“มวยไทย” Soft Power ระดับโลก หนุนสร้างมาตรฐาน เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ

หากนึกถึงกีฬาที่เป็นทั้ง Hard Power และSoft Power ของไทย คงไม่พ้น “มวยไทย” ศิลปะการต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติมาอย่างยาวนาน ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชาติไทยปรากฏศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้ทั่วทุกภูมิภาค และมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป

ปัจจุบันมวยไทยได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ มีการจัดการแข่งขันชกมวยไทยในระดับอาชีพโดยการควบคุมของสภามวยไทยโลก (World Boxing Council Muaythai) หรือ WBC มวยไทย และจัดตั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย เช่น สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (International Federation of Muaythai Associations) หรือ IFMA ผลักดันมวยไทยเข้าสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

ขณะที่ องค์การสหประชาชาติ (United Nation) ได้ให้การยอมรับมวยไทยเป็นกีฬาแห่งประชาคมโลก ด้วยการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับสภามวยไทยโลก และสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติอีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ส่องตลาดมวยไทยในสหรัฐ มูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์

‘มวยไทย’ Soft Power มีดีมากกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ โดนใจชาวต่างชาติ

มวยไทยสร้างรายได้แสนล้านบาท

 รัฐบาลชุด “เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี” มุ่งสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการผลักดันอุตสาหกรรม Soft Power ไทยให้เติบโต เพื่อยกระดับทักษะขั้นสูงแก่แรงงานไทย พร้อมต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงาน THACCA SPLASH - Soft Power Forum 2024 เมื่อวันที่ 28 - 30 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสความสนใจจากประชาชนชาวไทยจำนวนมาก ควบคู่กับการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างพื้นที่การรับรู้ให้ Soft Power ไทย

นับเป็นก้าวสำคัญในการผลักดัน 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยสู่เวทีระดับโลก ตั้งเป้า 4 ปี สร้างตัวเลขเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านบาท โดยในสาขากีฬานั้น จะการผลักดัน “มวยไทย”  สู่เวทีโลก โดยจะสร้างบุคลากรทางมวย มีผู้ผลิตสินค้ามวยขายทั้งในประเทศ และส่งออก ผลักดันให้คนเข้าถึงกีฬา-กิจกรรมที่เกี่ยวกับมวยไทยมากขึ้น

ข้อมูลจากการกีฬาแห่งประเทศไทย  พบว่า "ค่ายมวย" ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในประเทศไทย มีทั้งหมด 273 ค่าย (ข้อมูลวันที่ 10 พ.ค.2565) ขณะที่ปัจจุบันมีค่ายมวยไทยเปิดสอนมากกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศ ในต่างประเทศมียิมที่เปิดการฝึกสอนมวยไทยเกือบ 4,000 แห่งทั่วทวีปยุโรป  และมียิม,ค่ายมวยไทย ประมาณ 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งยิมเหล่านี้มีความต้องการอุปกรณ์การฝึกมวยไทย ครูมวยไทย อย่างสูง 

แม้ตัวเลขจะไม่ปรากฏชัดเจนว่าธุรกิจยิมมวยไทยในยุโรปมีมูลค่าเท่าใด  แต่หากเทียบกับจำนวนยิมในไทยที่สร้างรายได้รวมมากกว่าแสนล้านบาท ธุรกิจยิมมวยไทยในยุโรปได้คาดการณ์ตัวเลขไว้มากกว่า 2 แสนล้านบาท

 

 

มวยไทย-ครูมวยต้องได้มาตรฐาน

ตุลย์ ผิวทองงาม ผู้บริหารบริษัท กำปั้น มวยไทย จำกัด ,ผู้ฝึกสอนกีฬามวยไทยอาชีพ c-licensed ระดับ 3 และกรรมการศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เล่าว่าเป็นครูมวยไทยมาหลายปี จนได้เข้าร่วมการทดสอบ ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรผู้ฝึกสอนมวยไทยอาชีพ ระดับ C – License ของการกีฬาแห่งประเทศไทย และเปิดบริษัท กำปั้น มวยไทยมากว่า 3 ปี ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจมวยไทยนั้น เกิดจากการออกกำลังกาย ตอนนั้นเราอยากแข็งแรง มีสุขภาพที่ดี และมิติของมวยไทย ไม่ใช่เพียงการออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการแข่งขัน และเป็นอาชีพได้ จึงได้เริ่มจัดการแข่งขัน และทำเป็นธุรกิจ

“ค่ายมวยของผม ได้รับการรับรองมาตรฐาน จากการกีฬาแห่งประเทศไทย และครูมวยจะผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรผู้ฝึกสอนมวยไทยอาชีพ ระดับ C – License ทุกคน เพื่อเป็นมาตรฐาน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ที่สนใจจะมาเล่นกีฬามวยไทย โดยปัจจุบันมีครูมวยไทยที่เป็นอดีตนักมวย และบางคนยังเป็นนักมวยอยู่ ประมาณ 8o และเป็นนักวิทยาศาสตร์การกีฬา 2 คน ซึ่งจะมีผู้มาเล่นมวยไทย หรือฝึกหัดมวยไทยตั้งแต่อายุ 5 ขวบไปจนถึงกลุ่มคน 50 กว่า ส่วนใหญ่ที่ยิมจะเป็นผู้หญิงมาเล่นมากกว่า 80%” ตุลย์ กล่าว

