corporation เติบโตขึ้นหลายเท่าตัวจากโรงเรียนกวดวิชาจนปัจจุบันมี Learn Anywhere แพลตฟอร์มการเรียนรู้ทางออนไลน์ที่ครอบคลุมการเรียนรู้เพื่อทุกช่วงวัย ซึ่งแนวทางในการบริหารคนขององค์กรนี้ ต้องเป็นคนที่อยากทำเรื่องการศึกษา เน้นการช่วยคน เพราะการศึกษามากกว่าห้องเรียน จะทำอย่างไรให้ชีวิตคนดีขึ้น ตั้งแต่การคัดเลือกคนก็จะมองหาคนที่มีเป้าหมาย Passion เดียวกับองค์กรเป็นพื้นฐาน คนส่วนใหญ่ที่พร้อมทำงานกับองค์กรจะเป็นกลุ่มคนอายุ 20-30 กว่าปี

“คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญและมี Passion ในการช่วยเหลือคนอย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับมิติการขับเคลื่อนธุรกิจในการช่วยสังคม พร้อมกับการดึงภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วม DNA ของพนักงาน คือ การช่วยคนด้วยหลักการทำงาน S.T.I หรือ Student การดูแลนักเรียน ,Teamwork การทำงานเป็นทีม และ Innovation การใช้นวัตกรรม ความสามารถ ความรู้ สมอง กำลังใจของคนในการทำงาน เพื่อทำให้งานและองค์กรเดินหน้าต่อไปได้” พี่เต๋อ กล่าว

เน้นศักยภาพ มากกว่าอายุ

ใน LEARN Corporation “พี่เต๋อ” ถือเป็นผู้บริหารที่มีเลข 4 นำหน้า จัดว่าอายุมากสุดในองค์กร เพราะหัวหน้างาน พนักงานส่วนใหญ่จะอายุ 20-30 กว่าปี   แต่ด้วยความที่องค์กรให้ความสำคัญกับเรื่องของศักยภาพ ความสามารถมากกว่าอายุ  ปัญหาเรื่องช่องว่างระหว่างวัยของคนทำงานจึงน้อย ที่สำคัญองค์กรให้ความสำคัญระหว่างคนเก่าและคนใหม่

ผู้บริหารจะเน้นรับฟังทุกคน เปิดกว้างในการแสดงความคิดเห็น เรื่องงาน ทุกคนจะเปิดใจ ยอมรับ และรุ่นพี่รุ่นน้องต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เมื่อมีปัญหารุ่นพี่ต้องรับฟังรุ่นน้อง LEARN Corporation พยายามทำเรื่องของ Feedback วัฒนธรรมองค์กรโดยขับเคลื่อนเรื่องนี้มาตลอด 5-6 ปี และจะมี Section 1-2 เดือนครั้งในการแลกเปลี่ยนระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง มีเครื่องมือในการช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย

“คนรุ่นใหม่พวกเขามีศักยภาพ และพร้อมทำงาน เพียงแต่องค์กรต้องรับฟัง พวกเขาไม่ได้ดื้อขนาดที่ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ เพียงแต่ต้องเข้าใจ และทำให้พวกเขารู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกับองค์กร ให้เขามีคุณค่าและพร้อมเดินไปด้วยกัน ผู้บริหาร หัวหน้างานก็ต้องเรียนรู้ เพราะมีหลายๆ สิ่งที่คนรุ่นใหม่อาจจะมีแต่หัวหน้างานหรือผู้บริหารไม่มี” พี่เต๋อ กล่าว

เคล็ดลับบริหารคนทุกช่วงวัย

พี่เต๋อ มองว่าการบริหารคนต้องเริ่มจากผู้บริหาร โดยจะเน้นให้ความสำคัญชีวิตของน้องๆ ก่อนบริษัท ผู้บริหารต้องมองว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตและเส้นทางของน้องๆ LEARN Corporation พยายามสร้างสรรออฟชั่นให้แก่น้องๆ  หลักการบริหารคนที่สำคัญ ต้องเป็นเรื่องของความหวังดี เมตตาต่อกันก่อน จะนำไปสู่การช่วยเหลือ โดยที่ไม่ได้มองว่าใครเด่นกว่าใคร แต่จะชื่นชมคนที่ทำงานดี ทำงานเก่ง คนเราไม่สามารถเก่งได้ทุกคน แต่ทุกคนมีความเก่งในแบบฉบับของตัวเอง

"ใครทำดีต้องชื่นชม ในทางกลับกันใครทำผิดพลาด อาจต้องมีการตำหนิ แต่ต้องเป็นการตำหนิที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวของน้องและองค์กร อาจจะไม่ได้เป็นผู้นำที่น้องรัก แต่ต้องเป็นผู้นำที่น้องพึ่งได้ เพราะถ้าเป็นผู้นำที่น้องรักก็จะไม่กล้าทำบางสิ่ง หรือกล้าตำหนิน้ององค์กรจะไม่ก้าวหน้า” พี่เต๋อ กล่าว

