อัปเดต เงินอุดหนุนบุตร เบี้ยผู้สูงอายุ พฤษภาคม 67 โอนวันไหน ลงทะเบียนรับเงิน
อัปเดตล่าสุด เดือนพฤษภาคม 2567 เงินอุดหนุนบุตร หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท และเบี้ยยังชีพ เบี้ยผู้สูงอายุ จ่าย 1,000 บาท เช็กโอนเงินไหน พร้อมขั้นตอนการลงทะเบียนรับเงินที่นี่
อัปเดตล่าสุด "เงินอุดหนุนบุตร" หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท และเบี้ยยังชีพ "เบี้ยผู้สูงอายุ" จ่าย 1,000 บาท เช็กโอนเงินไหน พร้อมขั้นตอนการลงทะเบียนรับเงินที่นี่
เดือนพฤษภาคม 2567 สำหรับ เงินอุดหนุนบุตร หรือเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 600 บาท กรมบัญชีกลาง จะได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิ ในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567 ซึ่งยึดหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และหากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ จะจ่ายเงินเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีล่วงหน้าก่อนวันหยุดนั้นเอง ซึ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิส่งเบิกทั้งหมด 2,309,350 ราย เป็นจำนวนเงิน 1,461,198,600 บาท
ตารางจ่ายเงิน "เงินอุดหนุนบุตร" ประจำปี 2567 มีดังนี้
- พฤษภาคม 2567 วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567
- มิถุนายน 2567 วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567
- กรกฎาคม 2567 วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567
- สิงหาคม 2567 วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2567
- กันยายน 2567 วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567
ผู้ปกครอง ตรวจสอบเลขที่บัญชีธนาคารของท่านที่ใช้รับ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เนื่องจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน จะทราบผลการจ่ายเงิน อีก 14 วันข้างหน้า หลังจากโอนเงินไปแล้ว
ตรวจสอบ "เงินอุดหนุนบุตร" ได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
เว็บไซต์ กรมกิจการเด็กและเยาวชน
แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"
แอปพลิเคชัน "เงินเด็ก"
ลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตร
สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่ได้ ลงทะเบียนขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และเด็กมีสัญชาติไทย พ่อ แม่ ผู้ปกครองสามารถยื่นคำร้องในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง (ไม่จำเป็นต้องเป็นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน) ดังนี้
- กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต
- เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
- ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล
- ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "เงินเด็ก"
ผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน
ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด กรมกิจการเด็กและเยาวชน โทร 08 2091 7245, 08 2037 9767, 08 3431 3533, 06 5731 3199 หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อแนะนำการรับ เงินอุดหนุนบุตร เดือนพฤษภาคม 2567
- หมั่นตรวจสอบข้อมูลของท่านในระบบตรวจสอบสิทธิเป็นประจำ
- หากมีการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ของท่าน ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขข้อมูลของท่านให้เป็นปัจจุบัน (เพื่อการติดตามของเจ้าหน้าที่จะได้รวดเร็ว)
- หมั่นตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินอุดหนุนของท่าน ว่าใช้งานได้หรือไม่
เบี้ยยังชีพ เบี้ยผู้สูงอายุ เดือนพฤษภาคม 2567
สำหรับ เบี้ยยังชีพ เบี้ยผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะโอนเข้าบัญชีผู้มีสิทธิ ในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567 ซึ่งยึดหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน และหากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการ จะจ่ายเงินเด็กแรกเกิดเข้าบัญชีล่วงหน้าก่อนวันหยุดนั้นเอง
โดยปัจจุบันมีการจ่ายเบี้ยยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุเป็นรายเดือนตามช่วงอายุ โอนให้ภายในวันที่ 10 ของทุกเดือน ดังนี้
- อายุ 60 – 69 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 600 บาท/คน/เดือน
- อายุ 70 – 79 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 700 บาท/คน/เดือน
- อายุ 80 – 89 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 800 บาท/คน/เดือน
- อายุ 90 ปี ขึ้นไป จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 1,000 บาท/คน/เดือน
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพ ดังนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3. มีอายุหกสิบปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
4. เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุ แห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด
ขั้นตอนการลงทะเบียนรับสิทธิเบี้ยยังชีพ
ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 59 ปีบริบูรณ์สามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ของปีนั้น และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปีถัดไป ก็จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ต.ค. ในปีนั้น ๆ โดยสามารถไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพด้วยตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.ของทุกปี
ทั้งนี้ผู้สูงอายุสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ของทุกปี เป็นต้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 ก.ย. – 1 ต.ค.ของปีนั้น ๆ จึงจะลงทะเบียนล่วงหน้าได้ โดยเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพถัดจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปี นั่นก็คือ เดือน ต.ค. ปีนั้น ซึ่งก็คือ อายุครบ 60 ปีเดือน ต.ค.2565 นั่นเอง
หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ
1. กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด
2. กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่ม คือ
- หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด
ขั้นตอนการยื่นขึ้นทะเบียน
การยื่นขึ้นทะเบียนและแนวทางการปฏิบัติของผู้สูงอายุ ประกอบด้วย
ประกาศและประชาสัมพันธ์ให้ผู้สูงอายุทราบสิทธิของตนเอง
ลงทะเบียนตามวัน เวลา สถานที่ที่กำหนด (ในวันและเวลาราชการ)
ให้ผู้สูงอายุลงทะเบียนได้ตามแบบรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ด้วยตนเอง
สถานที่ในการขึ้นทะเบียน
- จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต
- กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
- อบต.(องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือ เทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
ทั้งนี้ การรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน
ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารจากกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพิ่มเติมได้ที่ dop.go.th หรือโทร. 02-642-4336