ค่ายกำปั้น มวยไทย ได้รับมาตรฐานในทุกๆ ด้าน เพราะเราต้องการให้คนที่มาเรียนมวยไทย ไม่ใช่เรียนตามกระแส หรืออยากออกกำลังกายเท่านั้น แต่อยากให้เรียนรู้ ศึกษาและมีทักษะการป้องกันตัว ได้รู้เกี่ยวกับมวยไทย และอยากเล่น อยากชกจริงๆ

ตุลย์ เล่าต่อว่าค่ายกำปั้นมวยไทย จะมีผู้หญิงมาต่อยมวยมากกว่าผู้ชาย ซึ่งน่าจะมาจากผู้หญิงสนใจเรื่องการต่อสู้ อยากเรียนไว้เพื่อป้องกันตัวเอง หรือชาเลนตัวเองว่าทำได้หรือไม่ และการชกมวยเพียงประมาณครึ่งชั่วโมง สามารถเบิร์นแคลอรีได้ถึง 400-500 Cal ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่ากีฬาชนิดอื่นๆ ผู้หญิงถึงให้ความสนใจเรียนหรือมาเล่นกีฬามวยไทยค่อนข้างมาก อีกทั้งทางค่ายเองก็มีการคัดเลือกให้ได้ไปชกแข่งขันจริงๆ หากสนใจอยากแข่งขัน

Soft Power ภาครัฐหนุนมวยไทยจริงจัง

ปัจจุบันค่ายกำปั้น มวยไทย มี 2 สาขาขอนแก่น และสาขาเดอะ มอลล์ โคราชชั้น 2 ซึ่งเปิดรับทุกเพศ ทุกวัย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ซึ่งหลังจากประเทศไทยผลักดันมวยไทยให้เป็น Soft Power ผู้คนให้ความสนใจในกีฬานี้มากขึ้น จากเดิมที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว

ตุลย์ เล่าต่อไปว่าจริงๆ มวยไทยเป็น Hard Power ที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอยู่แล้ว ซึ่งการผลักดันให้เป็น Soft Power ทำให้หน่วยงานภาครัฐสนใจมากขึ้น เพราะต่อให้ไม่ดันเป็น Soft Power คนที่ชื่นชอบกีฬามวยไทย ก็มาเล่น มาต่อยมวยเพื่อการออกกำลังกายอยู่แล้ว เช่นเดียวกับชาวต่างชาติที่สนใจกีฬามวยไทยมาอย่างยาวนาน

“ค่ายของเราอาจจะมีชาวต่างชาติไม่เยอะ มีเพียง 10-15% เท่านั้น การผลักดันมวยไทยเป็น Soft Power ซึ่งจริงๆ เป็น Hard Power อยู่แล้วนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะช่วยให้เกิดการโปรโมต และพูดถึงมากขึ้น แต่ทั้งนี้ สิ่งที่ภาครัฐต้องสนับสนุนอย่างจริงจัง คือ การสร้างมาตรฐานทั้งในเรื่องของค่ายมวย และครูมวยไทย เพื่อให้เกิดความมั่นใจในกีฬานี้มากขึ้น อีกทั้งในส่วนของชาวต่างชาติ จะใช้เป็นวีซ่าในการขออยู่ประเทศไทย เพื่อเรียนมวยไทยได้ การที่ภาครัฐส่งเสริมการตั้งศูนย์ทดสอบเรื่องมาตรฐานแรงงาน ช่วยให้นักกีฬาชาวต่างชาติ ได้วีซ่าที่อยู่การเรียนเพิ่มมากขึ้น”ตุลย์ กล่าว

สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยไทย ได้ให้การสนับสนุนเรื่องนี้อย่างชัดเจน โดยค่ายมวย หรือ ครูมวยคนไทยที่ได้รับรองมาตรฐาน จะได้รับงบประมาณส่งเสริมจัดซื้ออุปกรณ์ หรือปรับปรุงสถานที่ รวมถึงการอบรมภาษา หรือหลักสูตรใหม่ๆ  และโปรโมตในเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อให้เข้าถึง และสร้างความมั่นใจให้แก่คนไทย และชาวต่างชาติมากขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจอยากฝึกมวยไทย หรือออกกำลังกาย เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ สามารถติดตามได้ที่ เพจ Gumpun Muaythai 

ทุกมิติมวยไทย เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้

ตุลย์ เล่าอีกว่า มวยไทย ไม่ได้มีเพียงการชกมวย หรือการแข่งขันเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเสน่ห์ ทั้งเรื่องของการไหว้ครู โดยเฉพาะมวยโบราณ ที่แต่ละพื้นที่จะมีเอกลักษณ์ความสวยงามแตกต่างกันออกไป และเครื่องแต่งกายเกี่ยวกับมวยไทย อุปกรณ์มวย สินค้ามวยต่างเป็น Soft Power เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้

