ส่องเทรนด์ ผ่าตัดแก้ไข "หนังตาตก" ตาสองชั้น ยอดนิยมต่อเนื่อง

ส่องเทรนด์ ผ่าตัดแก้ไข "หนังตาตก" ตาสองชั้น ยอดนิยมต่อเนื่อง

“หนังตาตก” นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนมีความกังวล มักเกิดขึ้นในช่วงอายุที่มากขึ้น 35 ปีขึ้นไป ปัจจุบัน พบว่าหลายคนเลือกผ่าตัดแก้ไขหนังตาซึ่งมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีตาชั้นเดียว ชั้นตาไม่ชัด ตาสองชั้นหลบใน และ กลุ่มที่หนังตาตกตามวัย ซึ่งอาจส่งผลต่อการมองเห็น

ที่ผ่านมา การผ่าตัดเปลือกตา ยกคิ้ว เรียกได้ว่าได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 และแม้ตลาดศัลยกรรมจะเจอวิกฤติการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ตัวเลขการผ่าตัดเสริมความงามปรับตัวลดลง แต่การทำศัลยกรรมจมูกและผ่าตัดยกคิ้วยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

ผลสำรวจจาก สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยนานาชาติ (International Society of Aesthetic Plastic Surgery) หรือไอเอสเอพีเอส เผยว่า การผ่าตัดเสริมความงามที่พบมากที่สุดทั่วโลก ในปี 2563 มีผู้เข้ารับการเสริมหน้าอกคิดเป็นสัดส่วน 16% ของการผ่าตัดทั้งหมด ส่วน 15.1% เป็นการดูดไขมัน, 12.1% เป็นการผ่าตัดเปลือกตา, 8.4% เป็นการผ่าตัดเสริมจมูก และ 7.6% เป็นการทำหน้าท้อง

 

ขณะที่ การเสริมความงามแบบไม่ผ่าตัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ การฉีดโบท็อกซ์ (43.2%), กรดไฮยาลูโรนิก (28.1%), การกำจัดขน (12.8%), การลดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด (3.9%) และเลเซอร์ฟื้นฟูสภาพผิว (3.6%) โดยการเสริมความงามแบบไม่ผ่าตัดนั้นมีลูกค้าเป็นผู้หญิงประมาณ 85% จากทั้งหมด

 

“นพ.วิทวัส อังคทะวานิช” ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง โรงพยาบาลยันฮี เผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า สำหรับที่ รพ.ยันฮี ลูกค้าที่นิยมผ่าตัดหนังตาตกส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย และมีต่างชาติบางส่วน โดยความนิยมทำตามีทุกประเทศเพราะเมื่ออายุเริ่มเยอะหนังตาก็จะเริ่มหย่อน รวมถึงชาวจีน ขณะเดียวกัน หลังจากจีนเปิดประเทศ แนวโน้มจะเริ่มเห็นในช่วงเดือนหน้า คาดว่าลูกค้าชาวจีนจะมีมากขึ้น เพราะเริ่มเดินทางกันได้ ซึ่ง รพ.ยันฮี มีความพร้อมทั้งระบบและล่ามแต่ละประเทศรองรับ

 

ส่องเทรนด์ ผ่าตัดแก้ไข \"หนังตาตก\" ตาสองชั้น ยอดนิยมต่อเนื่อง

 

หนังตาตก อาจเกิดจากกล้ามเนื้อตา

 

เรื่องของ การผ่าตัดหนังตา มี 2 กรณี คือ กลุ่มที่อยากมีตาสองชั้นที่ชัดขึ้น ตั้งแต่อายุยังน้อยราว 20 ปีขึ้นไป จนถึงอายุเยอะ และอีกกรณี คือ เมื่ออายุเยอะขึ้น จะมีหนังเปลือกตาที่เกิน เริ่มหย่อนลงมา ทำให้เกิดความรำคาญ หากหย่อนลงมามากๆ อาจจะบดบังการมองได้ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอายุที่มากขึ้นราว 35 ปีขึ้นไป

 

นพ.วิทวัส อธิบายต่อไปว่า สิ่งสำคัญ คือ การให้แพทย์ประเมินก่อนผ่าตัด เพราะบางคนรู้สึกว่าหนังตาตก แต่ความจริงเกิดจากกล้ามเนื้อตาข้างในที่ไม่มีแรงเต็มที่ ซึ่งกรณีนี้ อาจจะเป็นการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาข้างในมากกว่า เพราะหากในบางคนเกิดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แต่ไปทำหนังตาเฉยๆ ก็อาจจะไม่แก้ปัญหา

 

ทั้งนี้ หากคนไข้เข้าปรึกษาแพทย์ศัลยกรรม และพบว่าเป็นเพราะกล้ามเนื้อจะต้องส่งต่อให้แพทย์อายุรกรรมระบบประสาทดู เพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรง มี 2 กลุ่ม คือ การรักษาด้วยการผ่าตัดให้กล้ามเนื้อที่ไม่มีแรง ให้มีแรงมากขึ้น และ อีกกรณี คือ โรคทางอายุรกรรม ที่เกิดจากสารบางตัวลดน้อยลง บางคนจะต้องรักษาด้วยยา ไม่ใช่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตลอดเวลา เช่น ช่วงเช้าอาจจะมีแรง ลืมตาได้เต็มที่ แต่ช่วงสายๆ ตาจะเริ่มไม่มีแรง

 

อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าก่อนจะทำควรจะหาข้อมูลให้ดี พิจารณาข้อดีข้อเสีย ข้อจำกัดของแต่ละคน และดูว่าสิ่งที่อยากทำจะได้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหน เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ รวมถึงเตรียมตัวให้พร้อมก่อนผ่าตัด เพราะการผ่าตัดบางครั้งอาจจะแก้ไขยาก หรืออาจจะไม่เหมือนครั้งแรก ดังนั้น ต้องหาข้อมูลให้ดีก่อนก่อนตัดสินใจทำ” นพ.วิทวัส กล่าว

