'แม่ฮ่องสอน' ยังครองอันดับ 1 'จุดความร้อน' สูงสุดในประเทศ
GISTDA เผย "จุดความร้อน" ทั่วไทย 613 จุด "แม่ฮ่องสอน" ยังครองอันดับ 1 พบมากในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนแห่งชาติ
.
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) ไทยพบ "จุดความร้อน" วานนี้ ของวันที่ 19 มีนาคม 2566
- ไทยพบจุดความร้อน จำนวน 613 จุด
- ประเทศลาวจุดความร้อนยังคงนำอยู่ที่ 1,505 จุด
- ประเทศกัมพูชา 857 จุด
- สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ 836 จุด
- ประเทศเวียดนาม 419 จุด
- ประเทศมาเลเซีย 53 จุด
"จุดความร้อน" ในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้น
- ป่าอนุรักษ์ 177 จุด
- ป่าสงวนแห่งชาติ 177 จุด
- พื้นที่เกษตร 121 จุด
- พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 74 จุด
- พื้นที่เขต สปก. 58 จุด
- ริมทางหลวง 6 จุด
จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ
- แม่ฮ่องสอน 107 จุด
- กาญจนบุรี 52 จุด
- นครสวรรค์ 41 จุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ปภ. เตือน 17 จังหวัด เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง
- ค่าฝุ่น PM 2.5 กทม. เช้านี้ ไม่เกินมาตรฐาน 'คุณภาพอากาศ' ดี
- กรมอุตุฯ 'พยากรณ์อากาศ' อากาศร้อน ฟ้าหลัวตอนกลางวัน เหนือพายุฝนฟ้าคะนอง 30%
สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและ "จุดความร้อน" คือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม
ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่