องค์กรแห่งความสุขและสนุก

LEARN Corporation มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ชัดเจน ทำให้ดึงคนเข้ามาทำงานสอดคล้องกับ DNA วัฒนธรรมองค์กร และทุกคนจะทำงานอย่างสนุกและมีความสุข ทำให้ในองค์กรมีพลังดีๆ ทุกคนมีโอกาสเติบโต และก้าวไปพร้อมกับองค์กร ธุรกิจการศึกษาได้รับผล

กระทบจากเด็กเกิดน้อยลง แต่ LEARN Corporation เป็นการศึกษาตลอดชีวิตที่ทุกคนต้องมี พยายามสร้างฐานให้น้องได้ต่อยอด มีความเข้าใจตัวธุรกิจ มีแหล่งข้อมูล มีการอบรม มีการแชร์ความรู้ ทักษะต่างๆ เพื่อให้น้องๆ มีศักยภาพมากขึ้น รูปแบบการทำงานจะมีความยืดหยุ่นเรื่องเวลาค่อนข้างมาก แต่ละทีมแต่ละฝ่ายจะเลือกรูปแบบการทำงานได้ ว่าจะเข้าออฟฟิศ หรือ จะทำงานที่ไหน ทำงานที่บ้าน เราพยายามดูแลเรื่องของความสมดุลชีวิต

“ปัจจุบันคนทำงานจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ออฟฟิศซินโดรมจำนวนมาก เรามีหมอนวด ซึ่งเป็นผู้พิการเข้ามานวดให้แก่น้องๆ ทุกคนในบริษัทอาทิตย์ละ 3 วัน มีการจัดกิจกรรม ส่งเสริมดูแลสุขภาพกาย ส่วนสุขภาพใจ มีความสำคัญอย่างมาก หลายคนเครียด มีความทุกข์จากการทำงานหรือชีวิตส่วนตัว จะมีนักจิตวิทยา และกิจกรรมมาสร้างความสนุกสนาน ทุกเทศกาลจะมีการจัดกิจกรรมให้พนักงานร่วมสนุก มีความสุข มีประกันสุขภาพ ประกันสังคม และการจัดงบไป Outing ของบริษัท รวมถึงมีการจัดคอร์ส โปรแกรมต่างๆ ให้ทุกคนได้เรียนรู้ และมีทุนให้แก่น้องๆ ได้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่พนักงานต้องการ” พี่เต๋อ กล่าว

ผู้นำจุดเริ่มต้นความอยู่รอดองค์กร

พี่เต๋อ กล่าวว่า ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทุกวัน มิติของทั้งผู้นำและทีม People หรือ HR ต้องปรับตัวอย่างมาก โดยเฉพาะเบอร์ 1 ขององค์กร ผู้นำต้องเข้าใจทั้งเรื่องของตัวเอง และมองหาแนวทางที่จะทำให้ทีม People เข้าใจธุรกิจ เข้าใจพนักงานทุกคน ว่าจะตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนและองค์กรอย่างไร

การสื่อสารในองค์กรเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก และต้องทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการสื่อสารต้องให้น้องเป็นคนพูด จัดทำข้อมูลใหม่ๆ ให้เวลากันในการทำความเข้าใจก่อน ให้เวลาทุกคนสื่อสาร ปรับแก้ และพร้อมเดินไปด้วยกัน โดยการทำงานกับคนรุ่นใหม่ พวกเขาชอบผู้นำที่ยอมรับความจริง ลดอัตตาตัวเอง ทุกคนพลาดได้ สร้างมิติการเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน

“สิ่งที่จะทำให้องค์กรอยู่รอดในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คือ ตัวของผู้บริหารที่ต้องปรับตัว เปิดกว้างยอมรับความคิดเห็นของทุกคน ดังนั้น คนที่เป็นเบอร์ 1 ในองค์กรต้องเป็นผู้เริ่ม ถ้าเราเริ่มและฟังรุ่นน้อง พนักงานมากขึ้น หัวหน้างานอื่นๆ จะทำตาม อยากให้องค์กรเป็นแบบไหนต้องเริ่มจากตัวผู้นำ และทีมที่ลงไปพูดคุย อยู่ใกล้ชิดพนักงาน รวมถึงต้องมีเครื่องมือในการเข้าถึงพนักงาน และมีเครื่องมือเราเขียนโปรแกรมเอง Feedback จากทุกคนเป็นอย่างไร ผู้บริหารต้องรับฟังเพื่อการเติบโตขององค์กร ต้องไม่ปิดกั้น มีความยืดหยุ่นในการทำงาน และทุกคนสามารถเข้าถึงผู้บริหารได้” พี่เต๋อ กล่าวทิ้งท้าย