 

ส่องเทรนด์ ผ่าตัดแก้ไข \"หนังตาตก\" ตาสองชั้น ยอดนิยมต่อเนื่อง

 

 

 

เตรียมพร้อมก่อนผ่าตัด

 

สำหรับเตรียมพร้อมร่างกายก่อนการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตก หากมีโรคประจำตัวโดยเฉพาะคนอายุมาก เช่น ความดัน เบาหวาน จะต้องควบคุมความดันหรือระดับน้ำตาลให้ได้ หากมีการทานวิตามินอาหารเสริม เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี พริมโรส โสม เป็นต้น อาจจะต้องหยุดทานก่อนผ่าตัดราว 1 สัปดาห์ เพื่อให้หมดฤทธิ์ของอาหารเสริมเหล่านี้เพราะจะทำให้เลือดหยุดยาก

 

หากคนที่ทานยาละลายลิ่มเลือด ควรแจ้งกับแพทย์ เนื่องจากยากลุ่มนี้ จะมีผลต่อการผ่าตัด ทำให้เลือดหยุดยาก หรือแทบจะไม่หยุด ดังนั้น จึงต้องหยุดทานก่อนผ่าตัด แต่จะต้องดูว่าหยุดยาได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับโรคที่มีอยู่ด้วย อาจจะต้องให้แพทย์ที่รักษาพิจารณาร่วมด้วย เนื่องจากบางคนมีปัญหาหลอดเลือดหัวใจอุดตัน หรือ หลอดเลือดสมองอุดตัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ในบางเคสแพทย์อาจจะไม่อยากให้หยุดทาน เพราะจะมีปัญหากับโรคเดิมที่เป็น แต่หากหยุดไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็จะลำบากในการผ่าตัดเพราะอยู่บริเวณใกล้ตา

 

การผ่าตัดหนังตาตกถือเป็นการผ่าตัดเล็ก ใช้การฉีดยาชา แต่อาจจะมีการให้ยานอนหลับอ่อนๆ แล้วค่อยฉีดยาชา ระยะเวลาในการผ่าตัดราว 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละเคส ในกลุ่มที่อายุเยอะ หนังตาเยอะ อาจจะต้องเอาหนังตาที่เกินออกมาก ใช้เวลาในการผ่าตัดนานกว่า ซึ่งปัจจุบัน ก็มีเทคนิคของแพทย์แต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นแผลยาว แผลสั้น หรือใช้เย็บ 3 จุดไม่ได้กรีด ขึ้นอยู่กับลักษณะตาของแต่ละบุคคลด้วยว่าจะใช้เทคนิคนั้นๆ ได้หรือไม่

 

ส่องเทรนด์ ผ่าตัดแก้ไข \"หนังตาตก\" ตาสองชั้น ยอดนิยมต่อเนื่อง

 

คิ้วตกมาก แก้ได้ด้วยการยกคิ้ว 

 

ขณะที่ การ “ยกคิ้ว” ซึ่งปัจจุบันก็พบว่ามีหลายเทคนิคไม่ว่าจะเป็นผ่าใต้คิ้ว หรือ ดึงและซ่อนแผลไว้ที่ไรผม อย่างไรก็ตาม ก่อนทำต้องให้แพทย์ประเมินก่อนว่าคนไข้แต่ละคนมีปัญหาเรื่องของคิ้วหย่อนร่วมด้วยหรือไม่ เพราะบางคนที่มีปัญหาคิ้วตกมากๆ อาจจะต้องเริ่มต้นจากยกคิ้วที่ตกขึ้นไป

 

“การยกคิ้ว มีอยู่ 2-3 วิธี เช่น ดึงจากด้านบนซ่อนแผลไว้ในไรผมก็จะไม่เห็นแผล เรียกว่าดึงหน้าผาก ดึงคิ้วยกไปพร้อมกันเป็นการแก้ทั้งหมดที่ต้นเหตุ เพราะต้นเหตุมาจากข้างบนหย่อนลงมา ถัดมา คือ ลงแผลใต้คิ้ว เหมือนเอาหนังบางส่วนที่เกินออก มีแผลใต้คิ้วกับแผลเหนือคิ้ว ก็จะมีลักษณะของแผลเป็น เนื่องจากแผลจะอยู่บริเวณคิ้ว แต่บางคนแผลหายดีอาจจะไม่ค่อยเห็นชัด หรืออาจใช้วิธีสักคิ้ว เขียนคิ้วทับ”

 

ดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

 

นพ.วิทวัส อธิบายต่อไปว่า หลังผ่าตัด 3-4 วันแรก จะเป็นวันที่บวมมากที่สุด หลังจากนั้นจะค่อยๆ ยุบลง ซึ่งจะแนะนำให้ประคบเย็นเยอะๆ และนอนหนุนหมอนให้หัวสูงเพื่อให้ยุบได้เร็วขึ้น คอยเช็ดทำความสะอาดแผลไม่ให้มีคราบเลือดติด ขณะที่ยาทาน ส่วนใหญ่จะเป็นยาฆ่าเชื้อ ยาลดปวด ลดบวม และตัดไหมราว 5-7 วัน โดยในช่วงแรกอาจจะมีอาการบวมๆ ยุบๆ ไม่ต้องตกใจเพราะกว่าจะเข้าที่ก็ใช้เวลาเป็นเดือนเช่นกัน อีกทั้ง แนะนำว่าอย่าเพิ่งออกกำลังกายมากในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก