อยากอายุยืน? ลองดื่ม “ชาดำ” 2 ถ้วยต่อวัน ลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้ 13%
อยากอายุยืนต้องลองดื่ม "ชาดำ" งานวิจัยจากสหราชอาณาจักรชี้ว่า การดื่มชาดำ (Black Tea) วันละ 2 ถ้วย มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมองได้ 13%
คนชอบดื่มชาถูกใจสิ่งนี้ เมื่องานวิจัยจากสหราชอาณาจักรชี้ชัดว่า ผู้ที่ดื่ม “ชาดำ” 2-3 ถ้วยต่อวัน จะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตลดลง 9-13% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มชา
โดย UK Biobank (ธนาคารชีวภาพของสหราชอาณาจักร) ซึ่งเป็นแหล่งฐานข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับประชากรเกือบครึ่งล้านคนในสหราชอาณาจักร ได้เปิดเผยงานวิจัยล่าสุดจากวารสารการแพทย์ “Annals of Internal Medicine” ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการดื่ม ชาดำ 2-3 ถ้วยต่อวัน อาจเชื่อมโยงกับการ "ลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต" จากโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง ได้ถึง 9-13% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มชา
อีกทั้ง ไม่ว่าคุณจะเติมนมหรือน้ำตาลลงในน้ำชา หรือจะดื่มชาในอุณหภูมิใดๆ ก็ตาม ก็จะให้ผลลัพธ์เหมือนกัน และไม่เกี่ยวกับการแปรผันทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อความสามารถในการรับคาเฟอีนของแต่ละบุคคลด้วย พูดง่ายๆ ว่า ไม่ว่าคุณจะดื่มชาแบบไหนก็ตาม (คนยุโรปบางคนก็ดื่มชาร้อนธรรมดา บางคนดื่มชาร้อนใส่นมและน้ำตาล) ตราบเท่าที่ดื่มชา 2 ถ้วยต่อวันก็จะได้รับประโยชน์ดังเดิม
งานวิจัยชิ้นดังกล่าวได้ทำการทดลองกับประชากรหญิงและชายในสหราชอาณาจักรเกือบ 500,000 คน โดยมีอายุระหว่าง 40-69 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ระบุว่าพวกเขาดื่มชาเป็นประจำ ในจำนวนนี้ 89% กล่าวว่าพวกเขาดื่มเฉพาะชาดำ
เฟอร์นันโด โรดริเกซ อาร์ตาเลโฮ ศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ป้องกันและสาธารณสุขที่มหาวิทยาลัยอิสระแห่งมาดริด อธิบายว่า งานวิจัยนี้เป็นตัวแทนของความก้าวหน้าอย่างมากในสาขานี้
เขายังบอกอีกว่าการศึกษาเรื่องการดื่มชาส่วนใหญ่ดำเนินการในเอเชีย ซึ่งพบว่าชาวเอเชียมีการบริโภค “ชาเขียว” กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด ส่วนในพื้นที่อื่นๆ นอกทวีปเอเชียนั้น มีไม่กี่แห่งที่บริโภคชาเขียว กลุ่มทดลองเล็กเกินไปและไม่สามารถสรุปผลลัพธ์ได้ชัดเจน นั่นจึงเป็นที่มาของการศึกษาผลดีของ “ชาดำ” ในกลุ่มผู้บริโภคชาในทวีปอื่นๆ บ้าง
งานวิจัยชิ้นนี้จึงเน้นศึกษาผลลัพธ์ของการบริโภค “ชาดำ” ชาที่บริโภคกันอย่างแพร่หลายที่สุดในยุโรปโดยเฉพาะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การบริโภคชาดำเป็นประจำ สามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดในวัยกลางคนได้
แต่อย่างไรก็ตาม การวิจัยดังกล่าวไม่ได้ระบุข้อมูลครอบคลุมถึงความเข้มข้นของคาเฟอีนในชาดำแต่ละยี่ห้อในท้องตลาด
ขณะที่หนึ่งในนักวิจัยครั้งนี้อย่าง Maki Inoue-Choi นักระบาดวิทยาจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้กล่าวผ่านเว็บไซต์ time.com ไว้ว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคชากับอัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ อาจขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคชากับการตายจากทุกสาเหตุ
และแม้ว่าการค้นพบนี้อาจกระตุ้นให้ผู้คนดื่มชาจมากขึ้น แต่ผู้บริโภคก็ไม่ควรเพิ่มจำนวนชาที่ตนเองดื่มทุกวันให้มากขึ้นตามผลลัพธ์ของงานวิจัยดังกล่าว แต่ควรดื่มให้พอดีกับร่างกายของตนเองจะเหมาะสมที่สุด”
----------------------------------------
อ้างอิง : acpjournals.org, Independent, theguardian