'ฮีทสโตรก' โรคลมร้อน อันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่ป้องกัน

'ฮีทสโตรก' โรคลมร้อน อันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่ป้องกัน

แพทย์ฯ เผย ฮีทสโตรก Heat Stroke ภาวะวิกฤต หากปล่อยทิ้งไว้ ให้มีอาการหรือร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ รักษาล่าช้า อันตรายถึงชีวิต

โรคลมร้อน หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke) เป็นภาวะวิกฤตที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวหรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกายได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้เกิดอาการปวดศีรษะ หน้ามืด เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช็อก

 

นพ. กิตติภูมิฐ์ กวินโชติไพศาล แพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ศูนย์บริการผู้ป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ (Emergency Room) โรงพยาบาลนวเวช ได้อธิบายความรู้ในเรื่องของ โรคลมร้อนหรือ ฮีทสโตรก Heat Stroke ว่า หากปล่อยทิ้งไว้ ให้มีอาการหรือร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ ซึ่งหากได้รับการรักษาที่ล่าช้า ก็มีอันตรายถึงชีวิตได้

 

อาการของ ฮีทสโตรก

  • ไข้สูง 40 องศาเซลเซียส
  • ปวดศีรษะ หน้ามืด อ่อนเพลีย
  • อาการผิดปกติทางระบบประสาท เช่น ชักเกร็งกระตุก เพ้อ เดินเซ พูดจาสับสน หมดสติ
  • อาการผิดปกติทางระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้ความดันโลหิตต่ำ หายใจเร็ว มีการคั่งของของเหลวในปอด หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • อาการผิดปกติทางผิวหนัง ไม่สามารถระบายความร้อนได้ ไม่มีเหงื่อออก
  • อาการผิดปกติทางระบบขับถ่าย อาจพบปัสสาวะสีเข้มเนื่องจากภาวะกล้ามเนื้อสลายตัว
  • ทำให้เกิดภาวะไตวายตามมาได้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

สาเหตุการเกิด ฮีทสโตรก 

1. Classical Heat Stroke เกิดจากความร้อนในสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่มีมากเกินไป โดยมักเกิดในช่วงที่มีอากาศร้อน อยู่ในบ้านที่ปิดมิดไม่มีที่ระบายอากาศ พบบ่อยในผู้ที่มีอายุมากและมีโรคเรื้อรัง ไม่สามารถระบายความร้อนได้ด้วยตัวเอง เช่น ไม่สามารถไปในพื้นที่ที่เย็น หรือไม่สามารถหาน้ำดื่มเพื่อระบายความร้อนได้ อาการที่สำคัญ คือ อุณหภูมิร่างกายสูง ไม่มีเหงื่อ

 

2. Exertional Heat Stroke เกิดจากการออกกำลังที่หักโหมเกินไป มักจะเกิดในหน้าร้อนโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานและนักกรีฑา อาการคล้ายกับ Classical Heat Stroke โดยที่กลุ่มผู้ป่วยประเภทนี้จะมีเหงื่อออกมากต่อมาเหงื่อจะหยุดออก

 

"นอกจากนี้ยังพบการเกิดการสลายเซลล์กล้ามเนื้อลาย โดยจะมีอาการแทรกซ้อน ได้แก่ ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ และพบไมโอโกลบินในปัสสาวะ เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน หมดสติ ชักเกร็งกระตุก"

 

 

การปฐมพยาบาล ฮีทสโตรก

  • หากผู้ป่วยหมดสติ เรียกแล้วไม่ตอบสนอง ไม่หายใจ ให้ทำการโทรเรียกรถพยาบาล และทำการนวดหัวใจ (CPR)
  • หากผู้ป่วยที่ยังรู้สึกตัวที่ปกติอยู่ ให้นำผู้ป่วยเข้ามาในที่ร่ม ดื่มน้ำให้เยอะ ๆ รีบลดอุณหภูมิร่างกาย ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ ข้อพับ ขาหนีบ เปิดพัดลมเพื่อระบายอากาศ ร่วมกับการใช้การพ่นละออกน้ำเพื่อระบายความร้อน

 

 

การป้องกัน ฮีทสโตรก

  • ในสภาพอากาศที่ร้อน ควรเตรียมออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพให้เคยชินกับ สภาพอากาศที่ร้อน โดยควรออกกำลังกายกลางแจ้ง อย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง 4 วันต่อสัปดาห์
  • ควรดื่มน้ำบ่อยๆ วันละ 6-8 แก้วเป็นอย่างน้อย หากต้องทำงานอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อน หรือออกกำลังกายในสภาพที่ร้อน ควรดื่มใน้ำอย่างน้อย 1 ลิตรต่อชั่วโมง
  • หากจำเป็นต้องอยู่ในอาคารที่ร้อน ควรเปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อระบายอากาศ เปิดพัดลม อย่าอยู่ในที่อับหรือห้องที่ปิด
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน บาง น้ำหนักเบา เพื่อทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดี
  • หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดหรือออกกำลังกายกลางแจ้งในวันที่มีอากาศร้อนจัด
  • หลีกเลี่ยงทานยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก เนื่องจากทำใหร่างกายขับเหงื่อได้น้อยลง
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และยาเสพติดทุกชนิด
  • เด็กเล็กและผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองไม่ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องอาศัย อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ปล่อยให้อยู่ในรถที่ปิดสนิทตามลำพัง