“มวยไทยไม่ได้รุนแรงเสมอไป แต่เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีรูปแบบสวยงาม มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน สำหรับท่วงท่า ไม่ว่าจะเป็น การตั้งรับ หรือการรุก ก็สวยงาม มีเสน่ห์ และเป็นศิลปะป้องกันตัวได้ ดังนั้น ควรจะมีการส่งเสริมให้เกิดการเรียนมวยไทยในโรงเรียน เพราะหากพ่อ แม่ ผู้ปกครอง มีมุมมองใหม่กับมวยไทยว่าไม่ได้มีมิติเดียวคือ การชกต่อย หรือความรุนแรง แต่เป็นศิลปะป้องกันตัว หรือการออกกำลังกาย รวมถึงเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สวยงาม จะทำให้เกิดการยอมรับ และอนุรักษ์มวยไทยต่อไปได้ ขณะเดียวกันค่ายมวยไทยต้องมีแผนในการพัฒนาให้ได้รับมาตรฐานมากขึ้น เพื่อสร้างชื่อเสียง และความเชื่อมั่นให้แก่ชาวไทย และต่างชาติ" ตุลย์ กล่าว

หนุนมวยไทยรากหญ้า สร้างอาชีพ-รายได้

ด้าน พ.ต.ท.สมพร ภูมิภัทร หัวหน้าค่ายมวย ส.ภูมิภัทร จ.นครศรีธรรมราช เล่าว่า เปิดค่ายมวยมาแล้ว 10 กว่าปี ซึ่งจุดเริ่มต้นที่สนใจเปิดค่ายมวยนั้น เริ่มจากการจัดการแข่งขันมวยไทย และเราอยากให้เด็กๆ ในชุมชนได้มีกิจกรรมทำ ซึ่งการต่อยมวย นอกจากเป็นกีฬาให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกายแล้ว ยังทำให้พวกเขาห่างไกลยาเสพติด สิ่งที่เป็นอบายมุข และสามารถเป็นอาชีพให้แก่พวกเขาได้ 

"เราเป็นมวยรากหญ้า โดยเปิดโอกาสให้เด็ก และเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ครอบครัวยากจนมาเริ่มเรียนมวย และฝึกหัดมวยไทย หากใครสนใจก็สามารถต่อยอดเป็นการชกมวยอาชีพ ฉะนั้น การที่ภาครัฐมาสนับสนุนมวยไทยให้กลายเป็น Soft Power ถือเป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยก็ได้รับการดูแลจากภาครัฐมากขึ้น เพราะโดยสภาพความเป็นจริง มวยรากหญ้า ไม่ค่อยได้รับการส่งเสริม หรือสนับสนุนจากภาครัฐ ส่วนใหญ่ได้รับงบประมาณ หรือการสนับสนุนจากผู้นำท้องถิ่นเล็กๆ เมื่อรัฐบาลผลักดันให้มวยไทยเป็น Soft Power หน่วยงานรัฐก็สนใจเรื่องนี้มากขึ้น" พ.ต.ท.สมพร กล่าว

หลายครั้งที่รัฐบาล หรือหน่วยงานรัฐจัดการแข่งขันมวยไทย และใช้งบประมาณจำนวนมากแต่นั้น ไม่ได้ทำให้เกิดการพัฒนาอาชีพมวยไทยจริงๆ 

พ.ต.ท.สมพร เล่าต่อว่าค่ายมวยไทยมีส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ได้รับรองมาตรฐาน และการกีฬาแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนงบประมาณ หรืออบรมให้ความรู้ แต่ค่ายมวยส่วนใหญ่จะใช้ทุนของตัวเอง ของเจ้าของค่าย หรือสปอนเซอร์ ทั้งที่จริงๆ แล้วหน่วยงานภาครัฐสามารถสนับสนุนงบประมาณหรือพัฒนาได้มากกว่านี้ เพราะมีข้อมูลพื้นฐานว่าแต่ละพื้นที่ แต่ละค่ายต้องได้รับการผลักดันอย่างไรบ้าง

"มวยไทย เป็นสิ่งที่หากได้เรียนรู้ ฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กๆ จะทำให้เกิดความผูกพัน และต่อยอดเป็นอาชีพได้ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กในพื้นที่ได้ ตอนนี้สิ่งที่ภาครัฐควรทำคือ การดูแลค่ายมวย และครูมวยให้ได้รับการสนับสนุนส่งเสริม ทั้งอุปกรณ์ หรือทักษะภาษา ไม่ควรจะทำให้เป็นนโยบายเลื่อนลอยที่นึกถึงผลประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ "พ.ต.ท.สมพร กล่าวทิ้งท้าย

หากใครสนใจออกกำลังกาย หรือฝึกฝนหัดมวยไทย สามารถติดตามได้เพจ สนามมวย Pumipat Stadium และ ค่ายมวย ส.ภูมิภัทร 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์